เมื่อวันที่ 24 ก.ย. บีบีซีรายงานว่า เกิดความตกตะลึงในสังคมและโลกออนไลน์ของประเทศจีน หลังเกิดโศกนาฏกรรมวัยรุ่นสาวอายุ 16 ปี ก่อคดีฆาตกรรมแม่บังเกิดเกล้าของตัวเองด้วยการจับมัดกับเก้าอี้และให้อดข้าวอดน้ำจนเสียชีวิต ในมณฑลเหยหลงเจียง ก่อนที่วัยรุ่นสาวผู้นี้ ทราบเพียงชื่อสมมติว่า “เฉิน ซิน” จะเดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา
น.ส.เฉินระบุว่าทำไปเพราะความเคียดแค้นแม่ที่ส่งตนเข้าสู่สถานบำบัดพฤติกรรมวัยรุ่นและอาการเสพติดอินเตอร์เนต ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในหมู่เยาวชนจีน ทำให้ตนต้องทุกข์ทรมานนานหลายเดือน ซึ่งน.ส.เฉิน อ้างว่า สถาบันดังกล่าวใช้วิธีการประทุษร้ายร่างกาย ทุบตีผู้เข้ารับการรักษา และลงโทษอย่างทารุณ ส่งผลให้เกิดกระแสตอบโต้กันไปมาต่อประเด็นการเลี้ยงดูบุตรหลานของพ่อแม่ที่นิยมสถาบันประเภทนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่หน่วยงานจากกระทรวงศึกษาธิการของจีนเข้าสืบสวนกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว ส่วนสถาบันดังกล่าวปฏิเสธข้อกล่าวหาของน.ส.เฉิน แต่ไม่ยอมให้สื่อเดินทางเข้าตรวจสอบ
น.ส.เฉิน ระบุกับตำรวจว่า ตนถูกบีบบังคับและจับมัดโดยเจ้าหน้าที่ 2 คน ของสถาบันนี้ ก่อนถูกนำตัวขึ้นรถไปยังสถาบันดังกล่าวที่อยู่ในมณฑลชานตง ห่างจากบ้านของตนไปถึง 1,000 กิโลเมตร โดยตนถูกกักขังไว้ภายในสถาบันนานถึง 4 เดือน ภายในมีการทุบตีเด็กนักเรียนที่เข้ามารับการบำบัด บางคนถูกลงโทษให้รับประทานอาหารหน้าโถส้วม
หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นยังรายงานคำให้สัมภาษณ์ของบรรดาอดีตผู้เข้ารับการบำบัดสอดคล้องกันกับน.ส.เฉิน ว่าเคยถูกทุบตีเพราะไม่ทำตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ บางคนเคยถูกซ้อมจนช้ำไปทั้งตัวเพียงเพราะแอบพกมวนบุหรี่ บางคนเคยถูกลงโทษห้ามไม่ให้นอน และให้ยืนทั้งคืนจนรุ่งสาง คนหนึ่งระบุว่า พ่อแม่ของตนจ่ายเงินกว่า 30,000 หยวน หรือกว่า 155,000 บาท เพื่อส่งตนไปเข้ารับการบำบัดและต้องทนมีชีวิตอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรีความเป็นคนนานถึง 1 ปีเต็ม
ขณะที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวจีนมีทั้งผู้ที่ประณามพ่อแม่ที่ส่งลูกของตัวเองไปยังสถาบันประเภทดังกล่าวว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงกว่าเหตุ และว่าการใช้ความรุนแรงกับลูกไม่ใช่การแก้ไขที่ถูกต้อง อีกด้านหนึ่งแสดงความไม่เห็นด้วยกับน.ส.เฉินที่ลงมือฆ่าแม่ ว่าตนไม่สนับสนุนการฆ่าบุพการี และอีกส่วนหนึ่งมองว่า เรื่องที่เกิดถือเป็นโศกนาฏกรรมที่หน่วยงานรัฐต้องรีบเข้ามาดูแล
