พช.ร่วมกับสภาสตรีฯ ผนึกพลังกฟภ. ปลุกกระแสนิยม “ผ้าถิ่นไทย” สร้างภูมิปัญญายั่งยืน

พช. / วันที่ 16 ม.ค. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และนายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน”

โดยมีนายจาตุรงค์ สุขะเสน รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นำคณะผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ร่วมพิธีฯ ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคาร LED การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สำนักงานใหญ่ ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงรื้อฟื้นผ้าไทยตั้งแต่ พ.ศ.2513 ที่อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม ทรงให้ชาวบ้านทอผ้าเพื่อไปตัดชุดฉลองพระองค์และพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนให้ชาวบ้านเริ่มอาชีพทอผ้า ถือเป็นอาชีพเสริมจากการทำการเกษตรกรรม ด้วยความวิริยะอุตสาหะและพระปรีชาชาญของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงทำให้ผ้าไทยทั้งผ้าไหม ผ้าฝ้ายได้กลับคืนสู่สังคมไทย ได้รับความนิยมจากคนไทยและคนต่างชาติ

และโอกาสนี้ ขออันเชิญพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พระบรมราชินี ที่พระองค์ได้พระราชทานพระราชดำรัสในงานวันสตรีไทย เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2562 ดังว่า พระองค์จะสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระพันปีหลวง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้นต่อปวงชนชาวไทย ดังนั้น เพื่อสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง กรมฯ จึงได้จัดโครงการสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทยดำรงไว้ในแผ่นดิน

โดยการอนุรักษ์ ส่งเสริมและเผยแพร่ผ้าไทยศิลปะอันล้ำค่าของชาติให้ดำรงคงอยู่ปรากฏเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย และให้ชาวโลกได้ชื่นชม อีกทั้งเป็นการเชิดชูอัตลักษณ์คุณค่าผ้าท้องถิ่นให้คงอยู่คู่แผ่นดิน ตลอดจนเพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สนองตอบนโยบายของรัฐบาลในการลดความเหลื่อมล้ำกระจายรายได้สู่ชุมชน สร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ในเศรษฐกิจฐานรากระดับครัวเรือน ชุมชน เพื่อให้ประชาชนหลุดพ้นความยากจน สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ซึ่งอาชีพทอผ้าเป็นอาชีพที่ทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ประกอบอาชีพได้ที่บ้าน เป็นการลดปัญหาการย้ายถิ่นฐานได้อีกด้วย

ดร.วันดี กล่าวว่า สมเด็จพระพันปีหลวง ได้พระราชทานให้ทุกวันที่ 1 สิงหาคม เป็นวันสตรีไทย และได้พระราชทานหน้าที่ของสตรีไทย 4 ประการ คือ 1) เป็นแม่บ้านที่ดี 2) เป็นแม่ที่ดีของลูก 3) รักษาเอกลักษณ์ วัฒนธรรมไทย และ 4) พัฒนาปรับปรุงตนเองอยู่เสมอ ซึ่งภารกิจของสภาสตรีแห่งชาติฯ กิจกรรมหลักจะเป็นเรื่องของสตรี มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพอาชีพสืบสานโครงการตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

เมื่อได้ทำโครงการอนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทยดำรงไว้ในแผ่นดิน ทำให้เข้าใจถึงกรรมวิธีการผลิตการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นงานทรงคุณค่าและเป็นงานภูมิปัญญาที่สืบทอดสู่รุ่นหลาน ดังนั้น สภาสตรีฯ จึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้นมาและจับมือกับกรมการพัฒนาชุมชน เพื่อขับเคลื่อนให้คนไทยทั่วประเทศและทั่วโลก ซึ่งหากคนไทยร่วมใจกันแต่งกายด้วยผ้าทอไทยเป็นประจำทุกวัน เพียง 35 ล้านคน เฉลี่ยคนละ 10 เมตร จะทำให้เกิดความต้องการผ้าถิ่นไทย 350 ล้านเมตร ก่อให้เกิดการสร้างรายได้แก่ชุมชนคิดเป็นเงินกว่า 100,000 ล้านบาท นำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของกลุ่มอาชีพสตรีในชุมชนทั่วประเทศ อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาการว่างงาน ปัญหาการย้ายถิ่นฐาน และลดความเหลื่อมล้ำในสังคมได้ จึงขอเชิญชวนให้ทุกท่านได้ร่วมกันคืนคุณให้แผ่นดิน มาร่วมสวมใส่ผ้าไทยกันทุกวัน

นายสมพงษ์ กล่าวว่าสืบเนื่องจากพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการอนุรักษ์ส่งเสริมและเผยแพร่ผ้าไทย ศิลปะอันล้ำค่าของชาติให้ดำรงคงอยู่และให้ชาวโลกได้ชื่นชม ดังนั้น PEA กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทยและสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ จึงได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการสืบสานอนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทยดำรงไว้ในแผ่นดินร่วมกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเชิดชูอัตลักษณ์คุณค่าผ้าท้องถิ่น ยังส่งเสริมการสร้างงานสร้างอาชีพและเสริมสร้างรายได้ให้กับกลุ่มสตรีในท้องถิ่น ทั้งนี้ ในส่วนของ PEA จะได้รณรงค์ให้เจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ทั่วประเทศได้เป็นผู้นำในการร่วมกันสวมใส่ผ้าไทย ก็จะทำให้ความร่วมมือครั้งนี้ประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ และนำพาให้คนไทยเห็นความสำคัญของผ้าไทย เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชน

“โดยความร่วมมือครั้งนี้ กรมการพัฒนาชุมชน ขอขอบคุณในความกรุณาจากท่านผู้ว่าการ PEA ซึ่งท่านได้ให้ความสำคัญและพร้อมที่จะขับเคลื่อนรณรงค์การแต่งกายด้วยผ้าไทย สอดรับกับนโยบายการดำเนินงานของ PEA ที่เป็นผู้นำสิ่งที่ดีสู่ประชาชน อันจะได้นำไปสู่การร่วมกันรณรงค์ให้คนไทยช่วยกัน “ใช้ของไทย กินของไทย แต่งกายด้วยผ้าไทย” อย่าให้ความเป็นไทยห่างหายอย่างเช่นในอดีตที่ผ่านมาด้วย 5 ย ผมยาว เสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าแตะยาง และสะพายย่าม และท้ายนี้ กรมการพัฒนาชุมชน จึงขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมการแต่งกายอันงดงามความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาของคนไทย โดยการร่วมกันสวมใส่ผ้าถิ่นไทยเป็นประจำทุกวัน เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน หากท่านใดสนใจสั่งซื้อผ้าถิ่นไทยสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กรมการพัฒนาชุมชน เบอร์โทรศัพท์ 0 2141 2661 หรือติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดและสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอทั่วประเทศ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน