ชาวไร่ยาสูบวอนรัฐ แก้ปัญหา ชะลอขึ้นภาษีบุหรี่ เร่งจ่ายเงินชดเชย พักหนี้เกษตรกร 3 ปี

วันที่ 11 มี.ค. มีการประชุมของคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร เรื่อง ผลกระทบจากการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตบุหรี่ ยาสูบ ยาเส้น โดยเชิญผู้เกี่ยวข้องจากการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ตัวแทนเกษตรกรชาวไร่ยาสูบและตัวแทนผู้ค้ายาสูบ จำนวน 30 คน เพื่อรับฟังข้อมูลและหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการใช้อัตราภาษีสรรพสามิตใหม่

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ตัวแทนเกษตรกรชาวไร่ยาสูบนำโดย นายสุครีพ บุญชุ่ม นายกสมาคมชาวไร่ยาสูบจ.สุโขทัย และนายสงกรานต์ ภักดีจิตร นายกสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์ จ.เพชรบูรณ์ และนายกฤษณ์ ผาทอง นายกสมาคมผู้บ่ม ผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบ จ.เชียงใหม่ ได้ร่วมกันยื่นหนังสือถึงคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร

สาระสำคัญที่ขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการคือ 1. ชะลอการขึ้นภาษีบุหรี่ในอัตราร้อยละ 40 ออกไปอีกหลังจากที่มีการเลื่อนกำหนดมาแล้วหนึ่งปี 2. เร่งจ่ายเงินชดเชยรายได้สำหรับฤดูกาลผลิตปี 2562 ให้ชาวไร่ยาสูบ เนื่องจากการถูกตัดโควตารับซื้อใบยาสูบ 50% จาก ยสท. ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง

3. ขอพักหนี้เกษตรกรชาวไร่ยาสูบ 3 ปี เนื่องจากปัญหาหนี้สินที่กู้ยืมมาจากธนาคารออมสินและธกส.พอกพูนมาตลอดสองปีที่รายได้ยังชีพหดหายไป 4. ให้รัฐจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่ยาสูบโดยใช้เงินจากภาษียาสูบที่เก็บอยู่แล้ว และ 5. หาแนวทางการจัดเก็บภาษีบุหรี่ที่เหมาะสมเพื่อลดผลกระทบจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมยาสูบ

ก่อนหน้านี้ ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2563 คณะกรรมาธิการฯ ได้ประชุมหารือกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้โดยตั้งข้อสังเกตเพื่อดำเนินการต่อไป เช่น การส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักรู้โทษภัยบุหรี่เพื่อช่วยลดการบริโภคยาสูบ การจัดทำแนวทางให้เกษตรกรปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนยาสูบหรือสนับสนุนเกษตรกรที่พร้อมเปลี่ยนอาชีพ การปรับปรุงดำเนินการใช้มาตรการภาษีอย่างเหมาะสมเกี่ยวกับการนำเข้าบุหรี่เพื่อลดปริมาณนำเข้า และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดในการปราบปรามบุหรี่ผิดกฎหมาย

นอกจากนี้ กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลังยังคงยืนยันมาก่อนหน้าด้วยว่า ต้องขึ้นภาษีบุหรี่ในอัตราร้อยละ 40 ตามกำหนดการที่เลื่อนมาจากเดิม 1 ตุลาคม 2562 เป็น 1 ตุลาคม 2563 สำหรับบุหรี่ทุกตราทั้งบุหรี่ที่ผลิตในประเทศและบุหรี่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นไปตามพ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 จึงทำให้กลุ่มเกษตรกรชาวไร่ยาสูบ มีความกังวลเพิ่มขึ้นมาก เพราะเท่ากับรัฐบาลกำลังซ้ำเติมความเดือดร้อนให้ประชาชนเพิ่มขึ้นจากภาวะความเดือดร้อนที่ประสบอยู่แล้วในปัจจุบัน

นายสุครีพ บุญชุ่ม นายกสมาคมชาวไร่ยาสูบจังหวัดสุโขทัย กล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่มีพืชชนิดใดที่ให้ผลตอบแทนได้เท่าการปลูกยาสูบ ที่ผ่านมาชาวไร่โดนการยาสูบฯ ลดโควตารับซื้อใบยาสูบลง 50% เป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน รายได้แต่ละครัวเรือนจึงหายไปกว่าครึ่งด้วย และไม่นานมานี้ก็มีชาวไร่สุโขทัยฆ่าตัวตายไปแล้วหนึ่งคน เพราะหนี้สินและความยากจน จะต้องให้มีคนฆ่าตัวตายอีกใช่ไหมรัฐบาลจึงจะเห็นใจพวกเรา

นายกฤษณ์ ผาทอง นายกสมาคมผู้บ่ม ผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า การแก้ปัญหาเร่งด่วนตอนนี้ รัฐต้องเร่งจ่ายเงินชดเชยรายได้ให้ชาวไร่กว่า 50,000 ครอบครัว และเลื่อนการขึ้นภาษีอัตรา 40% อัตราเดียวออกไปก่อน รวมทั้งกำหนดแนวทางการพักชำระหนี้ของเกษตรกร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และหากรัฐบาลต้องการเก็บภาษีเพื่อให้คนสูบบุหรี่ลดลง ก็น่าจะใช้แนวทางขึ้นภาษีแบบค่อยๆ ขึ้นทีละนิด จะได้ไม่ก่อความเดือดร้อนสาหัสอย่างที่เป็นอยู่

นายสงกรานต์ ภักดีจิตร นายกสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์จังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา พวกเราได้ออกมาเรียกร้องและวิงวอนให้รัฐบาลเห็นใจและให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด แต่รัฐบาลก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างจริงจัง ทั้งยังไม่เคยรับฟังข้อเรียกร้องของพวกเรา ในขณะที่ ฝ่ายรณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่ กลับเสนอให้เร่งขึ้นภาษียาสูบ และบอกให้ชาวไร่เปลี่ยนอาชีพ ซึ่งไม่ได้เป็นแนวทางที่ชาวไร่ยาสูบต้องการและไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้จริง การที่คณะกรรมาธิการฯ ให้โอกาสชาวไร่ยาสูบและผู้ค้ายาสูบมายื่นข้อเสนอและรับฟังปัญหาความเดือดร้อนจริงๆ ที่เกิดขึ้น พวกเราชาวไร่มีความกังวลน้อยลงและเชื่อว่าจะได้ข้อสรุปที่ดีกับทุกฝ่าย

ด้านตัวแทนกลุ่มผู้ค้ายาสูบ นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการสมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าวให้ความเห็นเช่นเดียวกันว่า อยากให้รัฐบาลพิจารณาเลื่อนภาษีบุหรี่อัตรา 40% ออกไปก่อน จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้บ้าง เพราะจากที่ได้ทำสำรวจตลาด พบว่า ร้านค้าชุมชนกว่า 90% ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นภาษีในเดือนตุลาคมนี้ เพราะจะยิ่งทำให้บุหรี่ผิดกฎหมายทะลักเข้ามาเพิ่มอีก ร้านค้าที่ขายสินค้าถูกกฎหมายสู้ไม่ไหวแล้ว ความเดือดร้อนเท่าที่ประสบอยู่ตอนนี้ก็หนักหนา สภาพเศรษฐกิจซบเซามาก ซ้ำร้ายยังมีปัญหาโรคระบาดโควิด-19 อีก ร้านโชห่วยตอนนี้ค้าขายลำบากมาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน