พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ย้ำคนร.บริหารจัดการแร่ หนุนเศรษฐกิจ เน้นรักษา สิ่งแวดล้อม สุขภาพของประชาชนเป็นหลักยุค New Normal

วันที่ 15 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติ (คนร.) เป็นประธานการประชุม คนร. ครั้งที่ 1/2563 พร้อมด้วย นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นรองประธานคนที่ 1 นายสุริยะ จึงรุ่งเรื่องกิจ รมว.อุตสาหกรรม รองประธานคนที่ 2 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย รองประธานคนที่ 3 นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะคณะกรรมการ และนายสมหมาย เตชวาล อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ในฐานะกรรมการและเลขานุการ โดยประชุมผ่านระบบวิดีทัศน์ทางไกล

ที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ ภายใต้ คนร. และรับทราบผลการดำเนินการของภาคเอกชนที่ได้ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการในแผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ พ.ศ.2560-2564 ที่กำหนดให้ประทานบัตรหรือเขตเหมืองแร่ที่มีเขตติดต่อกันต้องดำเนินการให้มีแผนการทำเหมืองร่วมกัน หรือออกแบบการทำเหมืองของเขตประทานบัตรที่ติดกันให้สามารถใช้ทรัพยากรแร่ได้อย่างคุ้มค่าภายใต้ความเหมาะสมทางด้านความปลอดภัย เทคโนโลยี และวิศวกรรมเหมืองแร่ รวมถึงให้มีแผนการจัดการสิ่งแวดล้อมในภาพรวมเพื่อการใช้ทรัพยากรแร่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ที่ประชุมได้มีการพิจารณาความเหมาะสมและมีมติเห็นชอบยุทธศาสตร์การบริหารจัดการแร่ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) แผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ พ.ศ.2560-2564 หลักเกณฑ์การจำแนกทรัพยากรแร่ของประเทศไทย ซึ่งพิจารณาปัจจัยด้านธรณีวิทยา ปัจจัยความเหมาะสมด้านเทคโนโลยีที่ใช้ในการทำเหมืองและสถานภาพโครงการ ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ ปัจจัยด้านสังคม ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม และปัจจัยด้านสุขภาพของประชาชน

เพื่อใช้เป็นกรอบในการกำหนดเขตแหล่งแร่เพื่อการทำเหมือง หลักเกณฑ์การประเมินพื้นที่ที่มีแหล่งแร่อุดมสมบูรณ์และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์สำหรับการประเมินว่าพื้นที่ใดสมควรถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ที่มีแหล่งแร่ อุดมสมบูรณ์และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง และหลักเกณฑ์ในการจัดทำข้อมูลพื้นฐานด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน สำหรับการประกอบโลหกรรม พ.ศ…. โดยการพิจารณาและมีมติในเรื่องดังกล่าวก็เพื่อเป็นแนวทางในการบริหารจัดการแร่ให้เหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุดภายใต้ดุลยภาพด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชน ตามหลักการของพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2560

นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบโดยมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรธรณี และกระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เป็นผู้รับผิดชอบจัดกิจกรรมการทำเหมืองแร่ที่มีธรรมาภิบาลและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green and Smart Mining) ซึ่งเป็นการนำมาตรการทางสังคมเชิงสร้างสรรค์มาใช้ในการบริหารจัดการแร่ เป็นเวทีที่จัดให้ผู้ประกอบการเหมืองแร่ได้ประกาศเจตนารมณ์ต่อสาธารณะในการจะประกอบกิจการด้านเหมืองแร่อย่างมีธรรมาภิบาลและคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ประกอบกิจการ เป็นการเน้นย้ำและสร้างความเชื่อมั่นต่อการพัฒนาแร่อย่างยั่งยืน เกิดประโยชน์สูงสุด และความอยู่ดีมีสุขของประชาชน สังคม และประเทศชาติ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน