ทส. ลงนาม ‘เสริมศักยภาพคนรุ่นใหม่สู่การขับเคลื่อนพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน’ หวังเป็นผู้นำและต้นแบบการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของสังคม

เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “เสริมศักยภาพคนรุ่นใหม่สู่การขับเคลื่อนพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน”

โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดทส. ให้เกียรติร่วมในพิธีฯ นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ดร.รวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ ประธานมูลนิธิโลกสีเขียว นายอเล็กซานเดอร์ ไซม่อน เรนเดลล์ กรรมการผู้จัดการศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษาประเทศไทย (Environmental Education Center : EEC) และ รศ.ดร.สุระ พัฒนเกียรติ คณบดีคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมลงนามในครั้งนี้

พิธีลงนาม MOU จัดทำขึ้นเพื่อแสดงเจตนารมณ์ในความร่วมมือกันในการขับเคลื่อน สนับสนุน ส่งเสริม และดำเนินการเพื่อพัฒนาศักยภาพประชาชนคนรุ่นใหม่ สู่การขับเคลื่อนโดยเป็นผู้นำและต้นแบบการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของสังคม ผลักดันให้เกิดการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมและการดำเนินชีวิตที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม อันจะนำไปสู่แนวทางการพัฒนาและปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างยั่งยืน

นายวราวุธ เผยว่า กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ 5 มิถุนายน ถูกกำหนดให้เป็น “วันสิ่งแวดล้อมโลก” เพื่อเป็นการระลึกถึงจุดเริ่มต้นของการร่วมมือระหว่างประเทศทั่วโลกที่มีจัดการประชุม เรียกว่า “การประชุมสหประชาชาติเรื่องสิ่งแวดล้อมของมนุษย์” เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2515 อันเป็นที่มาของวันสิ่งแวดล้อมโลกเพื่อเป็นการระลึกถึงจุดเริ่มต้นของการร่วมมือระหว่างประเทศทั่วโลก

ช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายกับความร่วมมือกันในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ร่วมกันในการขับเคลื่อน สนับสนุน ส่งเสริม และดำเนินการเพื่อพัฒนาศักยภาพประชาชนคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีพลัง สามารถขับเคลื่อนโดยเป็นผู้นำและต้นแบบการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของสังคม ผลักดันให้เกิดการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมและการดำเนินชีวิตที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม การยกระดับการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพ อันจะนำไปสู่แนวทางการพัฒนาและปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างยั่งยืน

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส.

รวมทั้งเสริมสร้างขีดความสามารถเชิงรุกขององค์กร พัฒนาระบบกลไก และฐานข้อมูลในการบริหารจัดการ รวมทั้งการปรับปรุงและบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม เพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 12 และเป้าหมายด้านการสร้างการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตามเป้าประสงค์ของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

“วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น แต่หลังจากนี้จะเป็นการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมจากทุกภาคส่วน ในการเสริมศักยภาพคนรุ่นใหม่สู่การขับเคลื่อนพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” รมว.ทส. ย้ำ

การลงนามความร่วมมือ “เสริมศักยภาพคนรุ่นใหม่สู่การขับเคลื่อนพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” ในครั้งนี้ จะยกระดับการทำงานของคนรุ่นใหม่ ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เกิดเป็นการนำร่องที่สามารถประยุกต์ไปสู่การดำเนินงานในด้านอื่นๆ ได้ ซึ่งนับว่าเป็นการรวมพลังของหน่วยงานภาครัฐ องค์กรเอกชนและภาควิชาการในการดำเนินงานร่วมกันในการพัฒนาศักยภาพคนรุ่นใหม่

โดยนายอเล็กซานเดอร์ ไซม่อน เรนเดลล์ เป็นเสมือนผู้แทนคนรุ่นใหม่ และ Brand Ambassador กับความร่วมมือในครั้งนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความเข้มแข็ง เติมเต็ม และต่อยอดขีดความสามารถของกลุ่มคนรุ่นใหม่ เกิดเครือข่ายคนรุ่นใหม่ในการขับเคลื่อนพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน

ด้านน.ส.อรวรา ภูริเดช นักเรียนโรงเรียนบางกอกพัฒนา เปิดเผยว่า ขอเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่ต้องการให้เพื่อนๆทุกคนร่วมแสดงพลังในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและใส่ใจสิ่งแวดล้อมไม่ใช่เพียงแค่ว่าทำตามกระแสอนุรักษ์ โดยหวังว่าเพื่อนๆทุกคนจะตระหนักต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น จนกระทั่งนำมาสู่การมี วิถีการดำรงชีวิตที่ใส่ใจและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ตลอดจนมีแนวทางที่ถูกต้องสำหรับการดูแลรักษา ฟื้นฟู และใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้นเพื่อนๆ คนรุ่นใหม่ซึ่งกำลังเติบโตเป็นกำลังของสังคม ก็จะเป็นคนที่มีคุณภาพและมีบทบาทสำคัญในการดูแลรักษาฟื้นฟูและใช้ประโยชน์

“เริ่มต้นมาจากครอบครัวเนื่องจากที่บ้านให้กับความสำคัญกับการดูแล ปกป้องสิ่งแวดล้อมจึงเกิดแนวคิดธุรกิจสีเขียว ชื่อร้านว่า “Sansotrees”โดยมีแนวคิดว่าออกซิเจนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคนและมองว่าต้นไม้ผลิตออกซิเจนให้กับโลกใบนี้ จึงเกิดแนวคิดในการทำธุรกิจสีเขียวขึ้นมา โดยจะเปิดเป็นร้านขายต้นไม้ให้กับผู้กำลังทรัพย์ และเงินที่ได้จากการขายต้นไม้จะนำมาซื้อต้นกล้าไม้ ซึ่งก็จะสร้างงานให้ชุมชน และยังสามารถนำไปแจกจ่ายให้กับชุมชน หรือหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติต่อไป” น.ส.อรวรา กล่าวทิ้งท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน