หลายคนคงสงสัยว่า Social Movement คำถามของมารีญา พูลเลิศลาภ ตัวแทนสาวไทยเข้าร่วมชิงมงกุฎ การประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ในการประกวดรอบ 5 คนสุดท้าย นั้นมีความหมายว่าอย่างไร

แอมเนสตี้ในฐานะ Social Movement ที่ใหญ่ที่สุดกลุ่มหนึ่งของโลก ได้ลองพยายามอธิบายความหมายของคำนี้ให้ฟังอย่างง่ายๆว่า

Social Movement หรือ “การเคลื่อนไหวทางสังคม” เป็นปฏิบัติการของกลุ่มคนที่มีเป้าหมายเดียวกัน คือ ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมที่พวกเขาอาศัยอยู่ในประเด็นต่างๆ เช่น การเมือง สิ่งแวดล้อม เชื้อชาติ สิทธิผู้หญิง LGBT โรคเอดส์ คนพิการ ฯลฯ

ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ระบุว่า การเคลื่อนไหวทางสังคมเติบโตมาพร้อมกับอุดมการณ์เสรีนิยมประชาธิปไตย ซึ่งให้ความสำคัญกับเสรีภาพในการแสดงออกและการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างมาก โดยเชื่อว่าเมื่อประชาชนถูกกดขี่ข่มเหงหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม พวกเขาย่อมมีสิทธิออกมาแสดงความเห็น วิพากษ์วิจารณ์ ประท้วง และเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองได้

กลุ่มคนที่เข้าร่วมกับการเคลื่อนไหวทางสังคมมีความหลากหลายแตกต่างกันไปในแต่ละบริบท บางกลุ่มเป็นคนที่ออกมาต่อสู้เพื่อปลดแอกจากอำนาจผู้ปกครองที่ไม่เป็นธรรม บางกลุ่มเป็นคนยากจนที่ต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น และบางกลุ่มเป็นชนชั้นกลางไปจนถึงชนชั้นสูงที่แย่งชิงอำนาจทางการเมืองระหว่างกัน

การเคลื่อนไหวทางสังคมในบางประเด็นขยายตัวจากในประเทศจนได้รับการยอมรับเกือบทั่วโลก โดยบางประเด็นมีต้นกำเนิดในโลกตะวันตก เช่น สิทธิและความเท่าเทียมของผู้หญิง การแต่งงานของคนเพศเดียวกัน แต่บางเรื่องก็มาจากโลกตะวันออก เช่น หลักการไม่ใช้ความรุนแรง (อหิงสา) ของมหาตมา คานธี

การเคลื่อนไหวที่เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง เช่น การเรียกร้องสิทธิพลเมืองของคนดำในสหรัฐฯ ซึ่งนำโดยมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ อาหรับสปริงส์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง การรณรงค์ลดใช้ถุงพลาสติกเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อน การเปิดโปงข้อมูลการละเมดสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลทั่วโลกโดยวิกิลีกส์ หรือแม้กระทั่งการเคลื่อนไหวต่อต้านเผด็จการของนักศึกษาไทยในเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ 2516 และ 6 ตุลาฯ 2519

อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวทางสังคมไม่ได้เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อการพัฒนาเชิงบวกหรือทำให้สังคมให้ดีขึ้นเสมอไป เห็นได้จากการเคลื่อนไหวของกลุ่มนาซีใหม่ กลุ่มหัวรุนแรงต่างๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อกดขี่ เลือกปฏิบัติ หรือปองร้ายต่อเพื่อนมนุษย์ซึ่งเป็นสมาชิกร่วมสังคมเดียวกัน

การจะสร้างการเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะในประเด็นใดมักมีความยากลำบาก เพราะมักถูกขัดขวางจากผู้เสียผลประโยชน์เสมอ และในหลายกรณีผู้เสียผลประโยชน์คือภาครัฐซึ่งมักใช้อำนาจปราบปรามหรือปิดกั้นความคิดเห็นของประชาชนโดยมิชอบ ซึ่งจากข้อมูลของเรา รัฐบาลไทยตลอดหลายรัฐบาลที่ผ่านมาต่างเข้าข่ายดังกล่าว เพราะมีการละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนและไม่ให้ความสำคัญกับข้อเรียกร้องของประชาชนในประเด็นต่างๆ เท่าที่ควรจะเป็น

แอมเนสตี้ เป็นขบวนการเพื่อสิทธิมนุษยชนของที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบัน มีผู้สนับสนุนทั่วโลกมากกว่า 7 ล้านคน เรารณรงค์ทั้งกับภาครัฐ เอกชน สถานศึกษา และประชาชนทั่วไปทั้งในไทยปละต่างประเทศ ความอิสระและเป็นกลางทางการเมือง เชื้อชาติ ศาสนา และเพศคือหลักการสำคัญที่เรายึดถือ

 

ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย

และเฟซบุ๊กแฟนเพจ Miss Universe Thailand

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน