กรณีมีผู้ร้องเรียนมาทางข่าวสดออนไลน์ว่า ถูกแม่บ้านที่เพิ่งรับเข้ามาทำงานฉกทรัพย์ สูญเงินไปเกือบ 1 แสนบาท กรณีมีผู้ร้องเรียนมาทางข่าวสดออนไลน์ว่า ถูกแม่บ้านที่เพิ่งรับเข้ามาทำงานฉกทรัพย์ สูญเงินไปเกือบ 1 แสนบาท
วันที่ 6 ธ.ค. ผู้สื่อสอบถามไปยัง นายอธิพงศ์ ศรีเกื้อกูล อายุ 36 ปี นายจ้างผู้เสียหายคนดังกล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้น เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตนรับแม่บ้านสาวนคนนี้มาเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ก่อนจะมาก่อเหตุเมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยรับสมัครมาทำงานแม่บ้าน และเลี้ยงลูก เบื้องต้นก่อนรับเข้าทำงานก็สอบถามประวัติ และสัมภาษณ์ พร้อมเก็บข้อมูลส่วนตัว เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ทราบแน่ชัดแค่ว่า อายุ 32 ปี แต่ก็ไม่ได้เอะใจว่าจะเคยมีประวัติในเชิงลักทรัพย์เช่นนี้ ตลอดระยะเวลาที่ทำงาน แม่บ้านสาวก็ขยันทำงาน แม้ในวันหยุดก็ไม่เคยพักผ่อน ส่วนตัวก็เกิดความเชื่อใจ และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีวี่แววว่าอยากจะหยิบจับหรือขโมยสิ่งของ เพราะปกติก็วางของมีค่า เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือกุญแจรถ และหลายครั้งก็เคยให้แม่บ้านสาวขับรถยนต์ไปส่งของที่ต่างจังหวัดบ่อยๆ
นายอธิพงศ์ เปิดเผยถึงวันเกิดเหตุว่า สถานที่เกิดเหตุคือ บ้านของตนในย่านพัฒนาการ เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ ในเวลา 8.00 น. ของเช้าวันที่ 25 พ.ย. โดยก่อนหน้านั้นได้นำลูกชายอายุ 1 ขวบ 10 เดือนของตัวเองลงมาทานโจ๊กที่ชั้นล่าง ขณะที่ตนกำลังอาบน้ำภายในห้องนอน แม่บ้านสาวก็เข้ามาภายในแล้วหยิบไอแพด 2 ไอแพดมินิ 4 และไอโฟน 6 เอส ไป หลังจากที่เสร็จธุระในห้องน้ำ พอออกมาก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกชายที่อยู่ชั้นล่าง ตอนนั้นก็แปลกใจที่ไม่มีคนคอยปลอบ เมื่อลงมาก็ไม่พบใครเลย จึงหามือถือเพื่อจะติดต่อหาแม่บ้าน แต่ไม่พบ ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง จึงแน่ใจแล้วว่าถูกขโมยไป ต่อมาก็มาพบว่ารถจักรยานยนต์ก็หายไป จนมาพบว่าแม่บ้านสาวใช้ขับหนีออกมา และมาจอดทิ้งไว้ที่หน้าออฟฟิศของตน เพราะพี่ชายโทรมาบอกว่าเห็นคนมาจอดไว้
จากนั้นจึงใช้ไอแพดของพี่ชายตามหาตำแหน่งไอแพดของตน ครั้งแรกพบว่าอยู่ที่ นวนคร และครั้งที่สองพบว่าอยู่ที่จ.กำแพงเพชร ในวันเดียวกับที่เกิดเหตุ จึงตัดสินใจไปแจ้งความที่ สน.คลองตัน พร้อมกับนำรูปถ่าย และข้อมูลของคนร้ายเท่าที่มีไปให้ตำรวจตรวจเช็คด้วย ซึ่งทางตำรวจก็เปิดหน้าหญิงสาวคนหนึ่งให้ดู ซึ่งก็เห็นว่าเป็นคนๆ เดียวกันกับที่ก่อเหตุที่บ้านของตน โดยเปลี่ยนชื่อจาก นางสาวกฤตยา จอมนพคุณ เป็น น.ส.ณพัทธนันท์ และเปลี่ยนลุกใหม่ด้วยการตัดผมสั้นลักษณะคล้ายผู้ชาย
เมื่อนำชื่อและนามสกุลของคนร้ายไปค้นหาตามอินเตอร์เน็ต พบว่าเคยก่อคดีหลอกชิงทรัพย์ เมื่อปี 2555 มาแล้ว ในคดีที่หลอกนายแพทย์หนุ่มคนหนึ่ง ที่จ.ตาก โดยป้ายยาไว้ที่หัวนมและหน้าอก เมื่อเหยื่อหลงกล และสลบไปก็ขโมยสิ่งของมีค่าของเหยื่อไปทั้งหมด รวมถึงรถยนต์ฮอนด้าซิตี้ด้วย
“จึงอยากจะแจ้งเตือนและฝากเป็นอุทาหรณ์ผ่านสื่อต่างๆ ว่าให้ระมัดระวัง การรับคนเข้ามาทำงานแม่บ้าน หรือพี่เลี้ยงเด็ก ควรตรวจประวัติให้รอบคอบ เพราะตนเชื่อว่า แม่บ้านสาวจอมฉกนี้ ยังคงวนเวียนอยู่ในกรุงเทพฯ แน่นอน รอเหยื่อใหม่รับเข้าทำงาน” นายอธิพงศ์กล่าวทิ้งท้าย
