หลวงพี่น้ำฝน เกจิดังวัดไผ่ล้อม นครปฐม ขานรับเต็มร้อย หนุนไม่ควรให้บูชาวัตถุมงคลในอุโบสถยืนยันไม่กดดัน เพราะวัดไผ่ล้อม ไม่เคยเปิดให้บูชาวัตถุมงคล ในอุโบสถอยู่แล้ว

ตามที่เป็นข่าวว่าบรรดาเจ้าคณะใหญ่หนต่างๆในเขตปกครองของคณะสงฆ์ไทยมีหนังสือคำสั่งแจ้งไปยัง เจ้าคณะจังหวัดในภาคต่างๆทั่วประเทศไทย เรื่องนโยบายห้ามขายวัตถุมงคลในอุโบสถตามวัดวาอารามต่างๆแล้วนั้น

วันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม เพื่อสอบถามถึงเรื่องความเป็นมาของประเด็นนี้ ในฐานะที่เป็นอีกหนึ่งวัดดังของเมืองไทย ที่มีเกจิชื่อดังนาม หลวงพ่อพูล อัตตะรักโข อมตะเถราจารย์แห่งลุ่มแม่น้ำท่าจีน มีลูกศิษย์เอกที่สืบสานตำนานวัตถุมงคล ดัง ขลัง ดี เป็นที่ประจักษ์ คือ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมรูปปัจจุบัน

หลวงพี่น้ำฝน เปิดใจให้สัมภาษณ์ว่า ข้อห้ามที่กรรมการมหาเถรสมาคม ระบุห้ามหรือยกเลิกมิให้บูชาวัตถุมงคลในอุโบสถนั้น ถ้ามองภาพโดยรวมถือว่าเหมาะสม เนื่องเพราะภายในอุโบสถถือเป็นสถานที่สำคัญในการประกอบพิธีสังฆกรรม เฉกเช่นการ อุปสมบท ทำวัตรสวดมนต์เช้าเย็นของพระภิกษุสงฆ์ ฉะนั้นจึงสมควรให้เกียรติสถานที่ในวิถีปฏิบัติที่โบราณกล่าวขานระบุไว้ให้เป็นขอบเขตพัทธสีมาที่ควรค่าแก่กราบเคารพกราบไหว้ประกอบกิจกรรมของสงฆ์และอุบาสกอุบาสิกาพุทธศาสนิกชนคน

พุทธในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่พระสงฆ์จักใช้ในการแสดงพระธรรมเทศนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกด้วย

ข่าวนี้ฟังคราแรกอาจจะดูตกใจบ้างกับการถูกควบแบบตูมตาม ดั่งสายฟ้าแลบแต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือผิดปกติแต่ประการใด เพราะพระสงฆ์ทุกวัดท่านล้วนเข้าใจในประเด็นคำสั่งนี้เป็นอย่างดี มันเป็นเรื่องของความเหมาะสมถูกต้อง ไม่ใช่เรื่องถูกใจ ยิ่งที่วัดไผ่ล้อมด้วยแล้ว ไม่เดือดร้อนเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะที่วัดไม่ได้ให้เปิดบูชาในอุโบสถอยู่แล้ว โดยส่วนตัวอาตมาในฐานะเจ้าอาวาส จะทำอะไรก็แล้วแต่ อาตมาคำนึงถึงส่วนรวม ยึดหลักพระพุทธศาสนาเป็นหลักใหญ่ ที่สำคัญวัดไผ่ล้อมไม่เคยออกเรี่ยไร วัตถุมงคลที่สร้างขึ้นมา ล้วนสร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ มิได้สร้างเพื่อให้ญาติโยมมาหลงงมงาย

ส่วนอิทธิปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นนั้น ล้วนเกิดจากแรงศรัทธาในบวรพุทธศาสนาอย่างแท้จริง และนี่คือสิ่งสำคัญที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล ท่านพร่ำสอนไว้เสมอ อาตมาสืบทอดตามเจตนารมณ์พลวงพ่อพูล อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์








Advertisement

ส่วนเรื่องการสร้างวัตถุมงคลแต่ละครั้ง วัดไผ่ล้อมมีวัตถุประสงค์ชัดเจน เช่น นำปัจจัยไปสร้างอุโบสถเฉลิมพระเกียรติ สร้างฌาปนสถานปลอดมลพิษ และเผาฟรี มอบเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ สนับสนุนสถานศึกษา สร้างอาคารโรงเรียนต่างๆในพื้นที่มากมาย

และล่าสุดกำลังสร้างวิหารพระมงคลสิทธิการ หลวงพ่อพูล อัตตะรักโข เพื่อประดิษฐานพระพุทธเมตตาประทานพร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร ขนาดหน้าตักกว้าง5 เมตร สูง 7 เมตร จำลองจาก “พระพุทธเมตตา” พระประธานในพระมหาเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวอีกว่า วัตถุมงคล เกิดจากแรงศรัทธาของประชาชน หากประชาชนไม่เคารพศรัทธาก็ไม่ต่างอะไรกับเศษหิน เศษปูน เศษโลหะ หลวงพ่อพูล ท่านสอนอาตมาเสมอว่า เราเป็นพระต้องเข้าถึงและสอนหลักธรรมให้แก่ลูกศิษย์ ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นสิ่งสูงสุดของการครองชีวิต

ยิ่งในยุคปัจจุบันต้องมีศีลให้มาก มีสมาธิให้เยอะๆ จะได้เกิดปัญญาในการทำธุรกิจ และสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกสังคม ทุกครอบครัว ทุกวันนี้สิ่งยั่วยุมันเยอะมาก คนพอมาวัดจิตก็สงบ ได้กราบขอพรจากพระพุทธเมตตาประทานพร ปัญญาก็เกิด และถ้าวิหารหลวงพ่อพูล สร้างเสร็จสมบูรณ์ก็จะมีพิธีสมโภช หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าพุทธาภิเษก หรือ ปลุกเสก นั่นเอง

ฉะนั้นการที่มหาเถรสมาคมว่าอย่างไร อาตามาก็ทำตามทุกอย่าง ทุกวันนี้ได้รับเพียงข่าวสาร แต่ยังไม่มีหนังสือมาถึง คาดว่าคงเร็วๆนี้ ซึ่งข้อห้าม หรือข้อปฎิบัติต่างๆนั้นอาตมาว่าดีนะ เฉกเช่นการใช้สื่อโซเชียลก็ต้องใช้ให้เป็น วัดไผ่ล้อมใช่เผยแผ่พระพุทธศาสนา ใช้สอนธรรมะทางไกล อย่างนี้ดี ใช้เป็นสื่อสอนสวดมนต์ ถือเป็นสื่อร่วมสมัย อย่างนี้ดี รวมๆแล้วอาตมาว่ามหาเถรสมาคมท่านทำถูกและทุกวัดต้องทำตาม

เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีงามให้แก่วงการสงฆ์ และเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อยอดเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้เป็นคนดีมีศีลธรรมไม่คดโกง มีความขยัน ซื่อสัตย์ อดทน และรู้บุญคุณคน คนพุทธต้องมีความกตัญญูกตเวที เพราะความกตัญญูคือเครื่องหมายของคนดีอย่างแท้จริง ขอเจริญพรให้ทุกท่านนำไปปฏิบัติ ย่อมจักมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน