คลินิกหมอครอบครัว-วัดไผ่ล้อม – คลินิกหมอครอบครัว โรงพยาบาลนครปฐม ตั้งอยู่ภายในวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งเปิด ให้บริการตั้งแต่เมื่อเดือน เม.ย. 2563 ที่ผ่านมา โดยความร่วมมือระหว่างกองทุนหลวงพ่อพูล โดย พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ กิตติจิตโต (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม
ส่วนใหญ่จะมีประชาชนเป็นผู้สูงอายุ ที่อาศัยในพื้นเขตอำเภอเมือง เดินทางเข้ามารับการตรวจเลือดและรับยาจากหน่วยแพทย์ที่มาตั้งศูนย์บริการ ซึ่งโรงพยาบาลนครปฐม ได้ขอใช้สถานที่วัดไผ่ล้อม เป็นหน่วยการบริการทางการแพทย์ให้ประชาชน เนื่องจากสถานที่ภายในโรงพยาบาลนครปฐม เริ่มจะไม่เพียงพอต่อการรองรับผู้ป่วยที่เริ่มจะมีมากขึ้นทุกวัน
จากสถานการณ์ล่าสุด จังหวัดนครปฐม มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น จนถึงตอนนี้มีผู้ติดเชื้อแล้วเกือบกว่า 70 ราย โดยมีแนวโน้มที่จะตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งปัญหาดังกล่าว โรงพยาบาลนครปฐม จึงโอนผู้ป่วย ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคความดัน เบาหวาน และโรคไต ที่จะต้องได้รับการตรวจรักษาและรับยาอย่างต่อเนื่อง ให้มารับบริการที่คลินิกหมอครอบครัวสาขาวัดไผ่ล้อม
หลังจากมีการประกาศหลายฉบับออกมาเพื่อป้องกันไม่ให้มีการรวมตัวของประชาชน ปรากฏว่ามีผู้สูงวัยและผู้ป่วยเดินทางมารับบริการที่วัดไผ่ล้อม จากเดิมหลายเท่าตัว
ซึ่งจุดนี้เป็นการทำให้ทีมแพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลนครปฐม ต้องทำงานหนักมากขึ้น ประกอบกับต้องมีการจัดทำแผนในการป้องกันโควิด-19 ในการเข้ามารับการตรวจ ส่งผลให้กำลังเจ้าหน้าที่เริ่มมีไม่เพียงพอกับการให้บริการ
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์จึงมอบหมายให้พระภิกษุ-สามเณร และเจ้าหน้าที่วัดไผ่ล้อม ช่วยกันตรวจคัดกรองเบื้องต้น พร้อมทั้งคอยช่วยเหลือเข็นรถวีลแชร์ให้ผู้สูงอายุที่เดิน ไม่ไหว
ด้านพระครูปลัดสิทธิวัฒน์กล่าวว่า การระบาดระลอกใหม่ของ โควิด-19 ครั้งนี้ถือว่ารุนแรงมากและมีผู้ติดเชื้อหลายคน ซึ่งตอนนี้ที่ วัดไผ่ล้อม อนุเคราะห์ให้ใช้สถานที่ในการดูแลรับการตรวจเลือดให้กับผู้ป่วยโรคความดัน เบาหวานและโรคไต ซึ่งตอนนี้โรงพยาบาลนครปฐมมีมาตรการป้องกันการระบาดโควิด-19 ซึ่งจะลดจำนวน ผู้ไปเยี่ยมไข้และรับการรักษาบางอย่างที่ไม่จำเป็นเร่งด่วน ให้เข้าไปรวมตัวลดลงในอาคารสถานที่ โดยตอนนี้ทราบว่ามีผู้ป่วยที่ถูกถ่ายโอนมาที่คลินิกหมอครอบครัว สาขาวัดไผ่ล้อม หลายราย วันหนึ่งจากประมาณ 100 กว่าคน เพิ่มขึ้นเป็น 300 กว่าคน
ขณะเดียวกันพบว่าเจ้าหน้าที่เริ่มมีไม่เพียงพอ เพราะต้องวางมาตรการคัดกรอง ตรวจวัดไข้และเข้มหาผู้เสี่ยงที่จะมีเชื้อไวรัสเข้ามาในพื้นที่อย่างละเอียด เป็นไปอย่างเข้มข้น
หลวงพี่น้ำฝนกล่าวว่า “ตอนนี้เมื่อเห็นว่า เจ้าหน้าที่และผู้ป่วยประสบปัญหา วัดไผ่ล้อมระดมกำลังคณะสงฆ์และเจ้าหน้าที่วัดมาช่วยในการคัดกรองผู้ป่วยและการบริการต่างๆ ให้เกิดความสะดวกคล่องตัวมากขึ้น ทั้งการตรวจวัดไข้ การกำชับให้สวมแมสก์ ก่อนเข้ามาในพื้นที่ การล้างมือด้วยเจลหรือแอลกอฮอล์ โดยพระสงฆ์ พร้อมใจกันปรับการใช้กิจวัตรมาช่วยเหลือประชาชนในยามที่เกิดปัญหาขึ้น ถือว่านี่คือช่วงเริ่มต้นเท่านั้น การช่วยเหลือประชาชนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก นอกจากจะให้สถานที่แล้ว พระก็มีหน้าที่ในการช่วยสังคมนั่นคืองานด้านสาธารณสงเคราะห์ เป็นอีกงานหนึ่งที่อยู่ในกิจสงฆ์ อะไรที่ช่วยญาติโยมได้คืองานของพระ เป็นสิ่งที่พระสงฆ์หากทำได้”
“วันนี้คณะสงฆ์พร้อมน้อมรับการให้ ความช่วยเหลือประชาชน และยามนี้กำลังใจของทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ และประชาชนคือสิ่งที่สำคัญที่จะพาให้ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ อะไรที่วัด พระ ช่วยเหลือได้เป็นสิ่งที่ดีที่ต้องทำ ซึ่งทางวัดก็มีการประชุมกันเพื่อที่จะทำงานให้ประชาชนในช่วงนี้ และกำชับกับทุกคนในวัดว่า อะไรที่เป็นขวัญกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชน และบำบัดทุกข์บำรุงสุขของพี่น้องประชาชนได้ จะต้องทำให้เกิดขึ้นยิ่งเฉพาะในยามนี้นั่นเอง” หลวงพี่น้ำฝนกล่าวปิดท้าย
