เลสข้อมือ‘รวย-ลาภ-ทรัพย์’ กองทุนพระเทพสิทธาจารย์“พระเทพสิทธาจารย์” (น้อย ญาณวุฑโฒ) เจ้าอาวาสวัดมหาชัย พระอารามหลวง และเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม พระเถระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งที่มีวัตรปฏิบัติดี อยู่ในศรัทธาของญาติโยมทั้งในและนอกพื้นที่เมืองสารคาม

ปัจจุบัน สิริอายุ 77 ปี พรรษา 57

มีนามเดิม น้อย อุทัยสา เกิดเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2487 ที่บ้านเลขที่ 1 บ้านหนองบัว ต.วังแสง อ.แกดำ จ.มหาสารคาม

อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดหัวหนอง ต.ดอนหว่าน อ.เมือง จ.มหาสารคาม โดยมี พระครูนิมมานกิตติวัฒน์ วัดเจริญผล เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า ญาณวุฑโฒ แปลว่า ผู้เจริญแล้วด้วยญาณ

มุมานะศึกษาพระธรรมวินัย สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท และเอก ตามลำดับ รวมทั้งมุมานะศึกษาการบริหารกิจการคณะสงฆ์

ด้วยความเป็นผู้มีความรับผิดชอบสูง ได้รับความไว้วางใจจากคณะสงฆ์ให้ดำรงตำแหน่งทางปกครองมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ เป็นเจ้าอาวาสวัดเกษบุรีดอนก่อ เจ้าอาวาสวัดปัจฉิมทัศน์ เป็นพระอุปัชฌาย์ เป็นเจ้าคณะอำเภอแกดำ จนถึงปี พ.ศ.2542 ขึ้นรอง เจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม

พ.ศ.2552 เป็นเจ้าอาวาสวัดมหาชัย พระอารามหลวง พ.ศ.2555 เป็นเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม

นอกจากนี้ ยังดำรงตำแหน่งเจ้าสำนักเรียนคณะสงฆ์จังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานมูลนิธิสงฆ์อาพาธ จังหวัดมหาสารคาม, เป็น ผอ.หน่วยวิทยบริการ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จังหวัดมหาสารคาม

สนับสนุนให้พระภิกษุสามเณรศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรม แผนกบาลี แผนกสามัญศึกษา จนกระทั่งศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ผลงานที่ประจักษ์ในการส่งเสริมการศึกษา คือ ทุ่มเทแรงกายแรงใจกับญาติโยม ผลักดันให้เกิดวิทยาลัยสงฆ์ที่มหาสารคาม จนประสบผลสำเร็จ เปิดการเรียนการสอนไปแล้ว และท่านยังจัดหาทุนการศึกษามอบแด่พระภิกษุ-สามเณรที่มีจิตใจใฝ่การศึกษาแต่มีฐานะยากจน

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2521 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระครู สัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นตรี ในราชทินนามที่ พระครูปัญญาภิสาร และได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นโท ชั้นเอก และชั้นพิเศษในราชทินนามเดิม จนถึงปี พ.ศ.2544 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระบวรปริยัติกิจ

พ.ศ.2549 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชปริยัตยาทร

พ.ศ.2555 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพสิทธาจารย์

มีผลงานปรากฏเป็นที่ประจักษ์ได้รับการยกย่องเชิดชูมากมาย อาทิ ได้รับพระราชทานเสาเสมาธรรมจักรจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, รับโล่ยกย่องเป็นคนดีศรีมหาสารคาม ครบ 150 ปีเมืองมหาสารคาม เป็นต้น

วัตรปฏิบัติที่ทำอย่างต่อเนื่องเป็นที่น่ายกย่องคือ ท่านจะบริจาคปัจจัยช่วยเหลือคณะสงฆ์และประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติต่างๆ อาทิ ไฟไหม้ น้ำท่วม เป็นต้น รวมทั้งการช่วยเหลืองานศพให้ญาติโยมที่ยากไร้ โดยท่านจะมอบผ้าไตรให้ 1 ผืน และปัจจัย 1,000 บาท ให้ทุกงานที่แจ้งเข้ามา ในแต่ละปีจึงมีพุทธศาสนิกชนเข้ามาขอความอนุเคราะห์จากท่านเป็นจำนวนมาก

ดังนั้น คณะศิษยานุศิษย์จึงมีมติร่วมกันจัดตั้ง “กองทุนพระเทพสิทธาจารย์” พร้อมทั้งจัดสร้างวัตถุมงคล เลสข้อมือ รุ่น “รวย-ลาภ-ทรัพย์” เพื่อหาปัจจัยเข้าสมทบกองทุนพระเทพสิทธาจารย์ เพื่อใช้จ่ายสงเคราะห์ช่วยเหลือสังคม

สำหรับจำนวนการสร้าง ประกอบด้วย 1.หัวเลสเนื้อทองคำ น้ำหนัก 2 บาท สร้าง 19 หัว 2.เลสเนื้อเงินลงยาสีฟ้า สร้าง 199 เส้น 3.เลสเนื้ออัลปาก้าลงยาสีน้ำเงินสร้าง 1,999 เส้น และ 4.เลสเนื้อ ทองเหลืองลงยา สร้าง 2,999 เส้น

พิธีพุทธาภิเษกจัดขึ้นภายในพระอุโบสถวัดมหาชัย พระอารามหลวง แต่ในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 แพร่ระบาด จึงมิให้ญาติโยมเข้าร่วมภายในพิธี

สำหรับพระเถราจารย์นั่งปรกอธิษฐานจิต ประกอบด้วย 1.พระเทพสิทธาจารย์ วัดมหาชัย 2.พระครูปลัดวชิรโสภณญาณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) สวนสงฆ์แกแปะ 3.หลวงปู่ขำ เกสาโร วัดหนองแดง และ 4.พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ) วัดป่าวังน้ำเย็น

ผู้มีจิตศรัทธาประสงค์ร่วมทำบุญ ติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์โทร. 08-4654-1946

เชิด ขันตี ณ พล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน