คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
ความพยายามจะดำเนินคดีกับธัมมชโย ในยุครัฐบาลคสช. กลายเป็นหนังชีวิตเรื่องยาว ยืดเยื้อยาวนานจนยังมองไม่เห็นว่าจะลงเอยเช่นไร นับจากที่เคยลงมือมาแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จเมื่อตอนต้นปีที่ผ่านมา จนบัดนี้มีการเพิ่มข้อหามากขึ้น และประกาศอย่างเด็ดขาดว่าต้องเอาตัวมาดำเนินคดีให้ได้อีกหน
แต่ในฐานะคนที่เฝ้าสังเกตการณ์วงนอก ก็ยังมองไม่ออกว่า โอกาสที่จะประสบความสำเร็จของฝ่ายรัฐนั้น จะด้วยหนทางไหน
แม้ว่าในทางสังคมวงกว้าง สายตาของประชาชนจำนวนมาก ไม่ได้มองวัดธรรมกายอย่างชื่นชม
เสียงต่อต้านจากคนในสังคมต่อธรรมกาย ค่อนข้างกว้างขวางด้วยซ้ำ
แต่กระนั้นก็ตาม สาวกที่ศรัทธาในธรรมกายและ ธัมมชโย หรือจะเรียกว่าแฟนคลับตัวจริงก็ว่าได้
เหนียวแน่นและมากมายจำนวนนับล้านทีเดียว!
สาวกของวัดแห่งนี้ แม้ไม่ใช่คนส่วนข้างมากของประเทศ แต่เมื่อไปรวมตัวกันในที่เดียวกัน เพื่อปกปักรักษาใน ผู้ที่เขาศรัทธา ก็กลายเป็นเรื่องยากสำหรับเจ้าหน้าที่รัฐ
ที่เรียกกันว่ามีกำแพงมนุษย์ปกป้องห้อมล้อมก็เป็น เช่นนี้แหละ
โล่มนุษย์ดังกล่าว เคยทำให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ทำอะไรไม่ได้มาแล้วเมื่อตอนต้นปี
ในวันนี้หากจะมีปฏิบัติการถือหมายเข้าไปจับกุมตัวแบบเดิมอีก คาดได้ไม่ยากว่าการรวมตัวเพื่อร่วมกันสวดมนต์เต็มพื้นที่วัด จากเหล่าผู้ศรัทธาและสาวก คงจะเกิดขึ้นอีกแน่นอน
แล้วจะทำอย่างไรได้!?
อันที่จริง เคยมีการพูดคุยกันในหมู่แกนนำคสช.มาแล้วตั้งแต่แรกเริ่ม โดยมีมุมมองที่ต่างกัน บ้างก็มองว่า รัฐต้องเข้มแข็ง การรักษากฎหมายต้องไม่ย่อหย่อน
แต่บ้างกลับมองว่า นี่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะมีคนนับล้านอันมากด้วยความศรัทธาเข้ามาเกี่ยวข้อง
จะใช้แต่นิติศาสตร์ โดยไม่มีรัฐศาสตร์ย่อมไม่ได้
จึงมีข้อเสนอให้ใช้การพูดคุยเจรจา
เปิดทางให้เข้ามอบตัวรับข้อหาแต่โดยดี จะมีโอกาสมากกว่า
แต่สุดท้าย สายเหยี่ยวในคสช.ก็ตัดสินใจ เดินหน้า!
เราจึงเห็นความเอาจริงเอาจังของพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรียุติธรรมและหน่วยงานในสังกัดคือ ดีเอสไอที่เดินหน้าชนตลอด
แต่ลงเอยก็เป็นการเดินไปชนกับกำแพงมนุษย์
ข้อสำคัญ คำประกาศจากเหล่าสาวกที่เคยดังก้องว่า จะมีการมอบตัวก็ต่อเมื่อ
มีรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยแล้วเท่านั้น
ไม่เพียงยืนยันแข็งกร้าว แต่ยังเป็นการเสียดแทงใจกันอีกด้วย!