คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
คนไทยทั้งประเทศ เต็มไปด้วยความสุขสะใจโดยถ้วนหน้าในค่ำคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา เมื่อทีมชาติไทยเอาชนะทีมชาติอินโดนีเซียอย่างงดงาม คว้าถ้วยแชมป์บอลซูซูกิคัพหรือแชมป์อาเซียนมาได้เป็นสมัยที่ 5 ทั้งที่โดยสถิติที่ผ่านมานั้น ทีมที่พ่ายนัดแรก จะไม่สามารถพลิกกลับมาชนะในนัดสองที่บ้านตัวเองได้
แต่ช้างศึกของเราทำได้
ผงาดเป็นเจ้าบอลอาเซียนได้อย่างยิ่งใหญ่
จึงต้องชื่นชมจิตใจและความสามารถของเหล่านักบอลทีมชาติไทย
รวมทั้งหัวหน้าโค้ช“ซิโก้”เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง และพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ผู้ที่นำความเปลี่ยนแปลงมากมายมาสู่วงการฟุตบอลไทยเรา
แต่เชื่อได้ว่า หลังผ่านช่วงสุขสันต์หรรษาจากการเป็นแชมป์คราวนี้ไปได้สักพัก แฟนบอลชาวไทยจะเริ่มมีคำถาม!?
คำถามก็คือ เราพัฒนาทีมขึ้นมาได้ จนกลายเป็นทีมที่มีแท็กติกการเล่นสวยงาม ต่อบอลได้ไหลลื่นและเก่งกาจขนาดนี้
จนเรียกว่า ในระดับอาเซียน เราเป็นเจ้าอย่างแท้จริงไปแล้ว
ทำไมเราจึงก้าวไปไกลกว่านี้ไม่ได้
ทำอย่างไรเราจึงไม่เป็นแค่เจ้าอาเซียน!?
คงจำกันได้ว่า ซิโก้เคยพาทีมชาติไทยชุดนี้แหละ คว้าแชมป์ซูซูกิคัพอย่างยิ่งใหญ่ไปแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน
แต่หลังจากนั้นเมื่อเราได้โควตาขึ้นชั้นไปเตะรอบ คัดเลือกไปบอลโลก เจอทีมแข็งแกร่งในระดับเอเชีย
เราไม่ประสบความสำเร็จนัก!
วันนี้คนไทยเรากลับมามีความสุขกับถ้วยแชมป์อาเซียนอีกหน ซึ่งซิโก้และทีมช้างศึกทำได้อย่างไม่มีข้อกังขาอีกครั้ง
แต่เสร็จจากนี้ เราก็มีคิวกลับไปเตะคัดบอลโลกอีก ซึ่งจะเต็มไปด้วยความยากลำบากอย่างมาก
ความสุขจากถ้วยซูซูกิคัพในหมู่คอบอลไทยก็จะเริ่มสลายหายไป
นี่เป็นประเด็นที่พล.ต.อ.สมยศ และสต๊าฟโค้ชทีมชาติไทย ต้องขบคิดกันอย่างจริงจัง!
การเป็นเจ้าอาเซียนเป็นเรื่องยอดเยี่ยม แต่เราไม่ควรหยุดแค่นี้
เมื่อไหร่บอลไทยจะไปบอลโลกได้เสียที
อุตส่าห์ทำมาได้ดีขนาดนี้แล้ว ต้องก้าวหน้าไปกว่านี้ให้ได้
บัดนี้คงต้องตั้งเป้า ยกระดับให้ทีมชาติไทยมีศักยภาพสูงขึ้นไปกว่านี้ เทียบชั้นทีมแข็งแกร่งในระดับเอเชีย ให้ได้
ต้องเพิ่มผู้เชี่ยวชาญชำนาญระดับโลกเข้ามานำพาทีมชาติไทยเรา คงต้องทำแล้ว!