พรรคประชาชาติ กับประชามติไม่รับรัฐธรรมนูญ
ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
พรรคประชาชาติ – การเปิดตัวพรรคประชาชาติ ต้องนับว่าสร้างผลสะเทือนไม่ธรรมดาเลยทีเดียว โดยคึกคักไปด้วยนักการเมือง บิ๊กเนม บุคคลที่มีชื่อเสียงทางสังคมทั้งชาวไทยมุสลิมและชาวไทยพุทธ โดยชูความเป็นพรรคที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ วัฒนธรรม พร้อมจะรับเป็นผู้แทนของราษฎร ในสนามเลือกตั้งทั่วประเทศ
แต่ความเด่นพิเศษที่น่าจับตา คงเป็นพื้นที่ 3-4 จังหวัดชายแดนภาคใต้
เนื่องจากหลายคนเป็นนักการเมืองที่เคยได้รับเลือกตั้งหลายสมัย มีคะแนนนิยมในหมู่ชาวมุสลิมอย่างสูง โดยมีจุดยืนอยู่ในพรรคแนวเสรีประชาธิปไตยมาตลอด
ไม่ใช่ฝ่ายสนับสนุนทหาร ไม่ใช่ฝ่ายเรียกหารัฐประหาร
ไม่ว่าจะเป็นนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา นายวรวีร์ มะกูดี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตเลขาฯ ศอ.บต. ในยุคที่ร่วมกับมวลชนได้อย่างลงตัวมากที่สุด!
ขณะที่พื้นที่ชายแดนภาคใต้นั้น ในสถานการณ์ไฟใต้รุนแรง ทำให้กลายเป็นพื้นที่ความมั่นคง บทบาทหลักอยู่กับทหาร
คำถามก็คือ การทำหน้าที่ของกองทัพเพื่อดับไฟใต้นั้น ได้รับการสนับสนุนจากชาวบ้านในพื้นที่มากน้อยเพียงใด
แถม 4 ปีที่ผ่านมา การเมืองในประเทศก็อยู่ภายใต้รัฐบาลทหารคสช.
แล้วผลการลงประชามติรัฐธรรมนูญฉบับคสช. เมื่อ 7 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมานั้น
เสียงของคนใน 3 จังหวัดใต้ บ่งบอกอะไรถึงรัฐบาลทหาร!?
หรือสะท้อนอะไรให้เห็นต่อบทบาททหารใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้หรือไม่
เพราะทั้ง 3 จังหวัด เสียงโหวตออกมาชัดเจนว่า ไม่รับรัฐธรรมนูญ สูงกว่ารับ!!
ปัตตานี ไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญร้อยละ 64.98 ไม่เห็นชอบคำถามพ่วงร้อยละ 65.67
ยะลา ไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญร้อยละ 60.07 ไม่เห็นชอบคำถามพ่วงร้อยละ 60.77
นราธิวาส ไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญร้อยละ 63.96 ไม่เห็นชอบคำถามพ่วงร้อยละ 64.62
นอกเหนือจากหลายจังหวัดในภาคอีสาน และในภาคเหนือที่โชว์จุดยืนประชาธิปไตยปฏิเสธรัฐธรรมนูญยุคทหารแล้ว
ก็ 3 จังหวัดใต้นี่แหละ ที่ปฏิเสธรัฐธรรมนูญ ยุครัฐบาลทหารอย่างเด็ดขาด!
ดังนั้นการเกิดของพรรคประชาชาติ ที่อดีตส.ส.ส่วนใหญ่แยกออกมาจากพรรคเพื่อไทย
ย่อมสอดคล้องต้องกันกับกระแสของประชาชนใน ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และน่าจะรวมถึงสงขลาด้วย
ไม่ว่าจะเรื่องรัฐธรรมนูญฉบับคสช. ไม่ว่าจะเรื่องการทำหน้าที่ของกองทัพในไฟใต้
โอกาสของพรรคประชาชาติจึงน่าจะมีสูง ในหลายๆ พื้นที่ โดยเฉพาะใน 3-4 จังหวัดใต้!
อ่านต่อ: