คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
กลุ่มที่ถลำลึกไปร่วมล้มรัฐบาลประชาธิปไตย เมื่อ 3 ปีก่อน แล้ววันนี้อยู่ในสภาพอกหัก ผิดหวังกับการเมืองยุคปัจจุบัน ทั้งกำลังเผชิญมรสุมเศรษฐกิจการค้าตามปัญหาการเมืองการปกครอง แต่ก็พยายามหาคำอธิบายเพื่อให้ดูดีขึ้นมาว่า การเมืองยุคนี้ไม่ต่างจากเผด็จการรัฐสภาในยุครัฐบาลเพื่อไทย ที่พวกเราไปร่วมกันต่อต้าน
พยายามทำให้การร่วมล้มรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ดูดีมีสกุลขึ้น ด้วยการอ้างว่านั่นคือเผด็จการรัฐสภา
ก่อนจะสรุปอย่างสวยหรูว่า ไม่ว่าเผด็จการแบบไหน เราไม่เอาด้วยทั้งนั้น
อันที่จริงแล้ว เมื่อตอนที่ชุมนุมชัตดาวน์ แล้วรัฐบาลยิ่งลักษณ์ประกาศยุบสภา แต่แกนนำม็อบยังไม่ยอมรับ เดินหน้าชุมนุมต่อไป
ชัดเจนอยู่แล้วว่า แบบนี้เป้าหมายคือทำทุกวิถีทาง เพื่อกดดันให้ทหารออกมายึดอำนาจ
ชัดเจนอยู่แล้วว่า เพื่อจะให้ประชาธิปไตยต้องหยุดลง และให้รัฐบาลทหารเข้ามาปกครองแทน!
แล้วนึกไม่ออกกันหรือว่า รัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร เน้นเรื่องความสงบความมั่นคงอย่างไร
มีข้อจำกัดอย่างไรบ้าง กระทบต่อเสรีภาพอย่างไร กระทบต่อเศรษฐกิจการค้าอย่างไรบ้าง
ครั้นเมื่อพบกับสภาพปัญหามากมายในวันนี้ ก็เลย ต้องย้อนไปปลุกคำว่าเผด็จการรัฐสภา
เพื่อทำให้การถูกแกนนำม็อบสะกดจิตไปร่วมล้มประชาธิปไตย ไม่ดูเลวร้ายเกินไป!
ทั้งที่ความจริงแล้ว รัฐสภาในยุคนั้น เป็นสภาที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน เป็นประชาธิปไตยเต็มเปี่ยม
แต่การที่พรรคการเมืองหนึ่งผูกขาดชัยชนะ เป็นรัฐบาลหลายสมัย แถมพรรคนี้ก็มีจุดอ่อนคือ ถูกนายทุนใหญ่ ชี้นำได้
แต่จะมาเหมารวมว่าทั้งระบบเป็นเผด็จการรัฐสภาได้อย่างไร!?
เผด็จการคือการปกครองที่อำนาจอยู่ในมือคนเดียวหรือคนกลุ่มเดียว ประชาธิปไตยคืออำนาจอยู่ในมือประชาชน
การเมืองก่อนโดนรัฐประหาร เป็นยุคที่อำนาจการเมืองอยู่ในมือประชาชนแน่ๆ
เป็นยุคที่คนมี 1 สิทธิ 1 เสียง เสมอภาคกันแน่ๆ
แต่อะไรที่เป็นข้ออ่อน อะไรที่ไม่ดีพอ ก็ต้องระดมความคิด ระดมข้อเท็จจริง เพื่อให้ประชาชนเจ้าของอำนาจการเมือง ได้ร่วมเรียนรู้และร่วมพัฒนาการเมือง
ไม่ใช่เห็นว่า เลือกตั้งไปก็ชนะอยู่พรรคเดียว เลยไปตีตราว่านั่นคือเผด็จการรัฐสภาเพื่อปูทางไปสู่การ โค่นล้มประชาธิปไตยทั้งระบบ!
แล้ววิธีล้มการเมืองที่อ้างว่าเป็นเผด็จการรัฐสภา ทำกันอย่างไร
ให้รถถังออกมาควบคุมการปกครอง
ที่เรียกว่าเผด็จการรัฐสภานั้นไม่ใช่เผด็จการแน่ๆ
แต่ที่ไปพึ่งพิงแอบอิงนั้น ใช่แน่ๆ!