คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
ใช้เวลาเพียง 5 วัน สามารถปิดคดีใหญ่ระดับฆ่าหมู่ 8 ศพได้ ต้องถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงของตำรวจไทย ยุคที่ใครต่อใครจ้องจะปฏิรูปให้ได้ จ้องจะผ่านั่นหั่นนี่ให้ได้ เชื่อว่าคณะกรรมการปฏิรูปทั้ง 36 คน จะต้องพิจารณารายละเอียดการทำคดีนี้ของตำรวจ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการกำหนดแนวทางปฏิรูปด้วย
เป็นตัวอย่างรูปธรรม สดๆ ร้อนๆ ชัดเจน
เช่น ถ้าแยกงานสอบสวนออกไปต่างหาก การทำงานของตำรวจจะลื่นไหลได้เช่นนี้หรือไม่
ใช้เวลา 5 วัน ทั้งสืบสวน ทั้งสอบสวนพยาน สอบบุคคลเกี่ยวข้อง เพื่อเชื่อมประสานกัน
รวมทั้งต้องใช้งานพิสูจน์หลักฐาน งานนิติวิทยา ศาสตร์ อย่างกลมกลืนกันทั้งขบวน
ถ้าแยกออกไปเป็นส่วนๆ ต่างหากจากกัน เพื่อ เป้าหมายทำให้ตำรวจเป็นองค์กรเล็กๆ ไร้อำนาจ
แล้วจะทำคดีใหญ่ขนาดนี้ ได้ภายใน 5 วันหรือไม่!?!
คิดดูแล้วกัน คนร้ายทั้งแก๊งมีเกือบ 10 คน
ก่อคดีเสร็จ แยกย้ายกันหลบหนี เอาของกลางไปฝังในป่า เอารถของเหยื่อไปเผากลางป่า
เอารถคันก่อเหตุไปซ่อนไว้อีกทาง
กระบวนการทำงานของตำรวจ อันครบพร้อมทุกด้าน ทั้งสืบ ทั้งสอบ ทั้งวิทยาศาสตร์
เมื่อทำได้อย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สอดประสานกันตลอดเวลา
เพียง 5 วันก็คลายคดีได้หมดจด จับผู้ต้องหาได้ครบถ้วน พร้อมตรวจยึดพยานหลักฐานแน่นหนา ชนิดดิ้นไม่หลุด!
คดีนี้ทำได้อย่างไร แล้วถ้าปฏิรูปจะทำให้ตำรวจมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือถดถอยลงไป
พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานปฏิรูป คงต้องให้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. อธิบายต่อกรรมการทั้งหมดอย่างละเอียด
เพราะ ผบ.ตร.ลงไปคุมคดีเองทุกขั้นตอน
ไปตรวจที่เกิดเหตุเองตั้งแต่วันแรก เพราะรู้ดีว่าเป็นคดีใหญ่และซับซ้อน
กระทั่งวันดีเดย์จับคนร้ายทั้งแก๊ง ก็ไปสอบสวนเอง กระทั่งนำตัวไปขุดหาหลักฐานที่ไปฝัง จุดที่เอารถคนตายไปเผาเพื่ออำพรางคดี
ผบ.ตร.นำทีมตำรวจ ทำงานตั้งแต่เย็นค่ำยันสว่าง รู้จริงและอธิบายได้จริง
ที่สำคัญคดีนี้ ถ้าตำรวจจับกุมไม่ได้ หรือจับแล้วไม่ครบถ้วน พยานหลักฐานขาดๆ วิ่นๆ คดีไม่สมบูรณ์แบบ มีข้อครหามากมาย
ขวัญกำลังใจของประชาชนจะเป็นเช่นไร
ถ้าตำรวจไม่มีความพร้อมในการทำงาน ลงเอยจะเป็นอย่างนี้หรือไม่!?
