“วงค์ ตาวัน”

การอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีฆ่านายเอกยุทธ อัญชันบุตร เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา คือเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม โดยเป็นการยื่นฎีกาของจำเลยที่ 5 จ.ส.อ.อิทธิพล เพ็งด้วง เพียงรายเดียว ซึ่งศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามอุทธรณ์ จำคุก 1 ปี 4 เดือน

ส่วนจำเลยที่ 1-4 และจำเลยที่ 6 ไม่ได้ยื่นฎีกา ถือว่าคดีเป็นที่สิ้นสุด ให้บังคับโทษตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

เป็นอันปิดฉากคดีฆ่านายเอกยุทธที่โด่งดังเกรียวกราวมาตลอด 4 ปี

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2556

ต่อมาตำรวจจับกุมนายสันติภาพ หรือบอล เพ็งด้วง อายุ 25 ปี คนขับรถประจำตัวซึ่งเป็นผู้วางแผนและลงมือ ร่วมกับเพื่อนสนิทชื่อนายสุทธิพงศ์ หรือเบิ้ม พิมพิสาร อายุ 30 ปี

ทั้งคู่ให้การรับสารภาพ ด้วยสาเหตุเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์สิน

จากนั้นนำไปชี้จุดฝังศพที่จ.พัทลุง และขุดพบร่างนาย เอกยุทธ โดยมีเพื่อนอีก 2 คนสารภาพว่าช่วยจัดการเรื่องศพ

ส่วนเงินสด 4 ล้านเศษที่ได้มา พ่อกับแม่ของนายบอล นำไปซ่อนเอาไว้ ซึ่งตำรวจตามยึดมาได้

ทั้งหมดให้การรับสารภาพ นำชี้จุดเกิดเหตุ จุดฝังศพ และที่ซ่อนทรัพย์สินได้ตรงหมด

แต่ก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเอาความเชื่อทางการเมืองเป็นตัวนำ ก่อกระแสโต้แย้งคดี หาว่าตำรวจจับผิด จับแพะ!?!

ทั้งที่เป็นการจับกุมคนร้ายถึง 6 คน

ถ้ามีแพะ หรือถูกผู้มีอิทธิพลคนไหนบีบบังคับให้รับบาปแทน มีหรือจะไม่มีใครโวย!!

เดือนกันยายน 2556 อัยการยื่นฟ้องทั้ง 6 คนเป็นจำเลยต่อศาล

นายสันติภาพหรือบอล เป็นจำเลยที่ 1 นายสุทธิพงศ์หรือเบิ้ม จำเลยที่ 2 นายชวลิตหรือเชาว์ วุ่นชุม อายุ 25 ปี จำเลยที่ 3 นายทิวากร หรือทิว เกื้อทอง อายุ 20 ปี จำเลยที่ 4 ส่วนพ่อแม่ของนายบอล คือ จ.ส.อ.อิทธิพล เป็นจำเลยที่ 5 นางจิตอำไพ เพ็งด้วง เป็นจำเลยที่ 6

ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 และ 2 ร่วมกันใช้อาวุธปล้นทรัพย์จากนายเอกยุทธ บังคับให้ออกเช็คเบิกถอนเงินกว่า 4 ล้านบาท แล้วใช้เชือกรัดคอจนตาย

จากนั้นนำศพไปฝังในไร่ร้างที่อ.เมืองพัทลุง โดยจำเลยที่ 3-4 ช่วยฝังศพ ส่วนจำเลยที่ 5-6 เป็นผู้เก็บเงินสดของผู้ตาย 4,242,000 บาท ที่จำเลยที่ 1 ฝากไว้

จนเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2557 ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิตจำเลยที่ 1-2 แต่คำให้การมีประโยชน์ จึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

จำคุกจำเลยที่ 3 เป็นเวลา 13 เดือน และจำคุกจำเลยที่ 4 เป็นเวลา 8 เดือน ส่วนจำเลยที่ 5-6 จำคุก 1 ปี 4 เดือน

วันที่ 30 มิถุนายน 2559 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืน ตามศาลชั้นต้น และจำเลยที่ 5 ยื่นฎีกา และมีคำพิพากษายืนในชั้นฎีกา

เป็นอันจบสิ้นคดี

โดยจำเลยทั้ง 6 รับสารภาพทุกขั้นตอน ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครร้องเรียนว่าถูกบังคับเป็นแพะ

ไม่ได้เป็นไปดังที่คนกลุ่มหนึ่งเคลื่อนไหวอย่าง เป็นเรื่องเป็นราวเป็นฉากๆ แม้แต่น้อย!!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน