“วงค์ ตาวัน”

มีแถลงการณ์จากฟากตะวันตก แสดงความปลาบปลื้มชื่นชมรัฐบาลคสช. เตรียมจะฟื้นคืนความสัมพันธ์กลับมา แต่พร้อมๆ กันก็เน้นย้ำสัญญาการเลือกตั้ง โดยยึดถือตามที่หัวหน้าคสช.ประกาศเอาไว้ว่า จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2561

นี่แหละที่เป็นประเด็นสำคัญ นำมาซึ่งข้อถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์กันไปทั่วเมืองไทย

เพราะอากัปกิริยาหลายอย่างจากฝ่ายที่มีอำนาจในขณะนี้ ทำให้คนในประเทศไทยจำนวนไม่น้อย ไม่รู้สึกมั่นใจเลยว่า จะมีการเลือกตั้งในปีหน้

อย่างว่า ความคิดแบบฝรั่งตะวันตกนั้น เป็นสังคมที่พูดอะไรตรงไปตรงมา

ดังนั้นพอเห็นว่า ระดับนายกฯ ระดับหัวหน้าคสช. แถลงเองอย่างชัดแจ้ง ก็คงรู้สึกพอใจ และเชื่อใจ

อียูเลยเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมว่าการเลือกตั้งจะมีในพฤศจิกายน 2561 !?!

ในทางกลับกัน สำหรับสังคมตะวันออกแบบไทยๆ ที่พูดจาอะไรก็เกรงอกเกรงใจกัน หรือพูดกันให้สบายใจไปก่อน

โดยมักจะทำใจเผื่อกันเอาไว้ด้วยว่า ถึงเวลาจริงๆ อาจจะไม่เป็นเช่นนั้น

ปากหวานให้สบายใจกันไปก่อน แต่ต้องพร้อมทำใจว่าอาจไม่เป็นเช่นนั้นก็ได้

อีกทั้งที่พูดเอาไว้นั้นก็หลายเดือนแล้ว สถานการณ์มันเปลี่ยนไปตลอดเวลา!?

บรรดาเซียนการเมืองรู้ดีว่า ถ้าให้เลือกตั้งในสถานการณ์แบบนี้ โอกาสที่กลุ่มอำนาจเดิมจะคงอำนาจเอาไว้ต่อไป ไม่ราบรื่นแต่อย่างใด

แม้ว่าพรรคการเมืองขั้วตรงข้าม คงไม่มีทางเข้ามาเป็นรัฐบาลได้ ไม่สามารถยึดกุมเก้าอี้นายกรัฐมนตรีได้

เพราะฝ่ายนี้ ปูทางเอาไว้อย่างรอบคอบรอบด้านแล้ว นายกฯต้องเป็นคนนอกแหงๆ และคงเป็นคนหน้าเดิม

เนื่องจากมีพรรควุฒิฯ 250 เสียงพร้อมโหวตให้ได้ นายกฯจากคนนอกอยู่แล้ว

แต่เสียงในสภาผู้แทนฯนี่สิ!!

ไม่มีทางที่พรรคไอ้ห้อยไอ้โหน จะสามารถเข้ามามีที่นั่งได้มากมาย

แนวโน้มที่ประเมินกัน หากมีเลือกตั้งในวันนี้ พรรคขั้วตรงข้ามทหาร น่าจะเข้าสภาได้เกิน 200 เสียง!

อย่างนี้ต่อให้ได้เก้าอี้นายกฯจากคนนอก แต่รัฐบาลอำนาจเดิมนั้นก็ทำงานลำบาก

โอกาสที่จะกวาดเสียงในสภาผู้แทนฯได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แทบไม่มี

สถานการณ์เป็นเช่นนี้ ในบ้านเราจึงไม่ค่อยเชื่อกันแล้วว่าจะมีเลือกตั้งในปีหน้า

เพราะปรัชญาไทยๆ นั้น มักเชื่อในสิ่งที่กล่าวกันว่า

ความแน่นอนที่สุด คือความไม่แน่นอน!!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน