“วงค์ ตาวัน”
การที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกมาแสดงความเห็นกดดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในเรื่องนาฬิกา ด้วยการยกตัวอย่าง 2 รัฐมนตรีในยุครัฐบาลที่นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ตัดสินใจลาออกทันที เพียงแค่เกิดข่าวอื้อฉาว เพื่อไม่ให้เป็นภาระรัฐบาล
ก็คือการเรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร ลาออกโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ถือเป็นการเรียกร้องที่น่าสนใจ และน่าจะนำมาใช้เป็นบรรทัดฐานกับทุกคนในทุกรัฐบาลด้วย!
ไม่ควรเป็นเพียงแค่ออกมาพูดให้ดูหล่อๆ เมื่อเห็นจังหวะเหมาะที่จะเก็บคะแนนตุนเข้ากระเป๋าเอาไว้
ที่สำคัญในยุค นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ มีกรณี 99 ศพ ที่หนักหนาสาหัสยิ่งกว่ากรณีใดๆ
แต่ไม่เคยได้ยินได้เห็นท่าทีแสดงความรับผิดชอบใดๆ จากนายอภิสิทธิ์ในเรื่องคนตายนับร้อย ดังกล่าวเลย!?
สำหรับกรณีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตรนั้น ล่าสุด มีคำพูดจากเจ้าตัวแล้วทำนองว่า
พร้อมจะลาออกทันที หากป.ป.ช.ชี้ว่ามีความผิด
คงพูดจาสไตล์ชายชาติทหาร
ถ้าผิดก็ลาออกเองได้ ไม่ต้องมาไล่!
ที่สำคัญประโยคนี้ พล.อ.ประวิตร คงต้องการตอบกลับบรรดาคนกันเอง ที่ออกมาเปิดเกมถล่มประวิตร และแยกประยุทธ์ออกมา
ซึ่งต้องย้ำว่า กระแสเรื่องนาฬิกานั้น ต้องแยกออกเป็น 2 ส่วน
ส่วนหนึ่งคือ ข้อสงสัยจากผู้คนในสังคม ซึ่งมีสิทธิ์จะเรียกร้องให้ตรวจสอบ รวมทั้งการทำหน้าที่หาความจริงของสื่อมวลชน อันเป็นเรื่องประโยชน์ส่วนรวม
แต่กระแสที่ถล่มรุนแรงอีกส่วนหนึ่ง เป็นเรื่อง “คนกันเอง” เป็นความขัดแย้งภายในของขบวนการโค่นล้มรัฐบาลเลือกตั้ง ซึ่งชักหวั่นเกรงสถานการณ์ “ขาลง” ของคสช.
ก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวตีประวิตร ป้องประยุทธ์
พอเกิดเรื่องนาฬิกาซ้ำซ้อนหลายเรือน ก็เลยยิ่งเข้าทางขบวนการนี้
แล้วยิ่งหากเชื่อมโยงเข้ากับคำเตือนของ ป๋าเปรม ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ว่า กองหนุนเริ่มหมดแล้ว
พอมีสัญญาณจากป๋าออกมาเช่นนี้ พวกกองหนุนก็เริ่มออกอาการมากขึ้น
คำเรียกร้องของนายอภิสิทธิ์เรื่องการแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง เป็นเรื่องดี และต้องสนับสนุน ทั้งต้องเป็นบรรทัดฐานเดียวกันในทุกยุค รวมทั้งรัฐบาลที่มีเหตุ 99 ศพด้วย
ขณะเดียวกัน หากย้อนไปวันที่นายอภิสิทธิ์ออกมาร่วมเดินเป่านกหวีดเสียงดังลั่น
นี่ก็ต้องถือเป็นอีกกองหนุนที่ร่วมผลักดันจนเกิด 22 พฤษภาคม 2557
นี่ก็คืออีกกองหนุนที่เริ่มมีท่าทีล่าสุด ถอยฉากจากรัฐบาลทหาร!