ในช่วงรำลึก 24 มิถุนายน 2475 วันเปลี่ยนแปลงการปกครองไปสู่ประชาธิปไตยที่ผ่านมาครบ 90 ปี แม้จะดูยาวนานและไม่คืบหน้าไปไหนมากนัก แถมในวันนี้การเมืองไทยยังถอยหลังอย่างน่าเศร้า เป็นยุคอำนาจทหารครอบงำ มี 250 ส.ว.อยู่เหนือเสียงส.ส.ที่ประชาชนเลือกเข้ามา ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริง

แต่คนรักประชาธิปไตยในยุคนี้ ไม่มีใครท้อถอย ทั้งยัง มั่นใจว่า ขอบเขตการผลักดันประชาธิปไตยมีแต่แผ่กว้างไปมากขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลักดันการเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้างของคนรุ่นใหม่นั้น จุดติดไปเรียบร้อยแล้ว ค่อยๆ ลุกลามขยายตัวไปเงียบๆ

ขณะเดียวกัน ชัยชนะของคนกทม. ในการเลือกนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มาเป็นผู้ว่าฯ เป็นอีกปรากฏการณ์สำคัญของฝ่ายประชาธิปไตย

แถมผ่านมาแล้ว 1 เดือน ผู้ว่าฯ กทม.ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง ยังคงทำงาน ทำงานและทำงาน ไม่มีหยุดนิ่ง

ในวาระการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเช่นนี้ จึงยิ่งกล่าวขวัญกันถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ในทุกจังหวัด เป็นอีกหนึ่งเวทีที่ประชาชนควรมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง!

ตลอด 90 ปีของการเปลี่ยนแปลงประชาธิปไตย เราได้เห็นการดิ้นรนของฝ่ายอนุรักษนิยมการเมือง เพื่อทำให้การเมืองไทยถอยหลังไปเป็นเผด็จการเป็นระยะ

ปล่อยให้ประชาธิปไตยเบ่งบานได้ไม่นาน ก็ต้องหาทางล้มกระดานเพื่อกลับไปสู่ยุคอำนาจการเมืองอยู่ในมือคนหยิบมือเดียว

จาก 2475 จึงต้องมี 14 ตุลาคม 2516 ลุกขึ้นล้มรัฐบาลเผด็จการทหาร เพื่อเบิกม่านประชาธิปไตยอีกรอบ

หลังปี 2516 เป็นยุคทองของขบวนการนักศึกษาร่วมกับประชาชน ในการยกระดับการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมของสังคมไทย

ก่อนจะเกิดเหตุ 6 ตุลาคม 2519 เพื่อล้มขบวนการนักศึกษาและนำประเทศกลับไปสู่ยุคมืดอีกหน!

จากนั้น การเมืองไทยก็ปรับเปลี่ยนสู่ประชาธิปไตย ผ่านการเลือกตั้ง ผ่านรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนบ้าง

สลับกับโดนฝ่ายขวาล้าหลัง พลิกสถานการณ์ ฉุดให้ถอยหลังเป็นระยะๆ

แถมมีรูปแบบใหม่ๆ เช่น ก่อม็อบเรียกหาทหารในปี 2548-2549 และม็อบไม่เอาการเลือกตั้งในปี 2556-2557

การรัฐประหารปี 2549 และรัฐประหาร 2557 คือ ความพยายามครั้งใหญ่ของฝ่ายอนุรักษนิยมการเมือง เพื่อทำประเทศให้ถอยหลังไปมากที่สุด!

ไม่ว่าอย่างไร ฝ่ายประชาธิปไตยก็ยังเป็นพลังที่ไม่เคยหมดสิ้น ไม่เคยขาดสาย

เพราะการเมืองต้องเป็นของประชาชน ต้องมีสิทธิเสรีมีส่วนร่วม

พื้นฐานสุดก็คือต้องมีการเลือกตั้ง

ความสำเร็จของการเลือกผู้ว่าฯ กทม. ประชาชนเลือกเองและได้คนที่ตอบสนองประชาชนจริงๆ

จะเป็นกระแสใหญ่ที่ขยายตัวไปเรื่อยๆ เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ในจังหวัดอื่นๆ

เพราะการเลือกตั้งในทุกระดับ คือ การเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมและตัดสินใจ!

วงค์ ตาวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน