โรงงานผลิตพืช…มิติใหม่

คอลัมน์ วงล้อเศรษฐกิจ

โรงงานผลิตพืช…มิติใหม่จากปัญหาการทำการเกษตรในปัจจุบันที่ต้องเผชิญข้อจำกัดต่างๆ ทั้งสภาพอากาศที่แปรปรวน พื้นที่ทางการเกษตร ที่มีจำกัด ตลอดจนปัญหาแรงงานในภาคการเกษตรที่มีแนวโน้มลดลง ล้วนส่งผลต่อปริมาณและคุณภาพของผลผลิตทางการเกษตรที่ยากต่อการควบคุม

ดังนั้น เทคโนโลยีการผลิตพืชสมัยใหม่ที่ทั่วโลกต่างให้ความสนใจอย่างมากคือ โรงงานผลิตพืช (Plant Factory) จึงเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาดังกล่าว เพราะเป็นการผลิตพืชในรูปแบบใหม่ที่เป็นระบบปิด ซึ่งสามารถควบคุมการปลูกพืชได้อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งสภาพแสง ความชื้น อุณหภูมิ แร่ธาตุ ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่พืชใช้ในการ เจริญเติบโต

ประเมินว่า ในอีก 3-8 ปีข้างหน้า (ปี 2565-2569) ไทย จะมีการนำโรงงานผลิตพืชเข้ามาประยุกต์ใช้ในภาคเกษตรแพร่หลายเพิ่มขึ้น และสามารถทำในลักษณะการค้าเชิงพาณิชย์ ได้ ตามแนวทางรูปแบบของภาครัฐและเอกชนที่ได้ดำเนินการไปบ้างแล้ว

คาดว่าโรงงานผลิตพืชจะเริ่มอยู่ในช่วงแพร่หลาย ตั้งแต่ปี 2565-2569 โดยต้นทุนโรงงานผลิตพืชอาจลดลงราว 20% ต่อปี ไปอยู่ที่ 1.0-2.4 ล้านบาท จากต้นทุนในช่วงระยะเริ่มต้นที่ราว 3 ล้านบาท อันจะทำให้ผู้ที่สนใจในธุรกิจโรงงานผลิตพืชเข้าสู่ธุรกิจได้ง่ายขึ้น สอดคล้องกับการคำนวณในรูปเปรียบเทียบการทำงานของโรงงานผลิตพืชและโรงเรือนทั่วไปในปี 2562 (ระยะเริ่มต้น) และปี 2567 (ระยะแพร่หลาย) แสดงให้เห็นว่า อีก 5 ปีข้างหน้า ในแง่ของผลผลิตและประสิทธิภาพของแรงงานต่อพื้นที่อาจไม่เปลี่ยนแปลงคือ โรงงานผลิตพืชจะมีผลผลิตและประสิทธิภาพของแรงงานต่อพื้นที่มากกว่าโรงเรือนทั่วไปถึง 10 และ 16 เท่า ตามลำดับ

ขณะที่ในด้านต้นทุนการผลิตต่อหน่วย พบว่า อีก 5 ปีข้างหน้า โรงงานผลิตพืชจะมีต้นทุนการผลิตต่อหน่วยที่ลดลง คือ ในปี 2567 โรงงานผลิตพืชจะมีต้นทุนการผลิตต่อหน่วยสูงกว่าโรงเรือนทั่วไปราว 8.9 เท่า จาก 18.4 เท่าในปี 2562 ขณะที่ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยของโรงเรือนทั่วไปจะเพิ่มขึ้นจากต้นทุนแรงงานที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ

ดังนั้นมองว่าโรงงานผลิตพืช เป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจในฐานะเครื่องมือทางการเกษตรที่มีความแม่นยำสูง

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน