ศาสนาเกือบทุกศาสนาในโลกนี้มักกล่าวถึงหรือเชื่อในชีวิตหลังความตาย ไม่ว่ามีพระเจ้าหรือไม่มีพระเจ้าก็ดีจะมีความเชื่อว่า สวรรค์สถิตอยู่เบื้องบน หรือในท้องฟ้า และดวงดาวในท้องฟ้าอาจจะเป็นแสงสว่างจากตัวของเทพของเทวดา หรือเป็นพื้นที่ที่อยู่ของเทวดา
และก็เชื่อกันต่อไปอีกว่า ณ ที่บนสวรรค์นั้นเป็นที่อยู่อาศัยที่มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งอาหาร น้ำ และแม้แต่เมรัยรสเลิศ สวยงาม อบอุ่น และรุ่งเรืองด้วยสันติสุข
ศาสนาอิสลาม มีกฎเกณฑ์ในการจะวาดรูปเขียนรูป จึงไม่บอกชัดเจนว่ามีสวรรค์อยู่บนท้องฟ้าหรือไม่อย่างไร สวรรค์นั้นพระเจ้าได้สร้างขึ้นเพื่อให้มนุษย์ที่กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมา และผ่านการพิพากษาให้ได้อยู่บนสวรรค์ที่บรมสุข
สำหรับคริสต์ศาสนิกชนทำเครื่องหมายเพื่อให้ความเคารพต่อพระเจ้า ด้วยการทำสัญลักษณ์ ตรีเอกานุภาพ และชี้และมองไปบนท้องฟ้า เพื่อขอบคุณต่อพระเจ้าที่สถิตอยู่บนสวรรค์อย่างไร ในรูปภาพของการสร้างโลกสร้างมนุษย์ ของไมเคิล แอนเจโล จะเห็นภาพของพระเจ้ากำลังให้กำเนิดมนุษยชาติ บนท้องฟ้าที่มีภาพของมวลเมฆ ส่วนภายในวิหารจะมีรูปของนาก พิราบขาวที่เขียนตัวแทนของพระจิตในสัญลักษณ์ของตรีเอกานุภาพ อยู่บนจุดสูงสุดของเพดานวิหาร และจะเขียนฝ้าเพดานนั้นเป็นท้องฟ้า
ด้านศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู ที่ถึงแม้ว่าพระเจ้าสูงสุดสามองค์ของศาสนาจะมีภาพว่าประทับอยู่บนภูเขาสูงสุดหรืออยู่ในทะเลมหาสมุทรก็ตาม แต่ก็ยังมีความเชื่อว่า ท้องฟ้ายังมีสวรรค์อันเป็นที่อยู่ของเทวดา
ขณะที่พุทธศาสนา ก็มีเรื่องของท้องฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่บางครั้งสวรรค์ก็คือที่อยู่ของเทพเทวดาที่อยู่บนเขาพระสุเมรุ
ท้องฟ้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลทัศน์ ที่ให้เทวดาต่างใช้เป็นสัญจรไปมาหากัน
ฝ่ายมหายาน ท้องฟ้าเป็นที่ตั้งของมันดาละ หรือบางทีก็เรียกว่า พุทธภูมิหรือพุทธมณฑลที่มีพระพุทธเจ้าซึ่งปรินิพพานไปแล้ว และยังประทับเพื่อสั่งสอนเวไนยสัตว์อยู่
การแสดงสัญลักษณ์ของท้องฟ้าทางสถาปัตยกรรมไทย ศิลปินไทยจะใช้สีแดงเป็นสัญลักษณ์ และมีภาพวาดหรือลายแกะ เรียก ดาวเพดาน น่าจะหมายถึงจักรวาลทัศน์หรือโลกอื่นๆ ที่มีศูนย์กลางของจักรวาลเหมือนกับเขาพระสุเมรุ
ชวพงศ์ ชำนิประศาสน์
