บทเรียนการพกปืน / ทุกข์ของชาวโคราช
คอลัมน์ บ.ก.ตอบจดหมาย
บทเรียนการพกปืน
เรียน บ.ก.ข่าวสด
คดีลุงวิศวะยิงวัยรุ่นเสียชีวิตที่ ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี เป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจและวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ซึ่งขณะนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 10 ปี กรณีนี้ถือว่าเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนในสังคมได้เป็นอย่างดีในเรื่องของอารมณ์และการมีสติ หากขาดผึงชั่ววูบไปเมื่อไหร่ ก็จะมีผลต่ออนาคตทันที มนุษย์มีอารมณ์โกรธ หลง ได้แต่ต้องรีบดึงสติกลับมาให้เร็ว และนึกถึงผลที่จะตามมาถ้ากระทำไป อยู่ในสังคมคนหมู่มากบางครั้งเห็นการกระทำที่ไม่ถูกหูถูกตาก็ต้องมองข้ามไป เพื่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมไปถึงอนาคตของเราและครอบครัว
นับถือ
ป้าครู
ตอบ ป้าครู
เห็นด้วยว่าเป็นอุทาหรณ์สำหรับทุกคน จุดสำคัญคือ การพกพาอาวุธปืน ปกติการอนุญาตให้ประชาชนที่นอกเหนือจากเจ้าหน้าที่สามารถมีปืนหรือพกปืนได้นั้น ต้องมีเหตุจำเป็นในการป้องกันตัว เช่น มีอาชีพที่ต้องเดินทางและเสี่ยงภัย กรณีไปท่องเที่ยววันหยุดแล้วพกปืนจึงเป็นเหตุไม่สมควร เพราะคนเราเมื่อมีเหตุจำเป็นก็หยิบฉวยอาวุธใกล้มือ ถ้าไม่มีปืนก็จะทำให้ผลร้ายของเหตุการณ์นี้ลดลงไป
ทุกข์ของชาวโคราช
ถึง คอลัมน์ บ.ก.ตอบจดหมาย
ชาวบ้านชุมชนที่ 5 บ้านหัวถนน หมู่ 7 ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ชุมทางถนนจิระ–ขอนแก่น รูปแบบทางคู่ขนานกับพื้นดินและปิดจุดตัดถนนข้ามทางรถไฟ ก่อสร้างทางต่างระดับเป็นสะพานรูปเกือกม้าความยาว 1 กิโลเมตร ความสูง 10 เมตร สร้างลูกกรงเหล็กเป็นแนวกั้นป้องกันการข้ามจุดตัดทางรถไฟ ลักษณะกายภาพของที่ตั้งบ้านหัวถนน
ถือเป็นพื้นที่ชายขอบรอยต่อระหว่างเขตเมืองที่มีทางรถไฟเป็นแนวแบ่งเขตการปกครอง และเป็นชุมชนดั้งเดิมมีประชากรกว่า 1 พันคน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและรับจ้างทั่วไป รวมทั้งเป็นที่ตั้งของสถาบันการศึกษา และเป็นเส้นทางเชื่อมต่อถนนสาย ฉ หรือทางหลวงชนบท นม.1111 ทางเลี่ยงเมืองด้านทิศตะวันออก เมื่อการรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดใช้รถไฟทางคู่ โดยปิดจุดตัดถนนข้ามทางรถไฟและให้ใช้สะพานเกือกม้าแทนช่องทางเดิม
ส่งผลกระทบต่อการเดินเท้าและใช้รถจักรยานปั่นข้ามไปอีกฝั่งที่มีระยะทางไม่เกิน 50 เมตร พระสงฆ์เดินมารับบิณฑบาตไม่ได้ ผู้สูงวัยและนักเรียนที่ไม่มียานพาหนะ ต้องรอให้มีคนมารับขึ้นรถ มิเช่นนั้นต้องเดินเท้าหรือปั่นจักรยานขึ้นสะพานเกือกม้าข้ามที่ทั้งสูงชันและเพิ่มระยะทางประมาณ 1 ก.ม. จึงมีการลักลอบตัดลูกกรงเหล็ก เพื่อไม่ต้องใช้สะพานเกือกม้าข้าม
ในแต่ละวันพบการเดินเท้าหรือจูงรถจักรยานปั่นข้ามนับ 100 คน สุ่มเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ ในฐานะชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ขอให้ รฟท.เยียวยาความเดือดร้อน
หากรื้อถอนสะพานหรือสร้างทางลอดข้ามไม่ได้ ก็ควรสร้างสะพานลอยคนข้าม มิเช่นนั้นวิถีชีวิตชาวบ้านจะมีปัญหาในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ นอกจากนี้ รฟท.ไม่ได้ตีเส้นจัดแบ่งเส้นทางจราจรและติดตั้งป้ายเตือน ทางลงจากสะพานเกือกม้าเข้าหมู่บ้านเป็นช่วงคอขวด หากไม่ชินเส้นทางและการเลี้ยวตัดเข้าช่องทางหลักกะทันหัน มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงมาก หลังเปิดใช้สะพานเกือกม้าไม่ถึง 1 ปี มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหลายครั้งทั้งบนและทางลงสะพาน ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหามาตรการแก้ไขลดปัญหา โดยติดตั้งไฟสัญญาณหรือป้ายเตือนด้วย
นับถือ
เกษม
ตอบ คุณเกษม
ข้อเสนอของคุณซึ่งก็คือข้อร้องเรียนของชาวบ้าน น่าเห็นใจมาก สวัสดิภาพของประชาชนเป็นเรื่องที่การรถไฟต้องเข้าใจและหาทางเยียวยาโดยเร็ว