ไม่หวังกับรัฐประหาร/ชาวนายังถูกกดราคาข้าว

คอลัมน์ บ.ก.ตอบจดหมาย

เรียน ..ข่าวสด

บ.ก.ตอบจดหมาย – รัฐประหารครั้งที่แล้วที่สัญญาว่าจะปฏิรูปประเทศ แต่แล้วก็ผลพวงที่ตามมาก็คือยุทธศาสตร์แห่งชาติ 20 ปี ไหนบอกว่าระบบเศรษฐกิจพอเพียง ที่ทำจริงก็คือเศรษฐกิจฟุ่มเฟือย เอาภาษีอากรมาถลุงด้วยประชารัฐ ล่าสุดก็ ชิม ช้อป ใช้ เฟสสามที่ตกม้าตายไปเรียบร้อย และตามมาด้วยเกษตรอินทรีย์ ที่อุ้มแต่สารก่อมะเร็ง ฝ่ายรัฐบาลล่าสุดก็มีปัญหาเรื่องแบนสารพิษ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ เกษตร อุตสาหกรรม และสาธารณสุข วันนี้เกษตรตกแต่งพันธุกรรมแพร่หลายเต็มตลาด ทำให้อุตสาหกรรมเกษตรครอบครองพันธุ์พืชและสัตว์ที่เป็นอาหารของคนไทย เท่ากับเป็นเจ้าชีวิตของคนไทยเพราะเป็นเจ้าของพืชพันธุ์เกือบทั้งหมด ข้าวที่ในอนาคตเกษตรกรก็ต้องซื้อพันธุ์ข้าวมาปลูกทุกปี

ดังนั้นกรณีต่ออายุสารพิษสามชนิดจึงเป็นผลประโยชน์ของภาคอุตสาหกรรมเกษตรเท่านั้นมิใช่เพื่อผลประโยชน์ของเกษตรกร ดูเหมือนจะละเลยปัญหาสาธารณสุข เพราะคำสัมภาษณ์ระดับผู้บริหารแถลงออกมาว่า อาจจะทบทวนการแบนไกลโฟเซตเพราะสหรัฐยังใช้ เป็นการโยนหินออกมาล่วงหน้าแล้ว จำเป็นต้องเลิกแบนไกลโฟเซต เพราะมีผลต่อเนื่องในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ต้องนำเข้าถั่วเหลืองและข้าวสาลีจากสหรัฐ (มากที่สุด) และบราซิลที่ยังใช้ไกลโฟเซต ซึ่งก็ต้องมีการปนเปื้อน ส่งผลให้เนื้อสัตว์ที่เลี้ยงด้วยอาหารสัตว์ที่มีการปนเปื้อนสารก่อมะเร็งซึ่งจะส่งผ่านถึงผู้บริโภคด้วย เป็นเหตุผลที่ไม่ให้ความสำคัญกับสุขภาพของประชาชนเลย ข้าพเจ้าจึงสิ้นหวังกับการเมือง สัญญากับตัวเองว่าจะโหวตโนไม่เลือกพรรคการเมืองใดๆ ตลอดชีวิต แล้วก็จะไม่ยินดียินร้ายกับรัฐประหาร เพราะไม่สามารถตั้งความหวังกับการรัฐประหารได้อีกต่อไป อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ใครทำก็ต้องรับต้องเตรียมรับกรรมที่กระทำกับคนทั้งชาติ

น้องถุงเงิน

ตอบ น้องถุงเงิน

สภาพการเมืองในวันนี้ ก็เป็นอย่างที่คุณเขียนระบายความสิ้นหวังมาทั้งหมด แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่า เป็นการเมืองที่เพิ่งผ่านการรัฐประหาร และคณะรัฐประหารยังไม่คายอำนาจอย่างถึงที่สุด ประชาธิปไตยวันนี้จึงยังครึ่งๆ กลางๆ อยู่ เห็นด้วยว่าไม่สามารถตั้งความหวังกับการรัฐประหาร ไม่ควรเกิดรัฐประหารด้วยซ้ำ เพราะไม่ได้แก้ปัญหาอย่างแท้จริง แต่จะต้องผลักดันประชาธิปไตยให้เต็มใบกว่านี้ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจต่างๆ ได้มากขึ้น








Advertisement

ชาวนายังถูกกดราคาข้าว

เรียน ..

ราชการส่วนกลางบอกว่า ข้าวเปลือกจะขยับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวราคาสูง โดยราคาเกณฑ์กลางข้าวเปลือกหอมมะลิอยู่ที่ 15,286.95 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกเหนียว ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง 16,186.25 บาทต่อตัน แต่เมื่อหลายวันก่อนมีกลุ่มชาวนาที่ปลูกข้าวหอมมะลิ 105 ในพื้นที่หลายตำบล ของอำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร นำข้าวเปลือกหอมมะลิที่เก็บเกี่ยวผลผลิตในฤดูกาลนาปี 2562 มาร้องเรียนว่า ท่าข้าว โรงสี พ่อค้ากดราคาข้าวเหลือเพียง 8,000-9,000 บาท ราคาเกณฑ์กลางตั้งไว้กับราคาขายจริงของชาวนาช่างต่างกันมาก ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ได้ คือผู้บริโภคซื้อข้าวแพง แต่ชาวนายังขายข้าวเปลือกได้ราคาต่ำกว่าเกณฑ์ แล้วผลกำไรไม่ตกไปอยู่ที่ใครมากมาย

มะกล่ำตาหนู

ตอบ มะกล่ำตาหนู

ที่คุณบอกเล่ามา เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนว่า นโยบายด้านข้าวและชาวนา ยังเป็นเพียงคำพูดที่ไม่ได้มีผล เป็นจริง

อ่าน –

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน