บก.ตอบจดหมาย : เสียงจากชาวไร่ยาสูบอีสาน

เสียงจากชาวไร่ยาสูบอีสาน

เรียน บ.ก.หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครือข่ายชาวไร่ยาสูบภาคอีสานซึ่งทำอาชีพปลูกไร่ยาสูบกว่า 14,000 ครัวเรือนในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด นครพนม และจังหวัดอื่นๆ ในภาคอีสาน เพิ่งรู้ข่าวการออกกฎหมายให้เก็บเงินสมทบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจากบุหรี่ ที่จะเป็นการซ้ำเติมให้กับอาชีพทำไร่ยาสูบของพวกเรา เพราะตอนนี้ถูกลดโควตาการซื้อใบยาจากการยาสูบฯ ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เราจึงอยากขอความช่วยเหลือจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้ยกเลิกการออกกฎหมายฉบับนี้เพื่อเห็นแก่ความเดือดร้อนของชาวไร่ยาสูบที่ต้องอาศัยเงินจากการปลูกยาในการเลี้ยงครอบครัว และอยากให้ท่านตรวจสอบด้วยว่ากฎหมายนี้ขัดกับ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ ตามที่เป็นข่าวอยู่หรือไม่

คนร่างกฎหมายดังกล่าวอาจไม่เข้าใจว่า การเก็บเงิน สมทบฯ เพียงมวนละ 10 สตางค์ หรือเท่ากับ 2 บาทต่อบุหรี่ 1 ซอง จะทำให้ราคาบุหรี่เพิ่มขึ้นจาก 60 บาทเป็นราคา 90-95 บาท เพราะภาษีสรรพสามิต ที่เมื่อราคาเกินซองละ 60 บาทจะทำให้ต้องเสียภาษีสรรพสามิตที่ร้อยละ 40 ของราคาขายปลีก จากที่เคยเสียที่ร้อยละ 20 ทำให้ต้องขึ้นราคาบุหรี่ไม่ใช่แค่ 2 บาท แต่ต้องขึ้นถึง 30-35 บาทต่อซองเป็นอย่างน้อย ทำให้การยาสูบฯ ไม่ซื้อยาสูบจากเราเหมือนเดิม

พี่น้องชาวไร่ยาสูบกำลังประสบมรสุมจากภาษียาสูบที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี ทุกครั้งที่รัฐบาลขึ้นภาษียาสูบ หรือ เก็บเงินจากยาสูบไปบำรุงกองทุนต่างๆ ของรัฐ ผู้ที่ต้องรับผลกระทบท้ายที่สุดก็คือพวกเราชาวไร่ยาสูบ ทั้งๆ ที่เรากำลังเดือดร้อนจากการขึ้นภาษีสรรพสามิต การลดโควตาการซื้อของการยาสูบฯ รัฐบาลกลับจะออกกฎหมายให้เก็บเงินสมทบไปช่วยกองทุนบัตรทองจากสินค้าบุหรี่ และที่สำคัญคือร่างกฎหมายให้เก็บเงินสมทบจากแค่ยาสูบ ไม่เก็บจากสินค้าบาปอื่นๆ ที่มีผลเสียต่อสุขภาพไม่น้อยกว่ายาสูบ หรือเป็นเพราะบริษัทเหล้าเบียร์มีอิทธิพลมากจนท่านไม่กล้าเก็บภาษี

พวกเราเห็นว่ารัฐบาลสามารถใช้ช่องทางอื่นเพื่อหา รายได้เพิ่มได้ เช่น เงินภาษีและเงินบำรุงกองทุนต่างๆ ที่เก็บไปจากยาสูบแต่ละปีจำนวนมหาศาลให้ สสส.และกองทุนอื่นๆ แต่ทำไมต้องร่างกฎหมายมารีดภาษีเพิ่มจากยาสูบอย่างเดียวโดยไม่เป็นธรรม

สร้างความเดือดร้อนแก่เกษตรกรที่กำลังประสบปัญหาอยู่แล้ว ทั้งเรื่องโควตาการปลูกยาสูบ อุทกภัย และราคาพืชผลเกษตรอื่นๆ ที่ตกต่ำลงทุกวันๆ ไม่สามารถทดแทนรายได้จากการปลูกยาสูบ ที่สร้างรายได้ให้ชาวไร่เฉลี่ยราวฤดูกาลละ 40,000 บาทต่อครัวเรือน ที่สำคัญคือมีการเขียนกฎหมายโดยตั้งใจหลีกเลี่ยง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของประเทศ ซึ่งพวกเราเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และไม่สมควรทำแบบนี้

พวกเราจึงกราบขอความเมตตาจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และท่านกระทรวงการคลัง ได้โปรดยับยั้งการออกกฎหมายฉบับดังกล่าวด้วย หากเราไม่ได้ทำอาชีพยาสูบต่อไป พวกเราก็ไม่มีทางอื่นที่จะหารายได้ทดแทนมาเลี้ยงชีพได้ดีเท่ายาสูบอีก จึงขอความเมตตาจากท่านช่วยแก้ไขในเรื่องดังกล่าวที่จะเป็นการช่วยเหลือชาวไร่ยาสูบทั้งประเทศไม่ให้เดือดร้อนในเรื่องอาชีพไปมากกว่านี้

ด้วยความเคารพ

ชาวไร่ยาสูบ

ตอบ ชาวไร่ยาสูบ

ถือเสียงสะท้อนจากเกษตรกรนับหมื่นครัวเรือน ที่รัฐบาลจำเป็นต้องรับฟังด้วย เพื่อนำไปทบทวนว่าในการออกกฎหมายเรื่องนี้ เพราะมีผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปถึงชาวไร่