เรียน บรรณาธิการข่าวสด
พวกเราชาวไร่ยาสูบสายพันธุ์เวอร์ยิเนีย เบอร์เลย์ เตอร์กิซ รวมกว่า 50,000 ครอบครัวทั่วประเทศ รู้สึกอัดอั้นตันใจมากที่รัฐบาลขึ้นภาษีบุหรี่ครั้งแล้วครั้งเล่าตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา รัฐบาลนี้เก็บเงินบำรุงกีฬาฯ ร้อยละ 2 ของภาษีสรรพสามิตในปี 2558 ขึ้นภาษีบุหรี่ชนเพดานในปี 2559 ขึ้นภาษีบุหรี่และเริ่มเก็บภาษีเพื่อมหาดไทยอีกร้อยละ 10 ของภาษีสรรพสามิต ในปี 2560 เริ่มเก็บเงินบำรุงผู้ สูงอายุร้อยละ 2 ของภาษีสรรพสามิต ในปี 2561 และกำหนดจะขึ้นภาษีบุหรี่อีกเท่าตัวในปี 2562
จนบัดนี้การยาสูบแห่งประเทศไทย ตัดโควตารับซื้อใบยาสูบไปครึ่งหนึ่งแล้ว ล่าสุดรัฐบาลกำลังเร่ง ผลักดันร่างพระราชบัญญัติจัดเก็บเงินสมทบบัตรทองจากบุหรี่ อีกมวนละ 10 สตางค์ หรือซองละ 2 บาท คิดเป็น 3 เท่าของเงินบำรุงผู้สูงอายุที่เพิ่งเก็บไปเมื่อมกราคมที่ผ่านมาเอง
เมื่อสถานการณ์บีบบังคับ จำเป็นต้องออกมาปกป้องอาชีพที่เลี้ยงปากเลี้ยงท้องมาหลายชั่วอายุคน ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนการยกร่าง พ.ร.บ.ฯ ไปยังหน่วยงานต่างๆ แล้ว เช่น สภานิติบัญญัติแห่งชาติ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะกรรมการนโยบายวินัย การเงินการคลังของรัฐ และมีการลงชื่อคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ฯ จากชาวไร่ยาสูบสุโขทัยและเพชรบูรณ์กว่า 1,500 คน
ขอสรุปความเห็นคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.ฯ ไว้ดังนี้
1.รายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ.ฯ ของกระทรวงสาธารณสุข ไม่มีการใส่ผลกระทบต่อชาวไร่ยาสูบเลย แม้ว่าพวกเราจะเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย และยังไม่มีการปรับแก้มาตราใดๆ ทั้งที่มีข้อคัดค้าน โดยให้เหตุผลว่าจะรีบเสนอร่างดังกล่าวและกระทรวงการคลังให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายแล้ว การกระทำเช่นนี้ถือว่าขัดมาตรา 77 ในรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2560 ที่ให้นำผลการรับฟังความคิดเห็นร่างกฎหมายมาพิจารณาประกอบการตรากฎหมายทุกขั้นตอน
2.ร่าง พ.ร.บ.ฯ ใช้คำว่า “เงินสมทบ” แทนที่จะใช้คำว่า “ภาษี” เพื่อจงใจหลีกเลี่ยงมาตรา 26 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐฯ และขัดมาตรา 62 ของรัฐธรรมนูญฯ ที่ให้รัฐรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด ถ้าร่าง พ.ร.บ.ฯ มีผลใช้ได้ก็จะเป็นตัวอย่าง ที่ไม่ดี ให้รัฐบาลในอนาคตใช้เป็นช่องทางในการหาเงินนอก งบประมาณมาถลุงเล่นอีกเช่นเคย
3.ร่าง พ.ร.บ.ฯ เก็บภาษีแต่จากบุหรี่มวนเพียงอย่างเดียว โดยไม่เคยชี้แจงเหตุผลว่าทำไม ต่างจากการเก็บเงินบำรุง สสส. เงินบำรุงไทยพีบีเอส เงินบำรุงกีฬา และเงินบำรุงผู้สูงอายุ ที่นอกจากเก็บจากบุหรี่แล้วยังเก็บจากยาเส้นและสุราด้วย จึงถือเป็นการเลือกปฏิบัติและสร้างความไม่เป็นธรรมในสังคม ขัดกับมาตรา 62 ของรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ผลการประชาพิจารณ์อ้างเพียงอย่างเดียวว่า กระทรวงการคลังเห็นชอบแล้วและต้องรีบเสนอกฎหมาย นี่คือเหตุผลที่กระทรวงสาธารณสุขให้เท่านั้น
Advertisement
4.กระบวนการยกร่าง พ.ร.บ.ฯ ส่อเจตนาขัดมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ มีการตั้งคณะกรรมการยกร่างฯ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2561 ใช้เวลาเพียง 6 วัน ในการร่างกฎหมาย เพราะเอาขึ้นเว็บไซต์เพื่อรับฟังความเห็นเมื่อวันที่ 26 ก.ค.2561 และต่อมาจัดประชาพิจารณ์ในวันที่ 21 ส.ค.2561 โดยคนที่เข้าร่วมมากกว่าร้อยละ 90 ต่างมีข้อกังวลและไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาของร่างกฎหมายฉบับนี้แทบทั้งสิ้น แต่กระทรวงสาธารณสุขกลับไม่ปรับแก้ร่างกฎหมาย และไม่เอาผล กระทบที่จะเกิดจากชาวไร่ยาสูบมาใส่ไว้ในการวิเคราะห์ผลกระทบจากร่าง พ.ร.บ.และเช็กลิสต์ข้อมูลที่ต้องใช้ในการเสนอ ครม.ด้วย เราจึงวิตกกังวลว่า ครม.จะให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ฯ โดยไม่ทราบว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับชาวไร่ยาสูบ
5.ร่าง พ.ร.บ.ฯ ซ้ำเติมปัญหาของอุตสาหกรรมยาสูบ กระทบ ปากท้องชาวไร่ยาสูบ ชาวไร่ยาสูบที่เพิ่งถูกการยาสูบแห่งประเทศไทยตัดโควตาการรับใบยาสูบลงครึ่งหนึ่งในปีนี้ และหากเก็บเงินสมทบฯ อีกจะทำให้ราคาบุหรี่เพิ่มขึ้นจาก 60 บาทเป็นราคา 95 บาท ยอดขายการยาสูบแห่งประเทศไทยจะต้องลดลงกว่าครึ่ง และคงไม่สามารถรับซื้อใบยาสูบจากพวกเราได้อีกต่อไป
6.รัฐอาจจะสูญเสียรายได้จากภาษีบุหรี่ทั้งหมด เพราะคนหันไป สูบบุหรี่เถื่อนและยาเส้นกันหมด คนที่ได้ประโยชน์คือคนค้าของเถื่อนที่ไม่เสียภาษีและพ่อค้ายาเส้นที่เสียภาษีน้อยกว่าบุหรี่ 300 เท่าตัว
จากเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมด บีบให้ชาวไร่ยาสูบต้องออกมาเรียกร้อง เพราะท่านนายกฯ เคยบอกว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหน้า จะให้ความเป็นธรรม สร้างความโปร่งใส พวกเราชาวไร่ยาสูบอยากเห็นความจริงใจของรัฐบาล โปรดพิจารณาคำคัดค้านร่างพ.ร.บ.ฯ ให้ละเอียดและรอบด้านเสียก่อน เราทราบดีว่าท่านต้องการหาเงินให้กองทุนบัตรทอง แต่ทำไมถึงไม่เลือกใช้วิธีอื่นที่ไม่เลือกปฏิบัติและไม่สร้างความไม่เท่าเทียมทางสังคม และขัดแย้งกับนโยบายลดความเหลื่อมล้ำที่ท่านนายกฯ ได้พูดไว้เสมอ
ชาวไร่ยาสูบ จ.ร้อยเอ็ด
ตอบ ชาวไร่ยาสูบ ร้อยเอ็ด
ทุกเสียงของชาวบ้านควรต้องรับฟังและมีคำตอบหรือคำชี้แจงให้ได้ทราบกัน
