บทบาทของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กำลังอยู่ในลักษณะ “ดาวยั่ว”
ไม่ว่าเมื่อพรรคก้าวไกลเสนอให้เป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564
ไม่ว่าเมื่อประกาศจะลงสู่สนามการเลือกตั้ง “ท้องถิ่น”
คล้อยหลังเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็มีเสียงสำทับดังมาจากปาก พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ในฐานะ ส.ว.สำแดงอาการปลงในความขาดไร้ซึ่งมโนธรรมสำนึก
ว่าพรรคก้าวไกล ไม่ว่า นายธนาธร จึงรุ่ง เรืองกิจ
เหตุใดจึงลงความเห็นต่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในเรื่องมโนธรรมสำนึก
ทุกอย่างล้วนเริ่มต้นจากคำวินิจฉัยของตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญ กรณียุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีตัดสิทธิทางการเมือง 11 กรรมการบริหารของพรรค
ในนั้นรวมถึง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
การเสนอชื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นกรรมาธิการวิสามัญจึงถือว่าเป็นการท้าทาย ทั้งต่อคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและต่อสภาผู้แทนราษฎร
คำถามก็คือทำไมจึงกลายเป็นเรื่องมโนธรรมสำนึก
ทั้งพรรคก้าวไกลและ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มีความเห็นอย่างเดียวกัน
นั่นก็คือ การตัดสิทธิทางการเมืองหมายถึงตัดสิทธิมิให้สมัครรับเลือกตั้ง ตัดสิทธิมิให้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง เป็นเรื่องในทางการเมือง
แต่มิได้ตัดสิทธิในฐานะอันเป็น “พลเมือง”
ในฐานะอันเป็น “พลเมือง” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ย่อมมีสิทธิโดยบริบูรณ์ที่จะมีบทบาทหากว่าได้รับการเสนอชื่อและได้รับการแต่งตั้งอย่างชอบด้วยกฎหมาย
นี่ย่อมเป็นมโนธรรมและสำนึกรับผิดชอบของ “พลเมือง”
นับแต่นี้เป็นต้นไปกรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จะเป็นประเด็นในทางการเมือง
บรรดาปรปักษ์เก่าในทางการเมืองย่อมจะเคลื่อนไหวในทุกวิถีทาง ทุกกระบวนท่าเพื่อสกัดขัดขวางมิให้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และคณะก้าวหน้าแสดงบทบาท
นั่นก็คือ ไม่ยอมให้ขยับขับเคลื่อนในทาง การเมือง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน