ในที่สุดคดีล่าเสือดำที่ เปรมชัย กรรณสูต ประธานบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คน ตกเป็นผู้ต้องหา
ร่วมกันลักลอบล่าสัตว์ป่า ในทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี
พนักงานอัยการได้สั่งคดีแล้ว มีทั้งสั่งฟ้องและไม่ฟ้อง
สมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 แถลงสรุปความเห็นสั่งฟ้อง เปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาที่ 1 รวม 6 ข้อหา
ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในตัวหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงาน เจ้าหน้าที่, ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงาน เจ้าหน้าที่, ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้ม ครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น นำพาเอาไปเสียหรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากของสัตว์ป่าอันได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย และร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
ส่วน 5 ข้อหาที่สั่งไม่ฟ้องได้แก่ 1.ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 2.ร่วมกันมีเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
3.ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 4.ร่วมกันกระทำการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร
และ 5.ร่วมกันมีอาวุธปืนไปในตัวหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งข้อหานี้พนักงานสอบ สวนเขียนรวมกันในข้อหาแรกแต่ต่างกันคำว่ามีและพาอาวุธ
พร้อมส่งความเห็นไปให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 หากพิจารณาเห็นชอบ จะยื่นฟ้องศาลจังหวัดทองผาภูมิในทันที
ส่วนประเด็นค่าเสียหาย พนักงานอัยการเรียกค่าเสียหายให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย 462,000 บาท ให้กับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ
สำหรับความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับระบบนิเวศ ต้องไปเรียกร้องทางแพ่งต่อไป
ขณะที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ในฐานะผู้รับผิดชอบ ยืนยันจะลงความเห็นขัดแย้งในทุกข้อหาที่อัยการไม่ได้สั่งฟ้อง
ยกเว้นข้อหาเดิมที่พนักงานสอบ สวนสั่งไม่ฟ้องคือมีอาวุธปืนและข้อหาทารุณกรรมสัตว์
บิ๊กปู เตรียมทหารรุ่น 19 นายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 35
ขึ้นสารวัตรแผนก 2 กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม 2 ต.ค. 2535
ดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ รองผบช.ก., ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1, ผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
2556 เป็นผช.ผบ.ตร., ผบช.น.ปี 2557
ต.ค. 2558 รองผบ.ตร.และสมาชิก สปท.
ระบุอำนาจการฟ้องหรือไม่ฟ้อง เป็นอำนาจของพนักงานอัยการ ก็ต้องเคารพ
แต่ถ้ามีหนังสือถามความเห็นจากพนักงานสอบสวน ก็ต้องยึดแนวทางเดิมที่สั่งฟ้องไปทุกข้อหา
ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าจะเรียกประชุมคณะทำงาน ชี้แจงถึงแนวทางที่ตำรวจเห็นแย้ง
ก่อนส่งกลับให้อัยการภาค 7 ก่อนส่งไปที่อัยการสูงสุดชี้ขาด
ยืนยันตำรวจไม่ได้ขัดแย้งกับอัยการ การลงความเห็นต่างเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นหน้าที่ เป็นความเห็นทางอาญา
ส่วนคนถูกยื่นฟ้อง เปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย เดเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เจอ 6 ข้อหาหนัก
ลูกชายคนที่ 5 คนสุดท้องของหมอชัยยุทธ กรรณสูต ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มบริษัทอิตัลไทย
รับช่วงธุรกิจของครอบครัวในปี 2522 เนื่องจากพี่ชายคนโตประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต
สานต่อจนธุรกิจมีมูลค่านับหมื่นล้านบาท
เป็นประธานบริหาร บ.อิตาเลียนไทย ที่ถือหุ้นมากที่สุด และนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2537
ปี 2557 เป็น 1 ในบุคคลที่คสช.เรียกไปรายงานตัว อ้างว่ามีความสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทย
2560 ชื่อหลุดจาก 50 อันดับแรกของมหาเศรษฐีในไทยจัดโดยนิตยสารฟอร์บส์
หลังถูกอัยการสรุป 6 ข้อหาสั่งฟ้อง ก็ยังคงเก็บตัวเงียบ
หลังออกมาแถลงสรุปความเห็นทางคดีของคณะทำงานอัยการ
สมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 แจงด้วยว่า ขั้นตอนจากนี้ต้องส่งความเห็นส่วนที่อัยการสั่งไม่ฟ้องไปยังผบช.ภ.7 ว่าจะมีความเห็นแย้งกับอัยการ หรือเห็นพ้อง
โดยต้องทำให้เสร็จก่อนครบกำหนดฝากขัง 7 ผัด ซึ่งคดีนี้จะเริ่มฝากขังครั้งที่ 6 ในวันที่ 7 เม.ย.นี้
ย้ำอัยการใช้ดุลพินิจในฐานะนักกฎหมาย และพยานหลักฐานที่ปรากฏ พร้อมระมัดระวังความรู้สึกของประชา ชนที่รู้สึกสูญเสียเสือดำซึ่งถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
คณะทำงานอัยการคดีนี้ ไม่ได้ประวิงเวลา
พร้อมจะตอบคำถามสังคมได้ทุกประเด็น เพื่อให้ประชาชนคลายความกังวล
คดีนี้อัยการไม่ได้ทำงานแบบหมกเม็ด หรือเข้าข้างใครอย่างแน่นอน