ทะลุคนทะลวงข่าว : ดองคดีสลายชุมนุม 99 ศพ ‘ดีเอสไอ-อัยการ’แจงวุ่น ‘วิญญัติ’หวั่นสำนวนมุมดำ

ทะลุคนทะลวงข่าว : ผ่านมาแล้ว 8 ปี สำหรับคดีสลายการชุมนุมกลุ่มนปช. ปี 2553 จนมีผู้เสียชีวิต 99 ศพ และบาดเจ็บกว่า 2 พันคน ในสมัยรัฐบาลนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่มี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เป็นผอ.ศอฉ.

แต่สำนวนยังไม่เข้าสู่การพิจารณาสืบพยานดำเนินคดีในชั้นศาล

ท่ามกลางขบวนการเคลื่อนไหว ปิดคดี โดยทำเป็นสำนวนมุมดำหาผู้กระทำความผิดไม่ได้

ทั้งที่ศาลไต่สวนการตายและชี้แล้ว 17 ศพ ซึ่งรวมถึง 6 ศพในวัดปทุมวนาราม ตายด้วยกระสุนปืนฝั่งเจ้าหน้าที่ทหาร

ส่งผลให้ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช. และ นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา ..กมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสา 1 ใน 6 ศพวัดปทุมฯ บุกมา ทวงถาม ถึงสำนักงานอัยการสูงสุด

โดยมี ประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นมาพิจารณาใหม่ ของกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้รับฟังข้อร้องเรียน

พร้อมชี้แจงว่า ศาลได้คืนสำนวน 6 ศพวัดปทุมฯ มาให้อัยการ เพื่อให้อัยการส่งต่อไปพนักงานสอบสวน หาตัวผู้กระทำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 150

ทางอัยการยืนยันว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยังไม่ได้ส่งสำนวน ระบุว่าใครเป็นผู้กระทำผิดส่งมายังอัยการสำนักงานคดีพิเศษเเต่อย่างใด

ไม่ว่าจะสำนวนมุมดำหรือรูปเเบบปกติ

สำนวนดังกล่าวยังอยู่ที่ดีเอสไอ ซึ่งการดำเนินคดีต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า เจ้าหน้าที่ทหารคนใดใช้ปืนจากกระบอกไหนทำให้เสียชีวิต

ทางอัยการระบุว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ยังไม่สามารถหาตัวบุคคลและเรียกเจ้าหน้าที่ทหารที่ประจำจุดในวันนั้นมาสอบปากคำ รวมทั้งตรวจปืนได้

มีความเป็นไปได้ว่าคดีกลุ่มดังกล่าว พนักงานสอบสวนจะต้องมีความเห็นงดการสอบสวน เสนอให้อัยการพิจารณา

ส่วนสำนวนไต่สวนศพรายอื่นๆ 20 กว่าศพนั้น ดีเอสไอได้ส่งสำนวนมายังพนักงานอัยการคดีพิเศษเเล้ว เเละสำนวนที่ส่งมาทางดีเอสไอ มีความเห็นว่าไม่สามารถระบุหรือหาตัวผู้กระทำความผิดได้

จึงเห็นควรส่งให้อัยการ มีคำสั่งงดสอบสวนตามความเห็นของดีเอสไอ

โดยอัยการสำนักงานคดีพิเศษได้พิจารณาสำนวนที่ศาลมีคำสั่งไต่สวนการตาย 20 กว่าศพนั้นเเล้ว พบว่าในเหตุการณ์ที่มีคนตายมีความชุลมุนวุ่นวายในพื้นที่บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ มีการใช้เเก๊สน้ำตา พอคนสลายไปก็พบศพนอนตาย

ทางอัยการเลยเชื่อเเละสั่งให้ยุติการสอบสวนเป็นสำนวนมุมดำ

แต่คดี 6 ศพวัดปทุมวนาราม อัยการเห็นว่าศาลชี้ไว้ชัดเจนว่าหน่วยไหนเป็นคนยิง และใครเป็นผู้รับ ผิดชอบ

ขณะที่ ...ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ นรต.38 อดีตนายตำรวจที่โอนย้ายมาอยู่ดีเอสไอตั้งแต่ยุคบุกเบิกเมื่อปี 2547

ยอมรับว่าได้รับสำนวนจากอัยการ ส่งมาให้สอบเพิ่มเติมเมื่อ 24 ..

แต่ต้องเริ่มกระบวนการสอบพยานบุคคลใหม่ทั้งหมด เนื่องจากในสำนวนเดิม สอบปากคำเพียงเจ้าหน้าที่ในระดับหัวหน้าหน่วยในวันปฏิบัติการสลายการชุมนุม ปี 2553

ดังนั้น เมื่อเสนอให้แยกสำนวนเป็นรายละเอียด และลงลึกในรายละเอียดของตัวบุคคลที่ใช้อาวุธ ดีเอสไอก็ต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด

ยืนยันไม่ดึงคดี 99 ศพ

ทุกอย่างมีขั้นตอนกระบวนการสอบสวน แต่ต้องเริ่มกระบวนการสอบพยานหาตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดี

แต่หากไม่สามารถหาตัวผู้กระทำผิดมาแจ้งข้อกล่าวหาได้ จะงดการสอบสวนหรือไม่นั้น ยังไม่อยากมองถึงตรงนั้น

เพราะตอนนี้ยังมีเวลาทำคดี

วิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการ สมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิเสรีภาพ(สกสส.) เเละทีมทนายญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 6 ศพวัดปทุมฯ ก็ออกมาทวงถาม

ระบุคดีที่ศาลชี้ผลการตายและชันสูตรศพไปแล้ว 21 จาก 99 ศพ รวมทั้ง 6 ศพวัดปทุมฯ เกิดจากกระสุนของเจ้าหน้าที่ แต่อัยการส่งกลับมายังดีเอสไอ

คดีการเสียชีวิตของ ..กมนเกด ถือว่าชัดเจนสุด มีทั้งสำนวนพยานหลักฐานของตำรวจ สำนวนผลการไต่สวนการตาย การชันสูตรพลิกศพจากศาลว่า เสียชีวิตจากกระสุนของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ซึ่งมีรายชื่อเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ครบ 8 คน อย่างชัดเจน

ดังนั้น ย่อมเป็นหน้าที่ของสำนักงานคดีพิเศษ ในการส่งสำนวนให้อสส.สั่งฟ้องต่อศาล เพื่อหาข้อเท็จจริงตามกระบวนการต่อไป

ไม่ใช่ทำให้กลายเป็นสำนวนมุมดำเพื่อยุติคดี

สำนวนมุมดำเปรียบเสมือนเส้นชัย ตามกฎหมาย ถ้าไม่พบข้อมูลหลักฐานเพียงพอชี้ชัดว่าใครเป็นผู้กระทำ ความผิด จะส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทหารระดับปฏิบัติการที่สลายการชุมนุม และผู้สั่งการสลายการชุมนุมหลุดจากคดีทันที

ทั้งนี้ วันที่ 12 .. จะไปติดตามคดี 6 ศพวัดปทุมฯ ที่ดีเอสไอ ว่าสรุปสำนวนสั่งฟ้องคดีหรือไม่อย่างไร ต้องมีคำตอบในเรื่องนี้

เพื่อให้เกิดความชัดเจนและ ลดความสับสนต่อคดีการตายและ บาดเจ็บจำนวนมาก

รวมทั้งจะไปติดตามคดีนี้ก่อนเป็นการบุกเบิกเส้นทางทวงคืนความยุติธรรมทุกกรณีต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน