นปช.ทำบุญครบรอบ 8 ปี รำลึกเหยื่อสลายชุมนุมปี”53ซัดคดี 99 ศพไม่ได้รับการเหลียวแล “แม่เกด-พ่อเฌอ”ลั่นบุกพบ”บิ๊กตู่” จี้คดีลูกสาว-ลูกชาย ตร.เข้มกลุ่มคนอยากเลือกตั้งนัดชุมนุม 22 พ.ค. “ศรีวราห์”ฮึ่มเคลื่อนขบวนผิดกฎหมาย สั่งตั้งด่านตรวจเข้มทั่วประเทศ “โรม”ลั่นเดินขบวนไปทำเนียบ คสช.ไม่หวั่นเพื่อไทยฟ้องกลับ ชี้เป็นสิทธิ์ทำได้ แกนนำเชื่อไม่ถึงขั้น ยุบพรรค-ตัดสิทธิ์การเมือง “น้องเทือก”ยื่น ตั้งพรรค 27 พ.ค. ไม่ใช้ชื่อ”พรรคกปปส.” “ยงยุทธ”ขอพักการเมือง ไม่ยืนยันความเป็นสมาชิกเพื่อไทย

นปช.ทำบุญครบรอบ 8 ปี รำลึกเหยื่อสลายชุมนุมปี”53

คสช.ชี้ฟ้องพท.-ทำตามกฎหมาย
วันที่ 19 พ.ค. พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคสช. กล่าวถึงการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์เนื่องในโอกาสครบรอบ 8 ปี การสลายการชุมนุม 19 พ.ค. 2553 ว่า คิดว่าการแสดงออกและการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ไม่จำเป็นต้องทำวันนี้ จะทำวันไหนก็ได้ การเคลื่อนไหวอะไรต่างๆ ต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมาย จะละเมิดกรอบกฎหมายไม่ได้เพราะจะส่งผล กระทบด้านจราจรและจะทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เกิดความเดือดร้อน การแสดงออกและการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ก็เป็นกลุ่มคนเดิมๆ ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องพยายามอธิบายทำความเข้าใจให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะทำให้เกิดความเรียบร้อยของบ้านเมือง

โฆษกคสช. กล่าวถึงแกนนำพรรคเพื่อไทยจะฟ้องกลับคสช. หลังถูกคสช.ฟ้องดำเนินคดีจากการเปิดแถลงวิพากษ์วิจารณ์ผลงาน 4 ปีรัฐบาลคสช. เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่า ก็เป็นสิทธิ์ของแกนนำพรรคเพื่อไทยที่จะแจ้งความคสช. สุดแล้วแต่เลยถ้าจะดำเนินการแบบนั้น หากแกนนำพรรคเพื่อไทยแจ้งความจริงก็ต้องไปสู้คดีกันในกระบวนการ อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจร้องทุกข์กล่าวโทษการแถลงข่าววิพากษ์วิจารณ์ ผลงานรัฐบาล 4 ปีของพรรคเพื่อไทยนั้น ดำเนินการไปตามกรอบกฎหมาย อำนาจหน้าที่ เพื่อจะรักษากฎกติกาความสงบเรียบ ร้อยในบ้านเมืองให้ได้มากที่สุด

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเสียงวิจารณ์ว่ารัฐบาลกลั่นแกล้ง หลังคสช.แจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำพรรคเพื่อไทย ว่า หากคิดในมุมการเมืองสามารถคิดได้ทุกทางทั้งเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ควรทำหรือไม่ควรทำ แต่ถ้ามองในมุมของผู้รักษากฎหมายต้องให้ความเห็นใจเจ้าหน้าที่ เพราะบ้านเมืองอยู่ได้ด้วยกฎหมายจึงไม่มีทางเลือกหากปล่อยปละละเลยไปคนอื่นจะเอาเป็นแบบอย่าง ฉะนั้นใครทำผิดกฎหมายเจ้าหน้าที่จะไม่ละเว้น หากเจ้าหน้าที่ไม่ทำจะกลายเป็นว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ถ้ามั่นใจว่าไม่ผิดก็มาสู้กันตามกฎหมายและหากไม่ผิดก็ไม่มีใครเอาผิดได้ เรื่องกฎหมายจะกลั่นแกล้งกันไม่ได้

พท.เตือนสร้างปรองดอง
นายนพดล ปัทมะ แกนนำพรรคเพื่อไทย หนึ่งใน 8 แกนนำที่ถูกคสช.ตั้งข้อกล่าวหา กล่าวว่า ได้รับทราบหมายเรียกแล้วและจะเดินทางไปรับฟังข้อกล่าวหาที่กองบังคับการปราบปราบฯ วันที่ 21 พ.ค.นี้ และคิดว่าแกนนำคนอื่นที่ได้รับหมายจะเดินทางไปทุกคนซึ่งเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย ในส่วนของตนจะปฏิเสธข้อกล่าวหาของคสช.โดยหวังว่าพนักงานสอบสวนจะรับฟังและเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริงต่างๆ อย่างพอเพียงว่าแกนนำไม่ได้ฝ่าฝืนในคำสั่งคสช. ที่3/2558 ที่ห้ามดำเนินกิจกรรมทางการเมือง สำหรับเรื่องการฟ้องร้องกลับคสช.ตามที่มีข่าวนั้นยังไม่ขอพูดถึงเพราะต้องฟังรายละเอียดข้อมูลข้อเท็จจริงของข้อกล่าวหาก่อน

นายนพดลกล่าวว่า บรรยากาศบ้านเมืองกำลังเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งจึงอยากเห็นทุกฝ่ายร่วมกันทำบ้านเมืองให้กลับสู่ความเป็นปกติสุข โดยเปิดพื้นที่สิทธิเสรีภาพรวมทั้งปลดล็อกทางการเมือง ให้ทุกฝ่ายมีความเมตตาปรารถนาดีต่อกันเพื่อนำไปสู่ความปรองดองในสังคม บ้านเมืองจะเดินหน้าได้ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่าย เรื่องนี้ผู้เกี่ยวข้องคงคิดได้ว่าการมีเมตตาธรรมและความเป็นธรรมจะทำให้ความปรองดองเกิดขึ้นได้

เมื่อถามถึงข้อสังเกตว่าแกนนำพรรคเพื่อไทยอาจถูกดำเนินการลักษณะเดียวกับกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โดยเจ้าหน้าที่นำตัวขึ้นฟ้องศาลเพื่อฝากขังในทันที นายนพดลกล่าวว่า ยังไม่ทราบและไม่อยากคาดการณ์ถึงขนาดนั้น หวังว่าพนักงานสอบสวนจะเปิดโอกาสให้ได้ชี้แจงและให้ความเป็นธรรมกับทุกคน

ไม่กังวลตัดสิทธิ์-ยุบพรรค
นายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย หนึ่งในผู้แกนนำพรรคที่ถูกคสช.แจ้งข้อหา กล่าวกรณีคสช.แจ้งเอาผิดแกนนำพรรคจะเป็นเหตุนำไปสู่การยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมืองหรือไม่ ว่า มองว่าการดำเนินคดีคงไม่ถึงขั้นนั้น กฎหมายพรรค การเมืองในขณะนี้เรื่องการยุบพรรคแคบกว่าเดิมมาก เพราะคงเห็นว่าฟุ่มเฟือยเกินไปก็เลยตัดออกเยอะจึงไม่ได้วิตกกังวลอะไรในประเด็นนี้ เพราะดูแล้วไม่น่าจะไปถึงขั้นตัดสิทธิทางการเมือง

ส่วนการเข้าชี้แจงต่อกองบังคับการกองปราบปรามในวันที่ 21 พ.ค.นั้น เราจะไปรับทราบข้อเท็จจริงก่อนว่าเป็นอย่างไร และดูข้อเท็จจริงว่าการแจ้งข้อหาแกนนำสมเหตุสมผลหรือไม่ สำหรับการฟ้องกลับคสช.นั้น ต้องขอไปดูเหตุผลในการดำเนินคดีกับเราก่อนว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร เกินความเป็นจริงหรือไม่และเป็นไปโดยสมเหตุสมผลหรือไม่ หากพิจารณาแล้วไม่มีข้อเท็จจริงเกินความเป็นจริงก็อาจมาพิจารณาประเด็นตามกฎหมายอีกครั้ง

บ.ก.ลายจุดผูกโบแดงที่ป้ายบริเวณแยกราชประสงค์เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์พ.ค.53

เชื่อรัฐบาลเฉพาะกาลทำไม่ได้
นายชูศักดิ์กล่าวถึงแนวคิดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ว่า ต้องถามว่ารัฐบาลเฉพาะกาลมีความหมายอย่างไรและไม่เข้าใจว่ามีจุดประสงค์เป็นอย่างไร จึงต้องถามพล.อ.ชวลิต หากระบุว่าให้รัฐบาลเฉพาะกาลมีหน้าที่แก้ปัญหาเฉพาะเรื่องโดยใช้เวลา 5 เดือน 6 เดือน หรือ 8 เดือนก่อนกลับมาสู่การเลือกตั้งปกติ ก็แสดงว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.ต้องออกจากรัฐบาลใช่หรือไม่ แล้วจึงตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล แต่ถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะยอมลาออกหรือไม่ เรื่องนี้ชื่อก็บอกอยู่ว่าเป็นเรื่องเฉพาะหน้า เป็นเรื่องชั่วคราว เพื่อประคับประคองอะไรไว้สักระยะแล้วต้องมีเงื่อนไขอะไรหรือไม่ ในความเป็นจริงคงไม่สามารถทำได้เพราะพล.อ.ประยุทธ์ จะยอมลงจากอำนาจหรือไม่

นายชูศักดิ์กล่าวว่า ส่วนการตั้งพรรคของคสช.นั้นบทเรียนในอดีตมีให้เห็นหลายสมัยว่าการยึดอำนาจแล้วมาตั้งพรรคต่อ ไม่เคยมีพรรคไหนประสบความสำเร็จ อาจตั้งได้สักระยะหนึ่งก็แตกกระจาย

วัฒนาโวย-ฝากขังทันที
นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุ “กลัวจัง” และว่าพวกตนจะไปรับทราบข้อกล่าวหาที่กองปราบฯ ในที่ 21 พ.ค. เวลา 10.30 น. ตามขั้นตอนปกติเมื่อพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาและสอบคำให้การ ทุกคนจะปฏิเสธแล้วจะอนุญาตให้กลับเพราะไม่มีเหตุที่ต้องควบคุมตัวเนื่องจากผู้ต้องหาเป็นบุคคลสาธารณะ มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งและไม่มีเจตนาหลบหนี แต่คดีนี้ได้ข่าวว่าอาจนำตัวพวกตนไปฝากขังต่อศาลเหมือนที่ทำกับประชาชนกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง

นายวัฒนาระบุว่า พฤติกรรมที่คสช.ปฏิบัติกับพรรคเพื่อไทยคือการยืนยันว่าคสช.กับพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง คำถามที่เคยเกิดขึ้นว่าหลังเลือกตั้งจะเกี้ยเซี้ยหรือไม่ก็คงไม่ต้องตอบอีก ขอยืนยันอีกครั้งว่าพวกตนจะไม่ร่วมสังฆกรรมทางการเมือง รวมทั้งจะไม่ร่วมทำกิจกรรมใดที่ผิดไปจากครรลองประชาธิปไตยทั้งสิ้น

“เหวง”ยุฟ้องกลับข้อหาฟ้องเท็จ
นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. กล่าวว่า ก่อนที่แกนนำเพื่อไทยจะแถลงข่าวเกี่ยวกับผลงาน 4 ปีของรัฐบาล ตำรวจได้ไปพูดคุยทำความเข้าใจซึ่งแกนนำเปลี่ยนรูปแบบให้มีผู้แถลงเพียง 3 คน แสดงให้เห็นว่ายอมถอยและผ่อนปรน เหตุใดคสช.ไม่ยอมผ่อนปรน อีกทั้งคสช.ตีความว่าการแถลงข่าวเป็นการชุมนุมทางการเมืองขณะที่เพื่อไทยเห็นว่าเป็นการสรุปผลงาน จึงไม่เข้าข้อกล่าวหาของคสช.หากคิดตามหลักการนี้พรรคเพื่อไทยมีสิทธิ์ฟ้องร้องกลับคสช.ตั้งข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นจริงและเกินจากความเป็นจริง หรือจะพิจารณาได้ว่าเป็นการฟ้องเท็จ อาจเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

เมื่อถามกรณี 8 แกนนำเดินทางไปที่กองปราบฯ วันที่ 21 พ.ค. อาจไม่ได้รับการปล่อยตัว แต่จะนำตัวส่งฟ้องเพื่อฝากขังเช่นเดียวกับกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง นพ.เหวงกล่าวว่า หากมีการกระทำเช่นนั้นก็จะเป็นการพิสูจน์คสช.ว่ามีความจริงใจและเชื่อในกระบวนการยุติธรรมตามที่ระบุมาก่อนหน้านี้ หรือใช้กฎหมายในการกลั่นแกล้งคน

เมื่อถามว่าเป็นการเตรียมตัดแขนขาเพื่อนำไปสู่การยุบพรรคเพื่อไทยในอนาคตหรือไม่ แกนนำนปช. กล่าวว่า อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ คสช.คงประเมินแล้วว่าความนิยมของพรรคเพื่อไทยยังอยู่ และหากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นพรรคเพื่อไทยจะชนะแน่นอน จึงต้องหาวิธีลิดรอนกิ่งก้านสาขา หรือตัดรากถอนโคนได้ยิ่งดี จึงกังวลว่าเรื่องนี้อาจเป็นสาเหตุต่อเนื่องยาวไปถึงขั้นการยุบพรรคได้ และอาจจะยุบในช่วงที่ใกล้จะมีการเลือกตั้งเพื่อให้พรรคเพื่อไทยปรับตัวแก้ไขสถานการณ์ได้ไม่ทัน

“แม่เกด-พ่อเฌอ”ลั่นบุกพบ”บิ๊กตู่” จี้คดีลูกสาว-ลูกชาย

“ยงยุทธ”ขอพักการเมือง
รายงานจากพรรคเพื่อไทย แจ้งว่า จากการเปิดยืนยันสมาชิกของพรรคการเมืองเก่า ซึ่งครบกำหนดไปในวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่ายังมีสมาชิกเดิมที่ไม่มารายงานตัว รวมถึงนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตหัวหน้าพรรค ที่ไม่ได้มายืนยันความเป็นสมาชิกพรรคนั้น นายยงยุทธให้เหตุผลว่าต้องการพักกิจกรรมทางการเมืองไว้ก่อน เนื่องจากอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดี ที่ยังไม่ทราบว่าผลการพิจารณาจะออกมาในทิศทางใด จึงไม่อยากเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองในช่วงเวลานี้ โดยจะขออยู่เฉยๆ เพื่อใช้เวลาสะสางเรื่องต่างๆ ก่อน ส่วนอนาคตจะกลับมาร่วมงาน กับพรรคอีกหรือไปสมัครเข้าร่วมกับพรรคการเมืองใดถือเป็นสิทธิของนายยงยุทธที่สามารถกระทำได้

“ธานี” จดแจ้งชื่อพรรค 27 พ.ค.นี้
นายธานี เทือกสุบรรณ อดีตส.ส. สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ เผยถึงความคืบหน้าการจดแจ้งพรรคการเมืองใหม่ว่า ได้เปลี่ยนชื่อพรรคจากเดิมที่ใช้ชื่อพรรคกปปส. จะเปลี่ยนไม่ใช้ชื่อดังกล่าวเนื่องจากมีกปปส.บางคนไปอยู่พรรคอื่น หรือไปตั้งพรรคใหม่ จึงเกรงว่าหากจะใช้ชื่อเดิมอาจจะไม่เหมาะสม แต่ตอนนี้ไม่ขอบอกว่าจะใช้ชื่ออะไร เบื้องต้นจะไปจดแจ้งชื่อพรรคในวันที่ 27 พ.ค.นี้ จึงขอให้ไปรอดูชื่อพรรคในวันนั้น โดยตนจะไม่ได้เดินทางไปจดแจ้งชื่อพรรคด้วยตัวเองแต่จะส่งคนอื่นไปแทน

เมื่อถามว่า 1 ในสมาชิกพรรคมีนายเชน เทือกสุบรรณ อดีตส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ร่วมอยู่ด้วยหรือไม่ นายธานีกล่าวว่า อยู่ด้วย

ตร.เข้มการชุมนุม 22 พ.ค.
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. เผยถึงมาตรการดูแลการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งในวันที่ 22 พ.ค. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งจะเคลื่อนขบวนมาที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า การชุมนุมเป็นการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญแต่ต้องอยู่ในขอบเขตไม่ละเมิดกฎหมาย การชุมนุมในที่ตั้งบริเวณ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ สามารถกระทำได้ เพราะถือเป็นสถานที่ส่วนบุคคลถ้าเจ้าของสถานที่อนุญาตก็ไม่ผิดกฎหมาย หากเคลื่อนไหวหรือเคลื่อนขบวนออกนอกพื้นที่ไปยังจุดอื่นใดถือว่าผิดกฎหมาย ซึ่งไม่สามารถทำได้ เพราะการเคลื่อนขบวนย่อมส่งผล กระทบต่อการจราจรในพื้นที่ที่ขบวนเคลื่อนไปและตำรวจก็ไม่มีอำนาจที่ให้มีการชุมนุมบนผิวการจราจร เบื้องต้นนครบาลซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบหลักได้แจ้งไปยังแกนนำกลุ่มแล้วว่าไม่อนุญาตให้เคลื่อนขบวนโดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะต้องดำเนินการตามกฎหมายทันที

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า เพื่อความไม่ประมาทได้สั่งการเฝ้าระวังมือที่ 3 ที่อาจใช้สถานการณ์นี้ก่อความวุ่นวายโดยให้ตำรวจทั่วประเทศตั้งด่านความมั่นคงระดมตรวจค้นอาวุธทุกประเภทตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมาถึงสิ้นเดือนนี้ ส่วนวันที่ 22 พ.ค.ได้เตรียมกำลังตำรวจจากกองนครบาล 1 จำนวน 3 กองร้อยร่วมกับตำรวจฝ่ายสืบสวนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลความเรียบร้อยโดยรอบพื้นที่การชุมนุม และตลอดเส้นทางที่คาดว่าผู้ชุมนุมจะเคลื่อนขบวนผ่าน

โรมยันเดินขบวนไปทำเนียบ
ที่ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายรังสิมันต์ โรม แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ถึงการเคลื่อนการชุมนุมไปยังทำเนียบรัฐบาลวันที่ 22 พ.ค.นี้ ว่า ยืนยันว่าคงเป็นไปตามกำหนดการเดิม แม้ว่าคสช.จะห้ามก็ตาม ข้อเรียกร้องยังคงเป็น 3 ข้อเหมือนเดิมและยังมีข้อเรียกร้องย่อยอีก ที่ผ่านมามีการเจรจากับฝ่ายความมั่นคงอยู่ตลอดเพราะเชื่อว่าเราไม่ได้สร้างความวุ่นวายที่กระทบกับความมั่นคงใดๆ ดูได้จากการชุมนุมที่ผ่านมาที่เคลื่อนไปยังหน้าบก.ทบ.ก็ใช้ถนนช่องทางเดียว แต่เจ้าหน้าที่กลับดิสเครดิตว่าเราสร้างความวุ่นวาย การเคลื่อนการชุมนุมไปยังทำเนียบรัฐบาลครั้งนี้ จะมีผู้ชุมนุมมากน้อยแค่ไหน อยากให้มีประชาชนมาร่วมจำนวนมากโดยพยายามจะเดินไปให้ถึงทำเนียบให้ได้ ส่วนจะมีการค้างคืนหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์แต่เบื้องต้นไม่ค้างคืน

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าจะถูกจับดำเนินคดีอีกครั้ง นายรังสิมันต์กล่าวว่า ตนชินแล้ว เพราะตลอด 4 ปีโดนจับเข้าคุกมา 4 ครั้งแล้ว แต่ไม่มีใครอยากเข้าคุก

เมื่อถามว่าหากเกิดการประจันหน้ากับเจ้าหน้าที่จะแก้ปัญหาอย่างไร นายรังสิมันต์กล่าวว่า ทางกลุ่มได้ตั้งทีมสันติวิธีไว้หากเกิดปัญหาขึ้น โดยเป็นทีมด้านหน้าคอยเจรจาและประสานงาน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับผู้ร่วมชุมนุม การดำเนินการครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับประชาชนตัดสิน เพราะเห็นว่าการเลือกตั้งหากผิดไปจากเดือนพ.ย.61 ก็ถือว่าเป็นการผิดสัญญาแล้วซึ่งไม่มีเหตุผลรองรับที่จะไปเลือกตั้งในเดือนก.พ.62

นปช.ทำบุญเหยื่อพ.ค.53
เวลา 11.00 น. ที่วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน นปช.จัดพิธีทำบุญให้ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในพ.ค.2553 โดยมี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช. นางธิดา ถาวรเศรษฐ นพ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ร่วมงาน รวมทั้งญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตประมาณ 200 คน

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า กิจกรรมวันนี้จะเป็นกิจกรรมในรูปทำบุญกุศลเพื่ออุทิศให้วีรชนผู้เสียชีวิตและเป็นการให้กำลังใจกับญาติและเพื่อนร่วมอุดมการณ์ และยังคงติดตามทวงถามความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิตในการชุมนุมปี”53 ต่อไป เรียนฝ่ายผู้มีอำนาจให้เข้าใจและสบายใจว่าการจัดกิจกรรมนี้ไม่มีวาระที่จะไปเผชิญหน้าหรือสร้างสถานการณ์วุ่นวายทางการเมือง และไม่เคยปิดกั้นสำหรับผู้ที่จะให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองเข้ามาติดตามสังเกตการณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการทำบุญได้มีพิธีไว้อาลัยจุดเทียนสีแดง และวางดอกไม้กุหลาบสีแดงเพื่อไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิต

นายณัฐวุฒิให้สัมภาษณ์ว่า คดี 99 ศพของนปช. อาการหนักกว่าเรื่องการสร้างความปรองดองที่รัฐบาลทำไว้ การสร้างความปรองดองอย่างน้อยเห็นน้องเกี่ยวก้อย ที่ อนุสาวรีย์ชัยฯ แต่คดี 99 ศพไม่เห็นอะไรเลยแม้แต่เสียงอธิบายจาก ป.ป.ช.หลังจากยุติการชุมนุม ผ่านมา 8 ปีแล้ว วันนี้ทุกอย่างก็กลับไปเริ่มต้นที่ ป.ป.ช.อยู่เหมือนเดิม คดีนี้ยิ่งเดินยิ่งไกล ได้รับความเพิกเฉย ไม่ได้รับการเหลียวแลจากผู้ที่มีอำนาจที่จะรับผิดชอบ

ในเดือนนี้ป.ป.ช.จะรับคำร้องของเราไปพิจารณา ตนก็จะรอดู ที่สุดถ้าต้องพึ่งกระบวน การกฎหมายตนก็จะทำ ขอความกรุณาป.ป.ช.อย่าได้วางตัวเป็นคู่กรณีประชาชน ขอให้ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ตนเชื่อว่าต้องเป็นที่ยอมรับ

ยันไม่ยุ่ง 22 พ.ค.-จนท.อย่าแหลม
นายณัฐวุฒิ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งวันที่ 22 พ.ค.นี้ จะรุนแรงเหมือนปีพ.ศ.2535 หรือไม่ว่า กลุ่มคนอยากเลือกตั้งเป็นกลุ่มปัญญาชน เป็นผู้นิยมในสันติวิธีอย่างชัดเจน ข้อเรียกร้องไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปกว่าทำตามสัญญาคือการเลือกตั้ง การเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้ทุกครั้งที่ผ่านมาก็ยังไม่ปรากฏความกระทบกระทั่งหรือความรุนแรง ตนเห็นด้วยที่ประเทศไทยจำเป็นต้องมีการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด และเชื่อว่าแกนนำของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งไม่ได้ต้องการให้สถานการณ์บานปลาย เหตุการณ์ทั้งหมดจุดสำคัญอยู่ที่เจ้าหน้าที่หรือฝ่ายผู้มีอำนาจว่าจะปฏิบัติหรือแสดงออกอย่างไรต่อประชาชน

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ส่วนที่ตำรวจระบุฮาร์ดคอร์เสื้อแดงอย่าได้แหลมออกมา ไม่ทราบว่าหมายความว่าอะไร แต่ถ้าพูดถึงนปช. เรายืนยันหลักการสันติวิธีมาโดยตลอด และตลอดช่วงชุมนุมเคลื่อนไหวของกลุ่มคนคนอยากเลือกตั้งแกนนำนปช.ก็เคารพในแกนนำของกลุ่มดังกล่าว ไม่ได้เข้าไปมีบทบาทหรือมีส่วนร่วมแต่อย่างใด ฮาร์ดคอร์จะแหลมหรือไม่แหลมตนไม่ทราบ แต่อยากฝากบอกเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายอย่ามาแหลมเกินไป ทำให้สถานการณ์บานปลาย

แม่เกดทำบุญที่วัดปทุมฯ
เวลา 14.00 น. ที่วัดปทุมวนาราม นางพะเยาว์ อัคฮาด แม่น้องเกด-น.ส.กมลเกด อัคฮาด นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ พ่อของน้องเฌอ-นายสมาพันธ์ ศรีเทพ พร้อมญาติผู้สูญเสียทำบุญถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตจากการสลายชุมนุม พ.ค.53 ครบรอบ 8 ปี โดยมีนายอานนท์ นำพา นายสุนัย ผาสุก ที่ปรึกษาฮิวแมนไรต์วอตช์ ประจำประเทศไทย และนายอีโว ซีเบอร์ เอกอัครราชทูตสหพันธรัฐ สวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เข้าร่วมงาน

นางพะเยาว์กล่าวว่า 8 ปีที่ผ่านมาตนมาทำบุญถูกกลั่นแกล้งทุกครั้ง จะมีทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบคอยรังควาน ตนจะมาทำบุญที่นี่เจ้าหน้าที่โทร.มาขอร้องว่าอย่าประณาม คสช. จึงตอบไปว่าเป็นความชอบธรรม แต่ก็มีมารยาทมากพอที่จะไม่ด่าคสช.แต่ด่าศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เพราะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ และยังมีความคิดว่าศอฉ.ที่แปลงร่างมาเป็นคสช.เป็นผู้ร่วมรู้เหตุการณ์ ดังนั้นหากมีคำสั่งให้หยุดการสอบสวนและหยุดความยุติธรรม เพื่อลบความผิดให้ตนเองและกองทัพหรือไม่

คดีลูกไม่คืบจะบุกพบนายกฯ
นางพะเยาว์กล่าวว่า คดีความลูกสาวศาล ชี้มูลแล้วว่าเจ้าหน้าที่ทหารที่อยู่บนรางรถไฟฟ้าเป็นคนยิงประชาชนในวัดปทุมฯ แต่คดีถูกตีกลับไปกลับมาตอนนี้นิ่งเงียบ ตั้งแต่ รัฐบาลคสช. 2557 ขึ้นมาทุกอย่างเงียบหายไป 8 ปีนานเกินไปแล้วขอฝากให้ดำเนินการต่ออย่าหยุด ถ้าไม่มีคำตอบจากรัฐบาล ตนจะเดินทางไปร้องขอต่อนายกฯเองที่ทำเนียบรัฐบาล หรือที่ไหนก็ตามที่นายกฯ อยู่

หลังการสัมภาษณ์มีกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ โดยมีอุปกรณ์ขยายเสียงพร้อมฉายภาพคลิปเหตุการณ์ 19 พ.ค.2553 ตำรวจได้พูดคุยกับคณะผู้จัด ว่าจะปราศรัยและใช้เครื่องขยายเสียงไม่ได้ รวมทั้งสอบถามได้อนุญาตทางวัดหรือไม่ พูดคุยกันไม่นานเจ้าหน้าที่อนุญาตให้ฉายภาพเหตุการณ์ พร้อมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น ทุกอย่างราบรื่นโดยมีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบจากสน.ปทุมวัน และกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ร่วมสังเกตการณ์จำนวนมาก

สมาคมแถลงค้านชุมนุม
ส่วนบรรยากาศบริเวณร้านแมคโดนัลด์ สาขาอัมรินทร์พลาซ่า ที่นายสมบัติ บุญงามอนงค์ บ.ก.ลายจุด เตรียมทำกิจกรรมการเมือง ช่วงเช้ายังคงมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการแน่นตามปกติ โดยมีแถลงการณ์สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ เป็นกระดาษขนาด A4 ปิดที่ประตูทางเข้าร้าน ระบุทางสมาคมได้ปิดให้บริการร้านแมคโดนัลด์ สาขาอัมรินทร์พลาซ่า ในเวลา 15.00-20.00 น. ในวันนี้ เนื่องจากชาวราชประสงค์ไม่สนับสนุนกิจกรรมการชุมนุมในย่านราชประสงค์ ที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อส่วนรวมดังเช่นที่ผ่านมา ชาวราชประสงค์สนับสนุนประชาธิป ไตยและอิสระในการเรียกร้องอย่างมีแบบ แผนและเคารพกฎหมายการชุมนุมสาธารณะ

ช่วงใกล้เวลามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมายืนตามจุดต่างๆ ทั้งบริเวณถนนเพลินจิตและบนทางเชื่อมต่อสกายวอล์กทุกด้าน และนำรั้วเหล็กมากั้นปิดพื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์ หัวมุมห้างเกสรพลาซ่า ห้ามเดินผ่าน และมีตำรวจมาเฝ้าจุดดูแลความปลอดภัยตลอดเวลา

บ.ก.ลายจุดรำลึกราชประสงค์
ช่วงเย็นกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 300 คน ทยอยรวมตัวกันเพื่อเตรียมเคลื่อนขบวนไปยังบริเวณสี่แยกราชประสงค์ รำลึกเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 2553 เวลา 17.00 น. นายสมบัติกล่าวว่า ได้แจ้งกับตำรวจว่าจะมาขอรวมตัวกินข้าวและพูดคุยกันแค่ 3 คน แล้วจะเดินไปผูกโบแดงที่ป้ายบริเวณแยกราชประสงค์เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์พ.ค.53 ส่วนคนอื่นๆ ที่มาไม่ได้มีการนัดหมายแต่มากันเอง เหตุการณ์สลายการชุมนุมปี “53 เป็นเหตุการณ์ที่ยังไม่ถูกชำระและมีความเสียหายเกิดขึ้นกับทุกฝ่าย ทั้งประชาชน เจ้าหน้าที่รัฐและภาคเอกชน ประชาชนที่เสีย ชีวิตทางป.ป.ช.ไม่ยอมยื่นเรื่องดังกล่าวสั่งฟ้อง เพราะองค์ประกอบไม่ครบ เราอยากให้ป.ป.ช.ช่วยเปิดเผยข้อมูลว่าตัวเอกสารหลักฐานและกระบวนการพิจารณาจะไม่สั่งฟ้องนั้น ป.ป.ช.คิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหรือ ทำให้คนที่ร่วมกับเหตุการณ์รู้สึกติดใจ และต้องทวงถามหาความยุติธรรมอยู่ทุกปี ซึ่งตนหวังว่าเหตุการณ์ปี 2553 ต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริง

เวลา 18.00 น. พ.ต.อ.อัครวุฒิ ธานีรัตน์ ผกก.สน.ลุมพินี ชี้แจงกับกลุ่มผู้ชุมนุมถึงขั้นตอนการเดินทางไปผูกโบแดงที่บริเวณแยกราชประสงค์ โดยให้กลุ่มผู้ชุมนุมเดินไปตามถนนอย่างเป็นระเบียบ ขณะที่สื่อมวลชนให้เดินบนสกายวอล์ก เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาการจราจร และเมื่อผู้ชุมนุมเดินมาถึงป้ายแยกราชประสงค์ ได้มีการจุดเทียนรำลึก วางช่อดอกไม้และผูกโบแดง ขณะที่ผู้ชุมนุมบางส่วนได้ตะโกนว่า “ที่นี่มีคนตาย” โดย เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบได้ดูแลความสงบเรียบร้อยอย่างใกล้ชิด

ชี้ระบบคสช.อยู่ชั่วลูกชั่วหลาน
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมริมน้ำ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ คณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ร่วมกับเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน จัดเสวนาวิชาการ D-M0ve มีการเสนอรายงานสถานการณ์การละเมิดสิทธิ มนุษยชนในรอบ 4 ปี โดย น.ส.ศิริกาญจน์ เจริญศิริ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า 4 ปี คสช.ควบคุมพลเรือนโดยวิธีคิดทางทหาร และจะเป็นผลพวงติดค้างสังคมไทยคือการนำอำนาจเบ็ดเสร็จอย่างถาวรเข้าไว้ในรัฐธรรมนูญ และมาตรา 44 ทหารเข้าไปมีบทบาทในทุกส่วน คสช.มุ่งประสงค์ให้สิ่งเหล่านี้อยู่ในสังคมไทยโดยที่ไม่ได้ตั้งใจอยู่ชั่วคราวแต่ให้อยู่ชั่วลูกชั่วหลาน

น.ส.พูลสุข พูลสุขเจริญ ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า แม้คสช.ไปแล้วแต่มาตราต่างๆ และกลไกในรัฐธรรมนูญไม่ใช่แค่ 4 ปีที่ผ่านมา แต่อาจใช้เวลา 10 ปี 30 ปี ต้องจัดการหลัง คสช. ถูกเปลี่ยนไป ต้องแยกทหารออกจากพลเรือน ไม่ว่าจะเป็นส.ว.ชุดแรก คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ และหน่วยงานอื่นๆ และ ควรทบทวนกฎหมายที่ออกในยุครัฐบาล คสช. รัฐธรรมนูญเป็นสิ่งแรกที่ต้องแก้ไข โดยเฉพาะมาตรา 265 และ 279 รับรองอำนาจ คสช.

อำนาจคสช.เปราะบาง
การเสวนาเรื่อง “นิติรัฐที่พังทลายและก้าวใหม่หลังคสช.” นายสมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ กล่าวว่า หลังรัฐประหาร 2557 การแย่งอำนาจไม่ใช่การจะได้ประชาธิปไตยอย่างไรแต่ต่อสู้เรื่องคดีว่าจะดำเนินการอย่างไร และไม่ใช่ระบบนิติรัฐที่พังทลายเท่านั้น แต่พบกลุ่มที่หายสาบสูญไปคือสภาทนายความ ทนายอาวุโส คณะกสม. สภาบันการศึกษากฎหมายใหญ่ๆ 4 ปีที่ผ่านมาเมื่อ คสช.เข้ามาเหตุใดสถาบันการศึกษาใหญ่ๆ จึงเงียบสนิท คสช.เรียกใช้อาจารย์จากมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ ไปเป็นเครือข่ายเนติบริกร ทำให้อาจารย์ในมหาวิทยาลัยนั้นๆ โดยเฉพาะคณะนิติศาสตร์ ขออยู่เงียบๆ ดีกว่า จึงทำให้นิติรัฐในสังคมไทยพังทลาย

จากนั้นนายวสันต์ เหลืองประภัสร์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวบรรยายเรื่อง “การเมืองและกฎหมายในระบอบประชาธิปไตย 99.99%” มองว่ากลไกระบบราชการมีทั้งแรงต้านแข็งและแรงต้านอ่อน ทำให้นายกฯ ปวดหัวมาก เพราะจัดการกับระบบราชการหลักไม่ได้ ถ้าอยากอยู่ยาวก็ต้องเข้ามาจัดการกับระบบราชการให้ได้

ด้านนายสมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ตั้งข้อสังเกตเรื่องอำนาจ คสช.ไม่แน่ใจเข้มแข็งขนาดไหน คิดว่า คสช.ปัจจุบันมีอำนาจที่เปราะบางแต่ก็ไม่ได้อ่อนแอ และสังคมยังแบ่งฝักฝ่ายและมีบางกลุ่มที่ คสช.ไม่กล้าใช้อำนาจ เช่น ประเด็นบ้านป่าแหว่ง จ.เชียงใหม่ ขณะนี้เราอยู่ในอำนาจนิยมที่เปราะบางมากขึ้นและจะขยายวงกว้างออกไป ซึ่งจะทำให้อำนาจที่เปราะบางชัดเจนขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน