ยังถูกนำมาพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง กรณีนายกฯ เศรษฐา ลงไปปฏิบัติภารกิจ และพักค้างคืนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้

ซึ่งแตกต่างจากนายกฯ คนก่อนๆ ที่ไปชายแดนภาคใต้เพื่อมุ่งเน้นด้านความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยเป็นสำคัญ

ส่วนกรณีนายกฯ เศรษฐา นั้น ได้เปิดวิสัยทัศน์ มุมมอง และมิติใหม่ๆ ต่อพื้นที่ชายแดนใต้ ด้วยการผลักดันเศรษฐกิจควบคู่กับมาตรการทางการเมืองนำการทหาร

โดยมุ่งเน้นจะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจในพื้นที่ดีขึ้น แก้ปัญหาปากท้อง ทำให้ชาวบ้านมีรายได้มากขึ้น

ผลักดันการท่องเที่ยว ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย ตลอดจนวิถีชีวิตอัตลักษณ์ สินค้า และอาหารของดีในพื้นที่

ภายใต้แนวคิดที่ว่า หากทำให้เศรษฐกิจชายแดนใต้ดีขึ้น ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น สันติภาพและสันติสุขในพื้นที่ก็จะเกิดขึ้นตามมา

ผลปรากฏว่าวันนี้เริ่มมีสัญญาณบวก มีนักท่องเที่ยวมาเลเซีย อินโดนีเซีย เดินทางมาเที่ยวมากขึ้น ทั้งแบบรวมกลุ่มขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ทัวริ่ง และคณะทัวร์มากันเป็นครอบครัว

โดยเฉพาะ จ.ปัตตานี ที่มัสยิดกลางปัตตานี มัสยิดกรือเซะ การล่องเรือชมป่าชายเลน วิวทิวทัศน์ต่างๆ อาหารพื้นถิ่นตามตลาดนัด สตรีตฟู้ด มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

โรงแรมที่พักถูกจอง ผู้ประกอบการร้านอาหาร ผู้ค้าขายรายย่อย มีเม็ดเงินเข้ามาหมุนเวียนมากกว่าเดิม

ประธานสภาอุตสาหรรมท่องเที่ยวปัตตานีระบุว่า การมาชายแดนใต้ของนายกฯ ทำให้ผู้คนพูดถึงกันมาก เริ่มจากเสื้อลายมลายูที่นายกฯ และคณะสวมใส่

ต่อมาคือเรื่องแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ส่งผลให้มีผู้จับจองทัวร์ท่องเที่ยวในพื้นที่มากขึ้น

รวมถึงการที่นายกฯ รับเรื่องการให้ความสำคัญกับเมืองโบราณลังกาสุกะ ที่จะทำให้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของปัตตานี นอกเหนือจากศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว และวัดช้างให้

นี่คือสัญญาณอันดีเริ่มต้นปรากฏหลังนายกฯ ไปชายแดนภาคใต้

ข้าวตอกแตก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน