หมดฤทธิ์แล้วพายุ ‘โมลาเบ’ อ่อนแรงกลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ปภ.สรุปความเสียหายตั้งแต่ต้นเดือนถึงล่าสุด มี 34 จังหวัด ถูกน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย แต่ส่วนใหญ่คลี่คลายแล้ว โคราชน้ำก็เริ่มลดแล้วหลายพื้นที่ แต่พิมาย ยังหนักต้องรับน้ำจากอำเภออื่นอยู่ ทำให้ ลำน้ำมูนยังล้นทะลักต่อเนื่อง

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 29 ต.ค. น.ส. กรรวี สิทธิชีวภาค รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา รรท.อธิบดีกรมอุตุฯ ออกประกาศกรมอุตุฯ เรื่องหย่อมความกดอากาศต่ำ ที่อ่อนกำลังลงจากพายุดีเปรสชัน “โมลาเบ” (พายุระดับ 2) ฉบับที่ 12 ซึ่งเป็นฉบับสุดท้ายของเหตุการณ์นี้ ระบุว่า เมื่อเวลา 16.00 น. หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง (พายุระดับ 1) อ่อนกำลังอีกเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณด้านตะวันตกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ยังคงทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางทั่วไปกับมีลมแรงในช่วงวันที่ 29-30 ต.ค. สำหรับลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่งกับมีลมแรง

วันเดียวกันกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากอิทธิพลพายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ถึงปัจจุบัน มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย รวม 34 จังหวัด

ได้แก่ อุบลราชธานี นครราชสีมา ชัยภูมิ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ชลบุรี ระยอง อุทัยธานี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี กาญจนบุรี นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี ราชบุรี นครปฐม ปทุมธานี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ ภูเก็ต ตรัง สตูล และสงขลา รวม 141 อำเภอ 531 ตำบล 2,301 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 88,348 ครัวเรือน

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา เป็นประธานการประชุมกรมการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดนครราชสีมา โดยที่ประชุมรายงานสถานการณ์น้ำ ผลกระทบด้านการเกษตร และสาธารณสุข รวมถึงการคาดหมายลักษณะอากาศ พร้อมเผยว่า ฝนที่ตกมาตลอดคืนจนถึงตอนนี้ยังไม่มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมเพิ่มเติม โดยพื้นที่ ต.ลำมูล อ.โนนสูง, บ้านหนองโจด บ้านโนนมันเทศ อ.เฉลิมพระ เกียรติ และอ.โชคชัย น้ำลดลงแล้วมีบางพื้นที่ยังท่วมขังอยู่ มวลน้ำที่ไหลลงลำน้ำมูนกำลังไหลไป อ.พิมาย พื้นที่การเกษตรไร่นา และบ้านเรือนราษฎรริมสองฝั่งแม่น้ำมูน กำลังได้รับผลกระทบ

ส่วนเขื่อนลำตะคอง มีการปล่อยน้ำเพิ่มเป็นวันละ 2 ล้านลบ.ม. จากเดิมวันละ 1.6 ล้านลบ.ม. ต้องดูปริมาณน้ำด้านล่างด้วย ยืนยันว่าการปล่อยน้ำจะไม่ให้กระทบราษฎร ถ้าด้านล่างฝนตกหนักจะยุติการปล่อยน้ำจากเขื่อน โดยเขื่อนลำตะคองปัจจุบันมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 347 ล้านลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 110 ของความจุเขื่อนที่ 314 ล้านลบ.ม. และจากการติดตามปริมาณฝนไม่น่าจะตกไปมากกว่านี้ ทำให้สามารถระบายน้ำได้ทัน ส่วนมวลน้ำที่ไหลลง อ.พิมาย คาดการณ์ว่าจะอยู่ในพื้นที่ 3-4 วัน หลังจากนั้นจะไหลไปยังพื้นที่ อ.ชุมพวง, อ.ลำทะเมนชัย และอ.เมืองยาง ตามลำดับ ประมาณอีก 1 สัปดาห์ มวลน้ำน่าจะพ้นไปจาก จ.นคร ราชสีมา และกลับเข้าสู่ภาวะปกติทั้งหมด

วันเดียวกัน ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วยนายพิศิษฐศักดิ์ โชตะมังสะ รองผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 และนายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครราชสีมา ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงบินสำรวจสถานการณ์ลำน้ำมูน ประเมินสถาน การณ์เตรียมแผนรับมือมวลน้ำขนาดใหญ่จากพายุโมลาเบ ในช่วงวันที่ 28-29 ต.ค. โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคองวาง แผนปรับเพิ่มการระบายน้ำเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 1.73 ล้านลบ.ม. โดยไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายน้ำและบริเวณที่ไหลผ่านตัวเมืองนครราชสีมา เนื่องจากปริมาณน้ำในลำน้ำลำตะคองต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 50 เซนติเมตร ประกอบกับปริมาณน้ำที่เคยท่วมขังไหลสู่แม่น้ำมูนแล้ว

ที่อ.เฉลิมพระเกียรติ ลำน้ำมูนยังคงเอ่อท่วมพื้นที่ 16 หมู่บ้าน เป็นเวลาเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว โดยเฉพาะบ้านสามแคว ม.4 ต.ท่าช้าง ถูกน้ำไหลบ่าท่วมบ้านเรือนกว่า 100 หลังคาเรือน ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 400 ราย เนื่องจากเส้นทางสัญจรภายในหมู่บ้านถูกน้ำตัดขาด แต่ขณะนี้ปริมาณน้ำเริ่มลดระดับลงอย่างช้าๆ ขณะที่ธารน้ำใจหน่วยงานต่างๆ ยังคงหลั่งไหลส่งข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็นเข้าให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง








Advertisement

ที่ ต.หนองพลวง อ.จักราช มวลน้ำไหล มาอ.ปักธงชัย และอ.เฉลิมพระเกียรติ ลงลำน้ำมูนอย่างต่อเนื่อง ทำให้บางส่วนล้นตลิ่งไหลท่วมบ้านเรือนในที่ลุ่มต่ำริมน้ำ และล่าสุดพบว่าที่บ้านโคกพระ กระแสน้ำในลำน้ำมูนไหลแรงมากขึ้น รวมถึงมวลน้ำก็เพิ่มระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางจุดท่วมถนนภายในหมู่บ้านหลายแห่งและท่วมโรงเรียนบ้านโคกพระ ทำให้ต้องประกาศปิดการเรียนการสอนเป็นการชั่วคราว นอกจากนี้น้ำยังหลากท่วมทางเข้ารพ.สต.โคกพระ ผู้ป่วยไม่สามารถเดินทางเข้ารับการรักษาได้ต้องย้ายหน่วยปฐมพยาบาลไปที่ศาลาประชาคมหมู่บ้านเป็นการชั่วคราว ซึ่งระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ ปริ่มช่องระบายลมของกำแพงวัดบ้านโคกพระ ชาวบ้านต้องระดมกำลังป้องกันกันอย่างเต็มที่ เนื่องจากภายในวัดโคกพระมีโบสถ์เก่าแก่อายุกว่า 200 ปี

นายวิมล มะลิลา เลขานุการนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพิมาย อ.พิมาย รับแจ้งจากนายไพร ร่มเย็น รองผู้อำนวยการโรงเรียนพิมายวิทยา อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ขอความช่วยเหลือนำกระสอบทรายมาอุดท่อระบายน้ำในโรงเรียนพิมายวิทยา ด้านติดกับลำน้ำมูน หลังปริมาณน้ำเพิ่มระดับสูงขึ้นทะลักเข้าท่อระบายน้ำเอ่อท่วมบริเวณภายในโรงเรียนระดับน้ำสูง 20-30 เซนติเมตร ซึ่งวันนี้ทางโรงเรียนยังเปิดการเรียนการสอนตามปกติ จึงระดมเจ้าหน้าที่นำกระสอบทรายมาปิดอุดกั้นท่อระบายน้ำ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง เร่งระบายน้ำออกให้เร็วที่สุด

นายอำนวย ปองนาน นายอำเภอพิมาย ได้รับรายงานจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่ออกสำรวจความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ว่า ขณะนี้ทุกหมู่บ้านใน 12 ตำบลของพิมายถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายแล้ว โดยมี 6 ตำบล 31 หมู่บ้าน 437 หลังคาเรือน ที่น้ำท่วมบ้านเรือน ได้แก่ ต.ในเมือง ต.สัมฤทธิ์ ต.ธารละหลอด ต.กระเบื้องใหญ่ ต.ท่าหลวง และ ต.ดงใหญ่ พื้นที่การเกษตรเสียหาย 3,562 ไร่

ส่วนสถานที่ราชการ บ้านพักนายอำเภอ บ้านพักข้าราชการตำรวจกว่า 40 ห้อง ถูกมวลน้ำทะลักเข้าท่วมด้วยเช่นกัน พ.ต.อ.นธีร์ สุคุณา ผกก.สภ.พิมาย เปิดเผยว่า ผลจากการปล่อยน้ำมาจากเขื่อนลำตะคองและน้ำล้นจากเขื่อนลำพระเพลิงลงยังลำน้ำธรรมชาติไหลมาที่ลำน้ำมูน ประกอบกับมีฝนตกลงมาเพิ่มทำให้ระดับน้ำในลำน้ำมูนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะนำกระสอบทรายมากั้นเป็นแนวป้องกันและติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 2 เครื่อง แต่มวลน้ำหลากเข้าห้องพักอย่างรวดเร็วตำรวจต้องรีบช่วยกันยกสิ่งของขึ้นที่สูงวิดน้ำออกจากห้องพัก เพราะระดับน้ำสูงกว่า 40-50 เซนติเมตร

ช่วยน้ำท่วม – นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา พร้อมมอบถุงยังชีพ สิ่งของที่จำเป็น และหญ้าอาหารสัตว์พระราชทานให้แก่เกษตรกรที่ประสบอุทกภัย เมื่อวันที่ 29 ต.ค.

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน