จากกรณีน.ส.พชรมน รัตน์กระโทก อายุ 33 ปี ชาวบ้านหนองแคทราย ต.ลำเพียก อ.ครบุรี แรงงานไทยที่เสียชีวิตจากเหตุน้ำป่าและดินถล่มที่เมืองมุลคย็องชี ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 15 ก.ค.66 ที่ผ่านมา ส่วนสามีที่ทำงานอยู่ด้วยกันเอาชีวิตรอดมาได้ โดยครอบครัวทำหนังสือมอบอำนาจให้ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ดำเนินการจัดพิธีฌาปนกิจที่เกาหลีใต้ ก่อนจะนำส่งอัฐิกลับคืนบ้านเกิด

ผู้สื่อข่าวรายงานจากบ้านของครอบครัวน.ส.พชรมน ที่บ้านเลขที่ 96 หมู่ที่ 8 ต.ลำเพียก อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ว่า ขณะที่ทางเกาหลีใต้ได้ทำพิธีฌาปนกิจ ในเวลา 12.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 10.00 น. ของประเทศไทย ก่อนที่จะจุดไฟฌาปนกิจที่เกาหลีใต้ ทางเพื่อนของผู้เสียชีวิตที่ทำงานอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ ได้วิดีโอคอลผ่านมายังทางครอบครัวของน.ส.พชรมน ซึ่งทางครอบครัวนิมนต์พระสงฆ์ 4 รูป มาทำพิธีสวดพระอภิธรรมที่บ้านเกิดเพื่อส่งดวงวิญญาณของน.ส.พชรมนควบคู่ไปด้วย ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของบรรดาญาติสนิทมิตรสหายและครอบครัว

นางสมพงษ์ รัตน์กระโทก มารดาน.ส.พชรมนกล่าวว่า วันนี้รู้สึกดีที่มีโอกาสได้ทำบุญส่งกุศลให้กับลูกสาว แต่สภาพจิตใจนั้นยังไม่สามารถทำใจได้กับการสูญเสียในครั้งนี้ เป็นห่วงอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะการศึกษาของหลานสาวทั้ง 3 คน ส่วนลูกเขยที่ยังมีชีวิตรอด ตอนนี้ก็อยากให้กลับมาดูแลครอบครัวดูแลลูกๆ ไปก่อน เพราะลูกก็สูญเสียแม่ไปแล้ว ก็ต้องรอการตัดสินใจและการดำเนินการหลังจากที่พิธีศพเสร็จสิ้นแล้ว เรื่องของค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะต้องใช้เงินในการดำเนินการจัดพิธีศพและค่าเดินทางนำอัฐิกลับบ้านเกิดประมาณ 1.5 แสนบาท เบื้องต้นทางนายจ้างก็รับปากที่จะดูแลให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ด้วยการที่นายจ้างเองก็สูญเสียมากอยู่แล้วทางครอบครัวก็พร้อมที่จะสมทบหากขาดเหลือหรือติดในส่วนใด เพื่อที่จะต้องการให้ลูกสาวได้กลับบ้านโดยเร็วที่สุด

นางสมพงษ์กล่าวด้วยว่า ทราบข่าวว่ามีกลุ่มคนบางกลุ่มได้ประชาสัมพันธ์ขอรับบริจาคเงินมาช่วยเหลือครอบครัวนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ทางครอบครัวไม่เคยเปิดรับบริจาคเงินหรือสิ่งของแต่อย่างใด หากจะมีก็เพียงน้ำใจจากเพื่อนบ้านที่พากันแวะเวียนมาให้กำลังใจและช่วยเหลือถึงบ้านตามศรัทธาเท่านั้น ส่วนที่เหลือครอบครัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน