หลังจากศาลปล่อยตัว
ตร.บุกล็อกถึงเรือนจำ
ทั้งที่หมายจับไม่เคลียร์
รัฐผวาบิ๊กเซอร์ไพรส์
คุมเข้ม‘ธรรมศาสตร์’

ตร.บุกอายัด‘ไมค์-เพนกวิน-รุ้ง’ถึงเรือนจำ หลังศาลอาญายกคำร้องพนักงานสอบสวนที่ยื่นฝากขัง ชี้ศาลต้องคุ้มครอง สิทธิเสรีภาพ ไม่ให้ขัง ผู้ต้องหาเกินความจำเป็น อีกทั้งตำรวจก็ไม่ได้เเสดงเหตุ คืบหน้าการสอบสวน บช.น.คุมตัวไปดำเนินคดีต่อตามหมายจับสภ.เมืองนนท์-พระนคร ศรีอยุธยา-อุบลราชธานี รัฐบาลผวาบิ๊กเซอร์ไพรส์ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ระดมกำลังทหารคุมเข้มทั้งภายนอกรอบและภายใน พิลึก‘ส.ว.สมชาย’ ขู่ม็อบนักศึกษา อ้างให้ระวังกรณีตัดคอที่ประเทศฝรั่งเศส ปทุมฯ-นนท์ยังออกมา ชุมนุมคึก หน้าฟิวเจอร์-เซ็นทรัลเวสต์เกต

นำตชด.ชูป้ายแดกนาย-แถลง

วันที่ 30 ต.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนสั้นๆ ภายหลังเป็นประธานการประชุมบริหาร ตร.ครั้งที่ 6/2563 เกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมในช่วงนี้ว่าไม่มีอะไร และได้กำชับสั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ติดตามสถานการณ์และดูแลการชุมนุมอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎรระบุจะมี บิ๊กเซอร์ไพรส์ในวันที่ 31 ต.ค.นั้น ก็ต้องรอติดตามสถานการณ์ ส่วนกรณีอาจจะเกิดเหตุม็อบชนม็อบนั้นก็ต้องหามาตรการดูแลให้ดีที่สุด ยืนยันว่าไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร และตำรวจจะดูแลสถานการณ์ให้เกิดความเรียบร้อย

ด้านพล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำตัว ส.ต.ท.วุฒิชัย หงษ์สำโรง ผบ.หมู่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 21 กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 (จ.สุรินทร์) ซึ่งเป็นชุดควบคมฝูงชุดที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณสถานทูตเยอรมนี เมื่อวันที่ 26 ต.ค.และปรากฏภาพชูป้ายข้อความ “ทำงานแทบตายนายแดก หัวคิว ลงในโซเชี่ยลมีเดีย” มาแถลงยืนยันข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ในวันดังกล่าว

ส.ต.ท.วุฒิชัยยืนยันว่าในวันเกิดเหตุขณะนั่งรถกลับจากการปฏิบัติหน้าที่ และระหว่างลงจากรถได้เห็นป้ายข้อความติดอยู่ข้างรถบัสที่ใช้ขนส่งกำลังพล จำนวน 2 แผ่น จึงได้ดึงออก เพื่อจะนำเอาไปทิ้งถังขยะ แต่มีเพื่อนที่อยากเห็นจึงยกข้อความชูให้เพื่อนดู โดยทราบว่ามีการถ่ายภาพและแชร์กันในกลุ่มไลน์เพื่อน แต่ไม่ทราบว่าภาพหลุดลงโซเชี่ยลได้อย่างไร หลังเป็นกระแสข่าวผู้บังคับบัญชาได้เรียกเข้าไปพูดคุย ซึ่งตนได้ยืนยันข้อเท็จจริงว่าไม่มีเจตนาทำให้หน่วยเสียหาย เนื่องจากได้เบี้ยเลี้ยงเต็มจำนวน วันละ 200 บาท ไม่มีการ อมหัวคิวและไม่ได้ถูกผู้บังคับบัญชาบังคับให้แต่งเรื่องมาพูด รวมถึงไม่ได้ถูกลงโทษทางวินัย หรือสั่งขังตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่อย่างใดส่วนเรื่องอาหารผมขอไม่พูดดีกว่า

เผยไม่ได้เป็นคนทำ-เตรียมสอบ

ด้าน พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่าผบ.ตร. สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นพบว่า ในวันเกิดเหตุมีป้ายข้อความติดที่รถกำลังพลทุกคัน โดยไม่ทราบว่าใครเป็นคนทำ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ฝีมือของ ตชด.21 ที่เขียนและเอามา ชู เพื่อประท้วงผู้บังคับบัญชา ซึ่งผู้บังคับบัญชาสั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ ส.ต.ท วุฒิชัยมาชี้แจงด้วยตนเอง ยืนยันว่า ส.ต.ท.วุฒิชัย จะไม่ได้ถูกลงโทษ แต่ถูกให้เขียนรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงเท่านั้น

พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าวต่อว่า จากนี้ จะตรวจสอบขยายผลถึงเรื่องดังกล่าว เพราะเชื่อว่ามีการทำเป็นขบวนการที่มีการนำป้ายมาติดที่รถทุกคัน ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนดำเนินคดี ส่วนกรณีที่ ส.ต.ท.วุฒิชัยไม่ตอบสื่อเรื่องอาหารการกินนั้น ชี้แจงว่า เรื่องอาหารเป็นเรื่องรสนิยมการกินที่แตกต่างกัน ของตำรวจที่มาแต่ละพื้นที่ ซึ่งฝ่ายที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการปรับปรุง เพื่อให้ตำรวจที่มาปฏิบัติหน้าที่พึงพอใจ

นายกฯห่วงบิ๊กเซอร์ไพรส์มธ.

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยในงานพระราชทานปริญญาบัตรที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในวันที่ 31 ต.ค. หลังม็อบเตรียมจัดเซอร์ไพรส์ว่าคงไม่จำเป็นต้องสั่งการให้เตรียมการอะไรเพิ่มเติม เพราะเป็นระเบียบปฏิบัติที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่อยู่แล้ว ปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการ เพียงแต่อย่าให้เกิดอันตรายกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดโดยเฉพาะการละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อถามว่านายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน แกนนำราษฎร ประกาศขู่จะปิดถนนมิตรภาพ เพื่อชัตดาวน์กทม. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทำได้ก็ทำไป แต่อยากให้สังคมช่วยกันดูแลตรงนี้ คนที่ได้รับผลกระทบไม่ใช่ตน แต่เป็นประชาชน การจราจร และการส่งขนสินค้า ถ้าเป็นคนที่ดีก็ไม่ควรกระทำในพื้นที่ที่เป็นสาธารณะ เพราะทำให้เกิดปัญหา และทำให้เกิดความขัดแย้งต่อไปเรื่อยๆ ตนก็เข้าใจว่าการชุมนุมก็จะต้องทำเช่นนี้ ทุกคนต้องระมัดระวังซึ่งกันและกัน รวมถึงเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม

“ผมขอร้องว่าอย่าทำให้เหตุการณ์บานปลาย ไม่ส่งผลดีกับใครแม้แต่คนเดียว มีแต่กระพือข่าวได้มากขึ้น แต่ประเทศชาติพังไปเรื่อยๆ ก็แล้วแต่จะคิดก็แล้วกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

สว.สมชายยกเคสตัดคอขู่ม็อบ

นายสมชาย แสวงการ ส.ว. กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มเยาวชน ที่ถนนสีลม เมื่อวันที่ 29 ต.ค.ว่า เป็นกิจกรรมเชิงล้อเลียน ตนกังวลว่าอาจทำให้คนกลุ่มที่รักและเทิดทูนสถาบันไม่พอใจ และเกิดการตอบโต้ที่ไม่คาดคิด ขึ้นได้ เหมือนที่เกิดขึ้นในประเทศฝรั่งเศส ที่มีเหตุการณ์ฆ่าตัดคอ ซึ่งเหตุมีจุดเริ่มต้นแค่ภาพล้อเลียนของศาสดาในศาสนาหนึ่ง และทำให้ผู้นับถือศาสนาไม่พอใจ

“ผมไม่รู้ว่าเหตุการณ์ในไทยจะไปถึงขั้นเหตุฆ่าตัดคอในฝรั่งเศสหรือไม่ แต่หากมี คนบ้าๆ บอๆ ลุกขึ้นมาทำ หรือมีมือที่สาม หรือคนที่ถูกเตรียมไว้เพื่อสร้างสถานการณ์ เหตุย่อมเกิดขึ้นได้ ดังนั้น ผมเตือนด้วยความหวังดีว่าอย่าเรียกร้องหรือทำอะไรที่เกินธง หรือพยายามทำให้เกิดพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน ผมเชื่อว่ารัฐบาลจับตา และพยายามแก้ปัญหาไม่ให้ลุกลามบานปลาย ขณะเดียวกันผู้ใหญ่ระดับผู้พิพากษา ได้คุยกับผมว่าท่านพยายามประคับประคองสถานการณ์เช่นกัน” นายสมชายกล่าว

นายสมชายกล่าวด้วยว่า จากการติดตามกลุ่มเยาวชนที่เรียกร้องนั้น ตนเห็นว่าเยาวชนคนรุ่นใหม่เป็นคนเก่ง และมีความสามารถ ควรนำความรู้และความสามารถไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น การปฏิรูปประเทศ การลดความเหลื่อมล้ำ ไม่ใช่กินหรู อยู่สบาย ถึงเวลาไปชุมนุม 3 ชั่วโมง จากนั้นก็เข้าผับ ซึ่งตนเคยคุยกับเพื่อนไว้ด้วยว่าต้องการส่งต่องานการเมืองให้คนรุ่นใหม่ แต่เขาเลือกทำในสิ่งที่เขาต้องการเท่านั้น แบบนี้คงไม่ไหวแน่

ทหารระดมตรึงทั้งใน-นอกมธ.

แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคงแจ้งว่า จากกรณีเพจ “บัณฑิตธรรมศาสตร์ของราษฎร” โพสต์ข้อความระบุว่า Let’s play a game พร้อมคำใบ้ “Big Surprise” วันที่ 31 ต.ค. เวลา 17.00 น. พบกับบิ๊กเซอร์ไพรส์ได้พร้อมกัน รวมทั้งยังติดแฮชแท็ก #ไม่รับปริญญา #บัณฑิตของราษฎรนั้น ฝ่ายความมั่นคงได้เกาะติดกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยการดูแลรักษาความปลอดภัยรอบพื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เฉพาะช่วงวันที่มีพิธีพระราชทานปริญญาบัตรวันที่ 30-31 ต.ค.นั้น มีการจัดกำลังดูแลจากกองทัพบก อาทิ กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1 รอ.) กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) กองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) เป็นต้น

ส่วนพื้นที่ภายในมหาวิทยาลัย ได้จัดกำลังจากหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน กองทัพอากาศ ขณะที่พื้นที่ทางน้ำเป็นหน้าที่ของ กองทัพเรือดูแล ทั้งนี้ตลอดเส้นทาง ถ.ราชดำเนินจะมีประชาชนและตัวแทนหน่วยงานราชการสวมเสื้อเหลืองเดินทางมารอเฝ้าฯ รับเสด็จ เพื่อแสดงความจงรักภักดีด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเคลื่อนไหวของพล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ในฐานะผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ (904) ในวันที่ 31 ต.ค. เวลา 09.00 น. จะเป็นประธานในพิธีประดับเครื่องหมายยศและมอบประกาศนียบัตร หลักสูตรนักเรียนนายสิบทหารบก (นนส.ทบ.) เหล่าราบ 1 ปี 6 เดือน รุ่นที่ 23 ที่ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนรัชต์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นในช่วงบ่ายจะเดินทางเข้ามาติดตามสถานการณ์การชุมนุม ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) ภายในกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน

‘ปิยบุตร’โวยหมายเรียกคดี 116

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 29 ต.ค. พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้ออกหมายเรียกเลขที่ 4/742 ลงวันที่ 29 ต.ค. 2563 ให้นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า มาเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา กระทำความผิดฐานร่วมกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชน ด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดมิใช่การกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน โดยให้มาพบพนักงานสอบสวน ที่สน.พญาไท ในวันที่ 5 พ.ย. ในเวลา 10.00 น. โดยหมายเรียกได้ปั๊มตัวหนังสือสีแดงมุมขาวบนหนังสือ ระบุว่า หมายเหตุ หากไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก อาจเป็นเหตุให้ถูกออกหมายจับได้

ด้านนายปิยบุตรโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ตนเพิ่งทราบจากข่าวว่าตำรวจ สน.พญาไท ออกหมายเรียกให้ตนไปรับทราบข้อหาในความผิดฐานยุยง ปลุกปั่น ตามมาตรา 116 ป.อาญา โดยยังไม่ทราบว่าตำรวจอ้างการกระทำใดของตนที่เป็นความผิดตามมาตรานี้

นายปิยบุตรระบุว่า วันที่ 29 ต.ค. ตนไปศาลแขวงปทุมวัน ได้ประสบการณ์ใหม่ เป็นจำเลยครั้งแรกในชีวิต 41 ปี วันนี้มีประสบการณ์ใหม่อีกแล้ว โดนกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานยุยง ปลุกปั่นเป็นครั้งแรก สมัยเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ใช้เสรีภาพแสดงออกเต็มที่ ไม่โดนคดีความใดๆ พอมาเป็นนักการเมืองโดยเฉพาะอยู่ตรงข้ามกับคนมีอำนาจในระบอบนี้ ไม่ว่าจะใช้เสรีภาพแสดงออกในเรื่องใด ก็มีโอกาสถูกดำเนินคดีเสมอ สัปดาห์หน้าตนจะเดินทางไปสน.พญาไท ตามหมายเรียก และจะขออนุญาตถามตำรวจ พนักงานสอบสวน และผู้บังคับบัญชาของเขาด้วยว่า เราต่างก็เรียนกฎหมายอาญากันมา ตำราเล่มเดียวกัน ทำไมพอมาเป็นตำรวจแล้วจงใจลืมไปหมด

คณะนักเขียนจี้ปล่อยนักศึกษา

วันเดียวกัน ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. กลุ่มคณะกวี นักเขียน ศิลปิน บรรณาธิการ สื่อมวลชนอิสระ และกลุ่มผู้สนับสนุน นำโดยนายสุชาติ สวัสดิศรี ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ เมื่อปี 2554 น.ส.นิธินันท์ ยอแสงรัตน์ อดีตบรรณาธิการอาวุโส หนังสือพิมพ์มติชน ร่วมกันอ่านแถลงการณ์และบทกวีถึงข้อเรียกร้องเพื่อให้มีการปล่อยตัวแกนนำกลุ่มคณะราษฎรทั้ง 8 คน

ประกอบด้วย ทนายอานนท์ นำภา นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นายเอกชัย หงส์กังวาน นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง ซึ่งถูกควบคุมตัวที่ทัณฑสถานหญิงกลาง และนายสุรนาถ แป้นประเสริฐ หรือตัน ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำบางขวาง ซึ่งทั้งหมดถูกควบคุมตัวรวม 14 วัน โดยสูญเสียอิสรภาพ

ด้านนายสุชาติอ่านแถลงการณ์ว่า เราขออ่านคำประกาศเพื่อเรียกร้องรวม 4 ข้อ ประกอบด้วยขอให้รัฐหยุดคุกคามประชาชน, ขอให้พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออกจากตำแหน่ง เพราะเป็นเสมือนสารตั้งต้นทำให้เกิดปัญหาความวุ่นวายในบ้านเมือง, ปฏิรูปสถาบัน และสุดท้ายปล่อยตัวแกนนำผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข

ปล่อยรุ้ง-ไมค์-เพนกวิน-แบงค์

หลังจากการอ่านแถลงการณ์เสร็จสิ้น กลุ่มนักกวีคนรุ่นใหม่ ได้ออกมาสลับสับเปลี่ยนกันอ่านบทกวีที่แต่งมาเพื่อให้กำลังใจผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ จากนั้นทั้งหมดไปยืนรวมตัวชู 3 นิ้ว ที่บริเวณหน้าป้ายทางเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ก่อนแยกย้ายเดินทางกลับ

วันเดียวกัน ทนายความได้ยื่นคำร้องคัดค้านการฝากขังครั้งที่ 3 ของพนักงานสอบสวนต่อศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ในกรณีของ “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์, “รุ้ง”ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล,” ไมค์” ภาณุพงศ์ จาดนอก และ“หมอลำแบงค์” ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม ในคดีการชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.นั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.15 น. ศาลอาญา ได้มีคำสั่งยกคำร้องของพนักงานสอบสวนในการฝากขังเป็นครั้งที่ 3 ทำให้นักกิจกรรมทั้ง 4 คน จะได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำในช่วงเย็นเดียวกันนี้

ยกคำร้อง-ไม่ปราฏใครพยาน

ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม เดินทางมายื่นคำร้องฝากขัง นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน (2 สำนวนมีสำนวนชุมนุมเมื่อวันที่ 13 ต.ค.63) เเละนายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงค์ ผู้ปราศรัยกลุ่มคณะราษฎร 2563 ในคดีชุมนุม 19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎรซึ่งนัดชุมนุมที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และสนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.

โดยวันเดียวกันนี้ ศาลอาญามีคำสั่งยกคำร้อง โดยให้เหตุผลว่าไม่ปรากฏว่าพยานที่จะสอบสวนเป็นใคร มีส่วนเกี่ยวข้องกับพฤติการณ์การกระทำผิดอย่างไร ที่อ้างว่ารอผลตรวจพิมพ์รายนิ้วมือจากกองทะเบียนประวัติอาชญากรนั้นไม่มีเหตุผลเเสดงว่าการสอบสวนว่ามีความคืบหน้าอย่างไร โดยการฝากขังต้องคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพ เมื่อไม่มีเหตุจำเป็นที่ต้องฝากขังต่อไปให้ยกคำร้อง

สำหรับนายจตุภัทร์นั้นได้รับการประกันตัวจากศาลอุทธรณ์ไปก่อนหน้านี้เเล้ว โดยศาลอาญาก็ยกคำร้องในวันนี้ ส่วนนายปติวัฒน์ก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นเเละอุทธรณ์ไม่อนุญาตประกันตัว ซึ่งตามขั้นตอนตำรวจยังสามารถยื่นฝากขังได้

‘ ไมค์-เพนกวิน-รุ้ง’ ได้เฮด้วย

นอกจากนี้ในส่วนของนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง (2 สำนวน 116 กับปักหมุด), นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง 3 ผู้ต้องหา ครั้งที่ 3 จากกรณีซึ่งทั้ง 3 เป็นแกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มคณะราษฎร 2563 ในคดีชุมนุม 19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร ซึ่งนัดชุมนุมที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และสนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. 2563 หลังศาลชั้นต้นเเละศาลอุทธรณ์ไม่ให้ประกันตัวทั้งสาม

ในส่วนสำนวนของนายภาณุพงษ์ ที่ศาลอาญายกคำร้องฝากขังครั้งที่ 3 นั้นศาลเห็นว่ามีการฝากขังไป 2 ฝาก 10 วัน เพียงพอที่จะสอบสวนพยานบุคคลที่อ้างว่าสอบทั้งหมด 6 ปาก การรอผลตรวจพิมพ์รายนิ้วมือจากกองทะเบียนประวัติอาชญกรนั้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงใดว่ามีความยุ่งยากที่จะต้องฝากขังต่อ ซึ่งศาลต้องคำนึงถึงสิทธิผู้ต้องหาไม่ให้ขาดเกินกว่าความจำเป็นกระทบต่อสิทธิเสรีภาพ หากการสอบสวนเสร็จสิ้นก็สามารถนำตัวมาฟ้องได้ ไม่จำเป็นต้องขังระหว่างสอบสวน ยกคำร้อง

ในส่วนเหตุผลยกคำร้องฝากขังครั้งที่ 3 ของนายพริษฐ์ เเละน.ส.ปนัสยา นั้นจะมีเหตุผลเพิ่มเติมจากของนายภานุพงษ์ว่าศาลต้องคุ้มครองสิทธิผู้ต้องหาทั้ง 2 ที่อยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียนเเละศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยของรัฐอันเป็นประการสำคัญ ยกคำร้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโดยสำนวนกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นเดิมคำร้องของพนักงานสอบสวนขออำนาจฝากขัง 12 วัน เเต่ศาลอาญาอนุญาตฝากขังเพียงครั้งละ 7 วัน โดยการที่ศาลยกคำร้องฝากขังของพนักงานสอบสวนในวันนี้ ตามขั้นตอนศาลจะออกหมายปล่อยไปยังเรือนจำซึ่งคาดว่าจะปล่อยตัวเย็นวันเดียวกัน

วุ่นบช.น.บุกเข้าไปอายัดตัว

เมื่อเวลา 19.30 น. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศก่อนการปล่อยตัวแกนนำคณะราษฎร ได้แก่ นายภาณุพงศ์ น.ส.ปนัสยา นายพริษฐ์ และนายปติวัฒน์ หลังศาลอาญา ยกคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ในคดีชุมนุมวันที่ 19-20 ก.ย. ที่ ม.ธรรมศาสตร์ และสนามหลวง โดยมีมวลชนจำนวนหนึ่งมารอคอยให้กำลังใจ แต่จู่ๆ ได้มีรถสายตรวจไฟฟ้าติดตรากองบัญชาการตำรวจนครบาล และรถควบคุมตัวผู้ต้องหาของ สน.ประชาชื่น เข้ามายังเรือนจำ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าตำรวจได้เตรียมอายัดตัวไปดำเนินคดีต่อหรือไม่ อย่างไรก็ตาม แกนนำคณะราษฎรกลุ่มนี้ ยังไม่เคยมีข่าวว่ากระทำผิดใดในท้องที่ สน.ประชาชื่น และมีการรายงานจากเจ้าหน้าที่เรือนจำว่าจะมีการอายัดตัวผู้ต้องหา 2 คน คือนายภาณุพงศ์หรือไมค์ ระยอง และนายพริษฐ์ ซึ่งสร้างความไม่พอใจผู้ชุมนุมอย่างมาก

ด้านนายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า ตอนนี้ทราบมาว่าหมายปล่อยตัวจากศาลอาญามาถึงเรือนจำแล้ว โดยตามหลักการ ผู้ต้องหาทุกคนต้องได้รับการปล่อยตัว แต่ตอนนี้มีรถตำรวจเข้ามาในเรือนจำ ไม่ทราบว่าจะอายัดตัวในคดีอื่นหรือไม่ ตนมองว่าผิดปกติ เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้ทนายได้เข้าไปพบผู้ต้องหาตามสิทธิการปรึกษาทนายความ

ไมค์-เพนกวิน-รุ้งเจอคดีอีก

ต่อมาเวลา 19.40 น. เรือนจำได้มีการปล่อยตัวนายปติวัฒน์หรือหมอลำแบงค์ ออกมาเป็นคนแรก

นายปติวัฒน์กล่าวว่า มีชายคนหนึ่งคาดว่าเจ้าหน้าที่รัฐแต่ไม่ทราบสังกัด ตนอ่านป้ายชื่อว่า “สุวัฒนา ข่าทิพย์พาที” แจ้งว่าจะจับน้องๆ ตนที่เหลือ และจะขึ้นรถออกไปโดยยังทราบว่าจะไปไหน ไม่ทราบว่ามาจากหน่วยงานไหน

ต่อมาเวลา 20.00 น. นพ.ทศพร เสรีรักษ์ กล่าวว่า เมื่อครู่ตนได้เข้าไปดูข้างในเรือนจำพบว่าตำรวจเตรียมนำตัวเด็กๆ ทั้ง 3 ได้แก่ นายภาณุพงศ์ นายพริษฐ์ และน.ส.ปนัสยา ไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.ประชาชื่น แล้วส่งตัวไป สภ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี สภ.พระนครศรีอยุธยา และสภ.เมืองอุบลราชธานี ซึ่งคาดว่าเป็นความผิดเกี่ยวกับคดีการชุมนุม ก่อนส่งตัวไปยังจังหวัดอื่นที่มีหมายจับต่อไป

อายัดซ้ำ – ‘เพนกวิน’ พริษฐ์ ชิวารักษ์ ส่งยาดมให้ ‘ไมค์’ ภาณุพงศ์ จาดนอก แกนนำกลุ่มราษฎร ที่เป็นลมขณะถูกเจ้าหน้าที่ล็อกตัว ขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา ออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาดำเนินคดีต่อที่สน.ประชาชื่น เมื่อค่ำวันที่ 30 ต.ค.

คุมตัวมาที่สน.ประชาชื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ประชาชื่น ได้คุมตัวนายภาณุพงศ์ น.ส.ปนัสยา นายพริษฐ์ ด้วยรถผู้ต้องหาระหว่างได้มีการตะโกนว่า “ช่วยด้วย” ระหว่างที่ถูกควบคุมตัวไปยัง สน.ประชาชื่น

เมื่อเวลา 21.20 น. เกิดเหตุชุลมุนหลังตำรวจอายัดตัวนายพริษฐ์ และนายภาณุพงศ์ มาควบคุมตัวที่ สน.ประชาชื่น หลังมีมวลชนอ้างว่าเพนกวินและไมค์ถูกบีบคอทำร้ายร่างกาย ซึ่งไมค์มีอาการเป็นลม ส่วนเพนกวินระบุว่ามีอาการบาดเจ็บ ทำให้มวลชนที่มาเฝ้ารอให้กำลังใจที่โรงพัก พากันทุบกระจกรถควบคุมตัวผู้ต้องขังจนแตก และพยายามเปิดประตูรถ ซึ่งตำรวจสายตรวจได้เข้าควบคุมสถานการณ์เพื่อไม่ให้มวลชนเปิดประตูรถไปทำร้ายร่างกายตำรวจที่อยู่ในรถด้วย

ปทุมฯ-นนท์ชุมนุมอีกคึกคัก

เวลา 17.00 น.วันเดียวกัน ที่บริเวณฟุตปาธ ใต้ทางยกระดับ ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต จ.ปทุมธานี กลุ่มคนเสื้อแดงก้าวหน้า 63 พร้อม เครือข่ายนักศึกษา และประชาชน ร่วมชุมนุมปราศรัยขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ โดยมีนายณัฐวุติ สภาโจ๊ก แกนนำคนเสื้อแดงได้ขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลว่าตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมาไม่ได้มีการพัฒนาประเทศชาติตามที่ได้กล่าวอ้าง ส่งผลให้ประชาชนอดอยากคนตกงานนับล้านคน

สำหรับบรรยากาศมีกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงมาร่วมชุมนุมอย่างบางตา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ทั้งในและนอกเครื่องแบบประมาณ 30 คนมาคอยดูแลความสงบเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกทางด้านการจราจร ล่าสุดกลุ่มผู้ชุมนุมแจ้งว่าเวลาประมาณ 19.30 น. จะประกาศยุติการชุมนุม

เมื่อเวลา 17.00 น. กลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี และกลุ่มราษฎร ทยอยเดินทางมารวมตัวกันที่หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ตามที่ได้นัดหมายกันทางโซเชี่ยลมีเดียว่าจะมีการปราศรัยของเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี และแขกรับเชิญ เช่น แอมมี่ The Bottom Blues อาจารย์ใหญ่ขอนแก่น นายอรรถพล บัวพัฒน์ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ และนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง

ต่อเนื่อง – เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรียกระดับการชุมนุม เรียกร้องปล่อยแกนนำและ ผู้ชุมนุมที่ถูกจับระหว่างร่วมกิจกรรมทางการเมือง เนืองแน่น หน้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 30 ต.ค.

ทะลักกาญจนาเวสต์เกต

ทั้งนี้ กลุ่มมวลชนทั้งหมดได้พากันลงไปนั่งที่พื้นถนน ถ.กาญจนาภิเษก ฝั่งคู่ขนาน กับห้างเซ็นทรัล เวสต์เกต ทำให้รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ ต้องเปิดช่องการจราจร ถ.ทางฝั่งคู่ขนาน ให้รถไปใช้ช่องทางด่วนแทน เพื่อช่วยบรรเทาความแออัดของรถยนต์ ขณะที่ ผู้ชุมนุมวันนี้ประกาศย้ำว่าไม่มีใครเป็นแกนนำทั้งสิ้น ทุกคนถือเป็นแกนนำทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการชุมนุมเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีแกนนำคนรุ่นใหม่เครือข่ายนนทบุรี ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นเวทีปราศรัยกล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างต่อเนื่อง มีการส่งเสียงขับไล่ให้ออกไป ปล่อยตัวแกนนำที่โดนจับ และหยุดคุกคามประชาชน ก่อนจะร่วมกันร้องเพลงชาติ ในเวลา 18.00 น.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน