ทะลุแก๊สปาป้อมตร.ไล่จับได้อีก2 – บช.น.แถลงตำรวจร่วมกันไล่จับสมาชิกทะลุแก๊สได้ 2 ระหว่างร่วมกับพวกอีก 2 ราย หลังปาประทัดแสวงเครื่องใส่ป้อมยามตำรวจสี่แยกอโศกแล้วซิ่งรถหลบหนี ด้านอัยการสั่งฟ้อง‘ลูกเกด-ชาติชาย-หมอทศ’คดีฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ร่วมชุมนุมเรียกร้องปล่อยตัวผู้ต้องคดีการเมือง โดยศาลมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราว ส่วนคดีจตุพรจะพ้นโทษหรือไม่ ยังต้องรอศาลอุทธรณ์ชี้ลงมาก่อน

เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ถ.แจ้งวัฒนะ พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลแขวง 1 ยื่นฟ้องน.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว อายุ 27 ปี, นายชาติชาย หรือธัชพงษ์ แกดำ อายุ 36 ปี และนายทศพร เสรีรักษ์ อายุ 65 ปี จำเลยที่ 1-3 ความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 มาตรา 4, 5, 10, 14, 28 พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 4, 5, 9, 11, 18 ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 15 ต.ค.63 ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้สถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรง ฉบับที่ 4 เรื่อง ห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมฯ ลงวันที่ 16 ต.ค.63 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 4, 109, 148 และพ.ร.บ.จราจรทางบก ฉบับที่ 7 มาตรา 8 พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493 มาตรา 3, 4, 9 และประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) มาตรา 83, 91, 385

พฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 19 ต.ค.63 จำเลยได้ร่วมกันจัดชุมนุมสาธารณะฝ่าฝืนกฎหมาย ที่บริเวณเรือนจําพิเศษกรุงเทพฯ และเรือนจำคลองเปรม ถ.งามวงศ์วาน เขตลาดยาว เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวผู้ต้องขังใน เรือนจําพิเศษกรุงเทพฯ และเรือนจำคลองเปรม ซึ่งมีการปราศรัยเชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมชุมนุม เรียกร้องให้ปล่อยเพื่อนเราออกจากเรือนจำ ให้รัฐบาลหยุดคุกคามประชาชน ให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ให้นายกรัฐมนตรีลาออก และยังมีการร้องเพลงปลุกระดม อันเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายและฝ่าฝืนกฎหมาย

ทั้งนี้ศาลแขวงพระนครเหนือ ประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ 2627/2564 ซึ่งวันนี้ศาลสอบถามจำเลยแล้วเบื้องต้นให้การปฏิเสธ

ขณะที่ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลย โดยมีสัญญาประกัน และกำหนดนัดคุ้มครองสิทธิทางอาญา (กระบวนการคล้ายกับการไกล่เกลี่ยที่ให้คู่ความมาพบกันเพื่อตกลงข้อพิพาทบางข้อหรือทั้งหมดที่สามารถยินยอมกันได้ และการให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนทางกฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิ) ในวันที่ 24 ม.ค.2565

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต. จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น. โฆษก บช.น. เปิดเผยว่าเมื่อเวลา 23.45น. วันที่ 11 ต.ค. ร.ต.ท.ศุภธัช พุกเที่ยง พนักงานสอบสวนเวร รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สน.ทองหล่อ ว่ามีเหตุระเบิด บนถนนกลางสี่แยกอโศก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กทม. จึงออกไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบร่องรอยเศษสะเก็ดวัตถุระเบิดแสวงเครื่องกระจายอยู่บนถนนที่เกิดเหตุ พบร.ต.อ.อุทัย โทบุดดี รองสว.จร.สน.ทองหล่อ ผู้ประสบเหตุประจำอยู่ที่ป้อมยามสี่แยกอโศก อยู่แสดงตัวในที่เกิดเหตุ และได้ประสาน เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด, เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานร่วมตรวจที่เกิดเหตุ

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อเวลา 23.26 น. มีชายไทยไม่ทราบชื่อ ขับขี่รถจยย. 2 คัน มีคนโดยสารซ้อนท้ายรวม 4 คนขี่มาตามถนนสุขุมวิท ทิศทางจากพร้อมพงษ์ มุ่งหน้าแยกอโศก เมื่อมาถึงแยกอโศกเลี้ยวซ้ายและจอดรถริมถนนบริเวณหน้า อาคารเอ็กเชนทาวเวอร์ จากนั้นชายทั้ง 4 คนวิ่งลงจากรถจักรยานยนต์มากลางถนนตรงมาที่ป้อมยามตำรวจและขว้างปาระเบิดแสวงเครื่องรวม 4 ลูก จนระเบิดทั้ง 4 ลูก และรีบขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางสี่แยกพระรามที่สี่ (คลองเตย) ต่อมาเจ้าหน้าที่ สายตรวจจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 2 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ศาลอาญามีคำสั่งในคำร้องขอปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 1 ในคดี คดีหมายเลขดำ อ.2799/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนายศราวุธ หลงเส็ง ผู้ชุมนุม นปช. เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ และต่อสู้ขัดขวาง เจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 วรรคสอง, 215, 216 กรณีเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2550 แกนนำและแนวร่วม นปช. นำขบวนผู้ชุมนุมหลายพันคน จากเวทีปราศรัยเคลื่อนที่สนามหลวง ไปยังบ้านพัก สี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม เพื่อเรียกร้องกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง

ก่อนหน้านี้ทนายความนายจตุพรได้ยื่นประกันตัวเมื่อวันที่ 8 ต.ค. 64 โดยศาลไม่อนุญาต โดยให้เหตุว่า กรณีคดีที่จำเลยทั้งสองขอให้คดีนี้รอฟังผลคำพิพากษาถึงที่สุดนั้น มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว พฤติการณ์แห่งคดีจึงเปลี่ยนแปลงไป เมื่อข้อกล่าวหาในคดีนี้ เป็นข้อร้ายแรง มีอัตราโทษสูง ประกอบกับจำเลยที่ 1 ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในคดีอื่นมาแล้ว หากให้ปล่อยชั่วคราวไป อาจหลบหนีได้ ทั้งจำเลยที่ 1 ถูกจำคุกในคดีอื่นอยู่ในขณะนี้ การปล่อยชั่วคราวในคดีนี้จึงย่อมไม่เป็นประโยชน์ จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 1 ให้ยกคำร้อง แจ้งคำสั่งให้จำเลยที่ 1 และนายประกันทราบเป็นหนังสือโดยเร็ว

ต่อมาวันที่ 11 ต.ค. 64 ทนายความยื่นขอประกันอีกโดยศาลอาญามีคำสั่งไม่อนุญาต เนื่องจากพฤติการณ์แห่งคดีเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ขณะนี้จำเลยยังต้องขังอยู่ กรณีไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง คืนหลักประกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ทนายความของนายจตุพร จำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว ซึ่งศาลอาญาจะดำเนินการส่งคำอุทธรณ์ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน