เปิดผับโจ๋งครึ่ม-เหล้าเบียร์ครบ
เอาผิดฝ่าฝืนพรก.-ศาลปรับ2.5พัน

ผับดังเย้ยโควิด ลอบจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ลูกค้านั่งดื่มกินสนุกสนานสำราญใจไม่เว้นระยะห่างทั้งตร.-ผอ.เขตเคยไปเตือนแล้วยังไม่ยอมเลิก แถมสถานที่ตั้งอยู่ในห้างใหญ่กลางเมืองติดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจปทุมวันเลย จัดเต็มรวบนักท่องราตรีนับร้อยผิดฐานมั่วสุม ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ส่งศาลปรับคนละ 2.5 พัน

วันที่ 19 ต.ค. พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ปทุมวัน เผยว่า นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน เข้าตรวจสอบสถานบริการ ร้าน tapas music bar ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนพระราม 1 แขวงและเขตปทุมวัน กทม. เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 18 ต.ค. หลังจากทราบว่ามีการฝ่าฝืนจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และปล่อยให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก โดยไม่มีการเว้นระยะห่าง ตามข้อกำหนดของสาธารณสุข

เมื่อเข้าไปภายในร้านพบว่ามีลูกค้ากำลังนั่งดื่มกินอย่างสนุกสนาน มีการแสดงเล่นดนตรีและลักลอบจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยไม่เว้นระยะห่าง จึงควบคุมนักเที่ยวที่ใช้บริการทั้งหมด 93 คน แบ่งเป็นผู้ชาย 29 และผู้หญิง 64 คน ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.อ.พันษา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับการร้องเรียนว่าสถานบริการดังกล่าวมีการลักลอบจำหน่ายแอลกอฮอล์และไม่จัดพื้นที่นั่งเว้นระยะห่างให้กับลูกค้า สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา จึงให้ชุดสืบสวนเข้าไปตรวจสอบ พบว่ามีการลักลอบกระทำความผิดและว่ากล่าวตักเตือนให้ปรับปรุง ต่อมาเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ผอ.เขตปทุมวันเข้าไปตักเตือนและแนะนำด้วยเช่นกัน แต่สุดท้ายยังพบมีการลักลอบเปิดโดยไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดไม่เกรงกลัวกฎหมาย ที่สำคัญคือร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แต่ก็ยังจะฝ่าฝืน จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบและจับกุมเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. เผยว่า เจ้าหน้าที่มีการดำเนินคดีในความผิดเรื่องของการมั่วสุม ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ส่วนเจ้าของสถานประกอบการ พนักงานสอบสวนจะมีการเรียกให้มาสอบปากคำในวันนี้ เบื้องต้นมีความผิดฐานลักลอบจำหน่ายสุรา ส่วนกลุ่มนักเที่ยวตำรวจยื่นฟ้องศาลแขวงใต้ในวันนี้ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าเจ้าหน้าที่ท้องที่ตักเตือนเมื่อวันที่ 16 ต.ค. แล้วหนึ่งครั้ง แต่ยังกระทำผิดอีกจึงเข้าจับกุม เบื้องต้นยังไม่พบว่ากลุ่มนักเที่ยวทั้งหมดมีการนัดรวมตัว เพื่อมั่วสุมกันหรือไม่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ส่วนมาตรการป้องกันการลักลอบจำหน่ายสุราให้นั่งกินในร้านอาหาร เพิ่มมาตรการความเข้มงวดในการตรวจสอบสถานประกอบการต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจในพื้นที่จะร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตในกรุงเทพ มหานคร เข้าตรวจตรวจสอบสถานประกอบการต่างๆ ว่า มีการฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และประกาศของกรุงเทพมหานครหรือไม่ โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ใช้การตักเตือนก่อน แต่ก็ยังพบว่ามีการลักลอบเปิดสถานบริการและจำหน่ายสุรา หลังจากนี้หากพบการกระทำ ความผิดดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า สถานบริการต่างๆ ยังไม่มีการอนุญาตให้เปิด โดยเฉพาะการจำหน่ายสุรา ขณะนี้ผบ.ตร.สั่งการให้เข้มงวด กวดขัน เน้นย้ำกำกับดูแล เนื่องจากยังอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อยากให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกัน พร้อมขอความร่วมมือเจ้าของสถานประกอบการต่างๆ ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย

วันเดียวกัน พนักงานสอบสวนสน.ปทุมวัน นำผู้ต้องหาชุดแรก 62 ราย ส่งพนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลแขวงยื่นฟ้องด้วยวาจาในความผิดฐานฝ่าฝืนข้อกำหนดตามพ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ศาลพิพากษาว่าผู้ต้องหากระทำผิดตามฟ้อง ปรับคนละ 5,000 บาท รับสารภาพลดกึ่งหนึ่งคงปรับคนละ 2,500 บาท ส่วนของนักเที่ยวที่ รับสารภาพ ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออยู่ระหว่างการดำเนินการภายหลังต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน