วอนรัฐช่วยขนศพลูกตายในดูไบ – เมื่อวันที่ 5 ส.ค. นางบรรจง แสวงวงษ์ อายุ 58 ปี ชาวอำเภอโนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ พร้อมญาติร้องขอความเห็นใจจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ กรมการจัดหางาน กรมการกงสุล ช่วยเหลือนำร่างนายเชาวลิต เจริญสุข อายุ 35 ปี สาวประเภทสองที่ไปทำงานนวดแผนไทยที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แล้วล้มป่วยเสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลตามประเพณีและฌาปนกิจที่บ้านเกิด เนื่องจากเดินทางไปแบบ นักท่องเที่ยวไม่ได้ไปผ่านกรมการจัดหางาน ครอบครัวไม่รู้ว่าจะต้องเดินเรื่องยังไง และไม่รู้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากน้อยขนาดไหนถึงจะสามารถนำร่างกลับบ้านเกิดได้
นางบรรจงเล่าทั้งน้ำตาว่า นายเชาวลิตเป็นลูกคนโตแต่เป็นสาวประเภทสองช่วงโควิดระบาดหางานทำลำบาก เพื่อนชวนไปทำงานนวดแผนไทยที่ดูไบ เพราะที่ผ่านมาเคยไปแล้วครั้งหนึ่งพอได้เงินมาทำบุญให้พ่อที่เสียชีวิตและต่อเติมบ้านให้กับแม่ จึงตัดสินใจไปอีกครั้งแบบนักท่องเที่ยวไม่ได้ไปผ่านกรมการจัดหางาน ลูกโทร.มาบอกว่าไม่ค่อยมีงานเหมือนไปครั้งก่อนตนคอยให้กำลังใจลูกตลอดและบอกว่าถ้าไม่ไหวก็กลับมาหางานทำที่บ้าน แต่ลูกบอกว่าขอทำต่ออีกสัก 2-3 เดือนแล้วจะกลับ
วอนช่วย – ครอบครัวนายเชาวลิต เจริญสุข หมอนวดสาวประเภทสองที่เสียชีวิตขณะทำงานในดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ วิงวอนหน่วยงานภาครัฐหาทางช่วยนำศพกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 5 ส.ค.
กระทั่งวันที่ 30 ก.ค. ลูกโทร.มาบอกว่า จู่ๆ มีอาการเหนื่อยเหมือนจะไม่สบาย จึงไปขออยู่กับน้องสาวซึ่งทำงานนวดอยู่อีกเมืองหนึ่งของดูไบ น้องคอยดูแลหาอาหารและยาให้กิน เพราะไม่กล้าไปโรงพยาบาลเพราะไม่ได้ต่ออายุพาสปอร์ตได้แต่นอนกินยารักษาตัวเองอยู่ที่ห้องน้องสาว กระทั่งช่วงประมาณตี 2 ลูกสาวคนเล็กก็โทร.มาหาตนเองว่า พี่ชายอาการ ไม่ค่อยดีถึงขั้นอุจจาระปัสสาวะใส่ที่นอน น้องสาวจึงตัดสินใจจะพาพี่ไป ร.พ. แต่ระหว่างจะประคองพี่ออกจากห้องพักพี่ก็ทรุดลงและสิ้นใจต่อหน้าน้องสาว
“ตอนนั้นยอมรับว่าช็อกทำใจไม่ได้ จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานรัฐช่วยเหลือนำร่างลูกกลับมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านเกิด หัวอกคนเป็นแม่ก็อยากเห็นหน้าและกอดลูกเป็นครั้งสุดท้ายแม้จะเหลือแค่ร่างที่ไร้วิญญาณของลูกก็ตาม” นางบรรจงร่ำไห้กล่าว
