ตร.โสมตามตัว กระหึ่มโซเชี่ยล ในหลวง-ราชินี ส่งสาส์นเสียใจ พ่อแม่ฝากทูตพาครูแบมกลับ

โศกนาฏกรรม ‘อิแทวอน’ มีสาวเกาหลีเสียชีวิตเพิ่มอีก 2 รวม 156 รายแล้ว ตำรวจเร่งหาสาเหตุสลด ลุยสอบพยาน เช็ก 94 กล้องวงจรปิด ทั้งในพื้นที่ 52 จุด และรอบบริเวณอีก 42 จุด รวมถึงคลิปในโลกโซเชี่ยล ยันไม่ทิ้งปมหนุ่มสวมที่คาดผม หูกระต่าย ที่ถูกลือหึ่งมีส่วนผลักคนล้ม

เซ่นอิแทวอนแล้ว 156
วันที่ 1 พ.ย. สำนักข่าวยอนฮัป รายงานความคืบหน้าโศกนาฏกรรมงานฮัลโลวีน ย่านอิแทวอน ย่านสถานบันเทิงชื่อดังของ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 155 ราย เป็นชาวเกาหลีใต้ 129 ราย ส่วนเหยื่อชาวต่างชาติยังคงที่ที่ 26 ราย

ขณะเว็บไซต์ข่าวดองการะบุว่า หญิงสาวชาวเกาหลีใต้ช่วงอายุ 20 ปี หนึ่งในผู้ประสบเหตุบาดเจ็บสาหัส มีอาการทรุดลงต่อเนื่องกระทั่งเสียชีวิตเมื่อเวลาราว 21.00 น. ของวันจันทร์ที่ 31 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้ ผู้เสียชีวิตที่มีช่วงอายุ 20 ปีขึ้นไปเพิ่มเป็นอย่างน้อย 103 ราย ผู้เสียชีวิตในช่วงอายุ 30 ปีมี 31 ปี ผู้เสียชีวิตที่เป็นวัยรุ่น รวมถึงนักเรียนระดับมัธยมศึกษามี 12 ราย ผู้เสียชีวิตช่วงอายุ 40 ปีมี 8 ราย และพบผู้เสียชีวิตในช่วงอายุ 50 ปี 1 ราย

ส่วนตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้นจาก 149 คนเป็น 152 คน แบ่งเป็นบาดเจ็บเล็กน้อย 122 คน และบาดเจ็บสาหัส 30 คน โดยผู้บาดเจ็บที่เข้ารับการรักษาและแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วมี 111 คน อีก 41 คนยังต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลและอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะที่ประชาชนจำนวนมากยังเดินทางไปร่วมไว้อาลัย วางดอกไม้ การ์ดข้อความแสดงความเสียใจ รวมถึงอาหารและของเซ่นไหว้แก่ผู้เสียชีวิต ทั้งบริเวณแท่นไว้อาลัยของทางการด้านหน้าศาลาว่าการ กรุงโซล และทางเข้าออกของสถานีรถไฟใต้ดินย่านอิแทวอน โดยบรรยากาศยังเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและเสียงร้องไห้ที่ดังระงมไปทั่ว

ต่อมาเว็บไซต์หนังสือพิมพ์โคเรีย จุงอัง เดลี ของเกาหลีใต้ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตในโศกนาฏกรรมงานฮัลโลวีนย่านอิแทวอนเพิ่มเป็นอย่างน้อย 156 ราย ในจำนวนนี้เป็นชาวเกาหลีใต้ 130 ราย โดยเหยื่อรายล่าสุดเป็นหญิงสาวช่วงอายุ 20 ปี และแพทย์ประกาศว่าเสียชีวิตแล้วหลังจากอาการวิกฤตหนักเมื่อช่วงเช้าวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ไม่กี่ชั่วโมงหลังข่าวการเสียชีวิตของหญิงสาวชาวเกาหลีใต้อีกรายเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ที่ 31 ต.ค. ส่งผลให้ตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเหลือ 29 คน ท่ามกลางความหวาดวิตกว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

อาลัย – ประธานา ธิบดียุน ซอกยอล ผู้นำเกาหลีใต้ นำครม.ไปร่วมวางดอกไม้ไว้อาลัยผู้เสียชีวิตที่ทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดินย่าน อิแทวอน กรุงโซล ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 156 ราย และบาดเจ็บ 152 คน เมื่อวันที่ 1 พ.ย.

ปธน.เกาหลีระดมถกรับมือ
ด้านประธานาธิบดียุน ซอกยอล ผู้นำเกาหลีใต้ จะจัดการประชุมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและประชาชนในสัปดาห์หน้าเพื่อหารือถึงการยกระดับมาตรการด้านความปลอดภัย คาดว่าการประชุมดังกล่าวจะจัดขึ้นช่วงต้นสัปดาห์ โดยนายยุนจะเป็นประธานการประชุมเฉพาะกิจ พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี หน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง และผู้เชี่ยวชาญจากภาคประชาชน เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของประเทศในรอบหลายปี รวมถึงระดมความคิดเพื่อหาแนวทางปรับปรุงมาตรการความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะจากตัวอย่างในประเทศต่างๆ ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดียุนมีคำสั่งให้หน่วยงานรัฐบาลจัดทำระบบควบคุมฝูงชนที่รวมตัวทำกิจกรรมโดยไม่มีการจัดงานอย่างเป็นกิจจะลักษณะเพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำรอยในอนาคต ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่นระบุว่าเหตุเหยียบกันในย่านอิแทวอนทำให้ตระหนักได้ว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการวางรากฐานทางกฎหมาย ข้อบังคับ รวมทั้งการประสานงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และตำรวจในการรับมือกับเหตุการณ์ที่มีคนหมู่มาก “ถนนหนทางอยู่ในอำนาจการดูแลของรัฐบาลท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำหน้าที่ป้องกันภัยพิบัติ ส่วนตำรวจดูแลความปลอดภัยสาธารณะ และการแยกการทำงานนี้นำไปสู่จุดบอดเมื่อเกิดเหตุใหญ่” เจ้าหน้าที่นายหนึ่งระบุ

พิสูจน์ – ตำรวจเกาหลีใต้ตรวจพิสูจน์เครื่องประดับของใช้ส่วนตัวของเหยื่อโศกนาฏกรรมอิแทวอน ที่เก็บรวบรวมได้ในบริเวณเกิดเหตุ พร้อมกับเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด-คลิปวิดีโอเพื่อหาสาเหตุแท้จริง เมื่อวันที่ 1 พ.ย.

ลุยเช็ก 52 วงจรปิดหาเหตุสลด
ส่วนการสอบสวนนั้นพล.ต.ท.นัม กูจุน ผู้บังคับการสำนักงานสอบสวนแห่งชาติ สำนักงานตำรวจเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า คณะทำงานสอบสวนเหตุที่ย่านอิแทวอนซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนพิเศษ 475 นาย ทำการสอบปากคำพยานผู้เห็นเหตุการณ์แล้วอย่างน้อย 44 คน รวมถึงเก็บรวบรวมหลักฐานกล้องวงจรปิด 52 กล้องในพื้นที่ 42 จุดรอบบริเวณจุดเกิดเหตุ และตรวจสอบคลิปวิดีโอต่างๆ ที่ถูกโพสต์บนโลกออนไลน์โดยเบื้องต้นยังไม่พบการกระทำที่มีความผิดทางอาญา เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นกล่าวหาว่ามีผู้ร่วมงานบางส่วนผลักคนในฝูงชนจนเป็นเหตุให้เกิดการล้มระเนราด และเหยียบกัน พล.ต.ท.นัมกล่าวว่า มีพยานที่ให้การแตกต่างกันซึ่งทางตำรวจจำเป็นต้องตรวจสอบเพิ่มเติม ก่อนเสริมว่าการชันสูตรพลิกศพเหยื่อในเหตุการณ์นี้ไม่มีความจำเป็น และยังไม่มีครอบครัวของผู้เสียชีวิตร้องขอให้ชันสูตรศพ

นอกจากนี้ พล.ต.ท.นัมยังให้คำมั่นว่า จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับการหมิ่นประมาทและการรั่วไหลข้อมูลส่วนตัวของ ผู้เสียชีวิต โดยสั่งการให้ตำรวจท้องที่สอบสวนบทความออนไลน์อย่างน้อย 6 บทความที่โพสต์เกี่ยวกับเหตุดังกล่าว ตำรวจกำลังพิจารณาเปิดการสอบสวนเกี่ยวกับบทความและการแสดงความคิดเห็นที่เป็นเท็จ ใส่ร้ายป้ายสี และเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของเหยื่อแม้ยังไม่มีการยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบก็ตาม ขณะเดียวกันรอยเตอร์เผยแพร่ภาพถ่ายหลักฐานจำนวนมากของเหยื่อ ผู้เสียชีวิต ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า และของใช้ส่วนตัวซึ่งทางตำรวจนำไปจัดเก็บไว้ที่โรงยิมฯ ในกรุงโซลระหว่างดำเนินการสอบสวน

หลักฐาน – จนท.เกาหลีใต้ตรวจสอบข้าวของใช้ส่วนตัวของเหยื่อใน โศกนาฏกรรมอิแทวอน ซึ่งถูกนำไปจัดเก็บไว้ในโรงยิมฯ ในกรุงโซล ขณะที่สอบปากคำพยานแล้ว 44 คน รวมทั้งเก็บหลักฐานจากกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุ และเร่งตรวจสอบคลิปวิดีโอเหตุการณ์บนโลกออนไลน์ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.

ไม่ทิ้งปมชายสวมคาดผมหูกระต่าย
สำนักข่าวโชซุนของเกาหลีใต้รายงานว่า ตำรวจเริ่มการสอบสวนอย่างเต็มรูปแบบเพื่อค้นหาสาเหตุของโศกนาฏกรรมอิแทวอน รวมถึงตรวจสอบความถูกต้องของข่าวลือที่ปรากฏบนอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับ “ชายสวมที่คาดผมหูกระต่าย” โดยข่าวลือดังกล่าวได้พูดถึงจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์สลดว่า เกิดจากชายสวมที่คาดผมหูกระต่ายและกลุ่มเพื่อนอีก 4-5 คนของเขา เป็นผู้ตะโกนว่า “ดันเลย ผลักเลย”

ชาวเน็ตรายหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.35 น.ของวันที่ 30 ต.ค. ด้านหลังของเขามีชายคนหนึ่ง อายุราว 20 ปลายๆ ตะโกนขึ้นมาว่า “ดัน! ดัน!” จากนั้นชายคนนั้นก็ผลักตนจากด้านหลังจนตนล้มลง ซึ่งคำกล่าวนี้สอดคล้องกับคำให้การของพยานและผู้รอดชีวิตว่า มีใครบางคนจงใจผลัก

ด้วยเหตุนี้ ชาวเน็ตจึงเริ่มตามหาชายสวมที่คาดผมหูกระต่ายดังที่ปรากฏในวิดีโอ และไม่นานหนึ่งในนั้นก็ถูกระบุตัวตนได้ ชาวเน็ตพากันประณามว่าเป็น “ตัวการหลัก” และหลังจากที่ใบหน้าของเขาถูกเผยแพร่ทางออนไลน์ เขาก็รีบโพสต์อธิบายผ่านอินสตาแกรมทันที

วอนอย่าล่าแม่มด
ทั้งนี้ชายคนดังกล่าวอธิบายว่า เขาและเพื่อนกำลังถูกล่าแม่มดในฐานะฆาตกร เขาไป อิแทวอนในวันนั้นโดยสวมที่คาดผมหูกระต่ายจริง แต่ตอนเกิดเหตุเขาและเพื่อนได้เดินออก จากอิแทวอนไปแล้ว พร้อมกับเปิดเผยรายละเอียดการนั่งรถไฟใต้ดินว่า รายงานอุบัติเหตุอิแทวอนครั้งแรกเมื่อเวลา 22.15 น. แต่เขาขึ้นรถไฟใต้ดินจากสถานีอิแทวอนเวลา 21.55 น. และลงที่สถานีฮับจอง เวลา 22.17 น.

นอกจากนี้ยังให้สัมภาษณ์ผ่านทางโชซุนว่า เนื่องจากวันเกิดเหตุมีผู้คนมากกว่าที่คิด เขาจึงย้ายไปยังสถานีฮับจองแทน เขาไม่เคยผลักใคร และตอนนี้กำลังไปสถานีอิแทวอนเพื่อตามหาหลักฐาน ขอดูกล้องวงจรปิด

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ชาวเน็ตให้เหตุผลว่ามันเป็นโลกที่คนคนหนึ่งจะกลายเป็นอาชญากรได้ง่าย และภายในอิแทวอนไม่น่าจะมีผู้ชายเพียงคนเดียวที่สวมที่คาดผมหูกระต่าย พร้อมแนะนำว่าอย่าล่าแม่มดมากเกินไป

แห่อาลัยลีดเดอร์สาวคนดัง
เดอะ โคเรียเฮรัลด์ รายงานว่า มีคนในวงการกีฬาเกาหลีใต้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมที่อิแทวอน 1 ราย คือ คิม ยู นา เชียร์ลีดเดอร์สาว วัย 24 ปี ที่เคยเป็นเชียร์ลีดเดอร์ให้ทีมเบสบอล แอลจีทวินส์ ในปี 2016 และทีมเกียร์ไทเกอร์ส ปี 2018

โดยในโลกออนไลน์มีกลุ่มเพื่อนและแฟนคลับเข้ามาโพสต์แสดงความเสียใจต่อการจากไปของคิม ยู นา จำนวนมาก

นอกจากคิม ยู นา ที่เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมแทวอนแล้ว ยังมีนักแสดงหนุ่ม อีจีฮัน ซึ่งเคยปรากฏตัวในรายการ “Produce 101” ซีซั่น 2 ของ Mnet

ในหลวงส่งราชสาส์นเสียใจ
วันเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ส่งข้อความพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัยไปยังประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี กรณีเกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่ ย่านอิแทวอน กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2565 ความว่า ข้าพเจ้าและพระราชินีมีความเศร้าสลดใจอย่างยิ่งที่ได้ทราบข่าวโศกนาฏกรรมความสูญเสียที่ย่าน อิแทวอนของกรุงโซล นับเป็นโศกนาฏกรรมอันร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งที่เกิดขึ้นในหลายทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งรู้สึกตระหนกใจกับจำนวนผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้สูญหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมทั้งคนไทยที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย ในนามของประชาชนชาวไทย ข้าพเจ้าและพระราชินีขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมายังท่านและประชาชนสาธารณรัฐเกาหลี ต่อการสูญเสียและทุกข์โศกจากเหตุการณ์ร้ายแรงครั้งนี้ (พระปรมาภิไธย) มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ส่งสารแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่ย่านถนนอิแทวอน กรุงโซล เกาหลีใต้ ถึงนายยุน ซอก-ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ความว่า “ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมในงานเทศกาลคืนวันฮัลโลวีนที่ย่านถนนอิแทวอน กรุงโซล เกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ในนามของรัฐบาลไทย ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ต่อเหตุการณ์แตกตื่นในวันฮัลโลวีนที่ย่านอิแทวอน ในกรุงโซล เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2565 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากซึ่งรวมถึงชาวไทยด้วย

ในนามของรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทย ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจต่อท่านและประชาชนเกาหลีใต้ พร้อมครอบครัวที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักในโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ขณะเดียวกันเราหวังว่าผู้บาดเจ็บจะหายเป็นปกติดีโดยเร็ว มั่นใจว่าภายใต้การนำและการกำกับดูแลของท่านและรัฐบาลเกาหลีใต้จะสามารถคืนสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติได้โดยเร็ว ทั้งนี้ประเทศไทยยืนหยัดเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับชาวเกาหลีใต้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้

ญาติขอรับ‘ครูแบมแบม’กลับ
วันเดียวกัน นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงโซลรายงานว่า จนถึงเช้าวันที่ 1 พ.ย. ยังไม่ได้รับแจ้งว่า มีคนไทยได้รับบาดเจ็บ หรือสูญหายเพิ่มเติม ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทยได้ขอเบอร์โทร.ติดต่ อกับบิดาผู้เสียชีวิต ซึ่งน่าจะเป็นผลดีในกรณีที่ครอบครัวจะเดินทางไปเกาหลีใต้ หรือ จะมีการมอบเงินเยียวยาต่อไปในอนาคต หากมี

นายธานีกล่าวด้วยว่า ล่าสุดครอบครัวของ ‘ครูแบมแบม’ หรือน.ส.นัฐธิชา มาแก้ว ที่เสียชีวิตในโศกนาฏกรรมที่อิแทวอน ได้มอบอำนาจให้สถานเอกอัครราชทูตจัดการศพเรียบร้อยแล้ว โดยมีความประสงค์จะให้ส่งศพกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่ประเทศไทย ในชั้นนี้ยังรอว่าฝ่ายตำรวจเกาหลีใต้จะพร้อมให้รับศพออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่

ขณะที่เวลา 11.05 น. วันนี้ นายวิชชุ เวชชาชีวะ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ได้รับแจ้งจากนางอึย-แฮ เซซิเลีย ชอง อธิบดีกรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ว่า ทางการเกาหลีใต้ยินดีให้ความช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่ายในการ ส่งศพผู้เสียชีวิตกลับไทย สำหรับรายละเอียดค่าใช้จ่ายดังกล่าวที่ทางการเกาหลีใต้จะช่วยเหลือได้นั้นอยู่ระหว่างการประสานงาน

เกาหลีช่วยเยียวยา 1 ล้าน
ที่ จ.เพชรบูรณ์ น.ส.สุกัญญา องค์วิเศษไพบูลย์ แรงงานจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยประกันสังคมจังหวัดเพชรบูรณ์ เข้าไปให้การช่วยเหลือครอบครัว ‘ครูแบมแบม’ โดย น.ส.สุกัญญากล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเคยทำงานอยู่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และได้เข้าระบบประกันสังคม ก่อนไปศึกษาต่อในด้านภาษาที่ประเทศเกาหลีใต้ แต่เนื่องจากระบบประกันสังคมยังคุ้มครองอยู่ จึงมีเงินช่วยเหลือในส่วนนี้ประมาณหกหมื่นกว่าบาท ซึ่งทางประกันสังคมจะได้เร่งรัด ตรวจสอบ เพื่อเบิกจ่ายให้กับครอบครัวต่อไป

นายเพชรลดา บุญแสง ญาติคนสนิทของครูแบมแบม กล่าวว่า เมื่อสักครู่สถานทูตไทยประจำประเทศเกาหลีใต้แจ้งมาว่า รัฐบาลประเทศเกาหลีใต้มีเงินเยียวยาให้กับผู้เสียชีวิตประมาณ 6 แสนบาท และเงินเกี่ยวกับการจัดการศพประมาณ 4 แสนบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1 ล้านกว่าบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารเพื่อนำประกอบในด้านการเบิกจ่ายต่อไป

นายสาคร มาแก้ว อายุ 67 ปี พ่อของครูแบมแบมกล่าวว่า ครั้งแรกที่ประเทศเกาหลีใต้แจ้งมาว่า จะต้องมีค่าใช้จ่ายในการนำศพลูกสาวกลับมาที่ประเทศไทยประมาณสี่แสนบาท รู้สึกเครียดเป็นอย่างมาก และเตรียมที่จะไปหยิบยืมเงินญาติๆ มาเป็นค่าใช้จ่าย รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพด้วย และนอกจากนั้นยังมีเงินที่กู้จากธกส. เพื่อให้ลูกได้ไปเรียนภาษาอีกประมาณหนึ่งแสนบาท ขณะที่เงินกู้กยศ.ก็ยังคงค้างอยู่อีกแสนกว่าบาท ตนยังคิดไม่ออกเลยว่าจะทำอย่างไร เพราะมีลูกสาวเพียงคนเดียว หวังจะฝากผีฝากไข้ และให้ดูแลยามเจ็บป่วย ยามแก่ชรา แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เสียก่อน หลังทราบว่าประเทศเกาหลีใต้มีเงินเยียวยา และช่วยเหลือด้านการจัดการศพ จึงคลายกังวลลงบ้าง และหลังจากเมื่อวาน ที่มีการนำเสนอข่าวว่าต้องไปหยิบยืมเงินจากเพื่อนบ้าน เพื่อมาใช้จ่ายในงานศพ ทำให้มี ผู้ใจบุญติดต่อเข้ามา เพื่อที่จะช่วยเหลือและ ร่วมทำบุญ เพื่อใช้ในการจัดงานศพ รวมทั้งไว้เป็นค่าใช้จ่ายเมื่อยามแก่ชรา ดังนั้น ท่านใดที่จะร่วมทำบุญกับน้องแบมแบมสามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ธกส.สาขาหล่มสัก ประเภทออมทรัพย์เลขที่ 020105993081 ชื่อบัญชี นายสาคร มาแก้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน