เตือน9จว.ใต้จ่อวิกฤต อ่าวไทยคลื่นสูง2เมตร
น้ำป่าถล่มอำเภอรัตภูมิ จมแล้ว 10 หมู่บ้าน เรือกสวนไร่นาเสียหาย ด้านปภ.สงขลาเตือนบ้านในที่ลุ่มและใกล้ภูเขายกของขึ้นที่สูง ส่วนที่ควนกาหลง-สตูล น้ำท่วม 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน ศูนย์อุตุฯ ภาคใต้เตือน 9 จังหวัดเจอฝนตกหนัก อ่าวไทยทะเลคลื่นสูง 2 เมตร ขณะที่กาฬสินธุ์สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย เหยื่ออุทกภัยกลับนอนบ้านแล้ว แม่ฮ่องสอนแนะนักท่องเที่ยวต้องเตรียมเครื่องนุ่งห่มกันหนาวให้พร้อม เหตุอุณหภูมิในทุ่งบัวตอง ดอยแม่อูคอ ต่ำสุดเพียง 2 องศา ส่วนที่ภูกระดึงหนาวสะท้าน 10 องศา นักท่องเท่ยวแห่สัมผัสทะเลหมอก
9จังหวัดใต้วิกฤตเสี่ยงท่วม
เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 6 พ.ย. ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จ.สงขลา ประกาศฉบับที่ 6 (32/2565) เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีผลกระทบวันที่ 6 พ.ย.
ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลอันดามันตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหลายพื้นที่ และฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในวันที่ 6 พ.ย. โดยส่งผลกระทบ ดังนี้ จังหวัดที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก บางแห่ง ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรี ธรรมราช พัทลุง และสงขลา
จังหวัดที่มีฝนตกหนักบางแห่ง ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง
คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 5 พ.ย. รายงานจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลาว่า เกิดเหตุอุทกภัย เหตุน้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ ต.เขาพระ ม.1, 4, 5, 6, 7, 10, 11, 12 และต.ท่าชะมวง ม.8, 15 อ.รัตภูมิ พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย ยังประเมินความเสียหายไม่ได้ แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ราบลุ่มและใกล้ภูเขาเตรียมเฝ้าระวังและยกของขึ้นที่สูงแล้ว
น้ำป่า – ชาวบ้านช่วยกันเก็บทรัพย์สินหนีน้ำป่าที่หลากท่วม 4 หมู่บ้าน ในพื้นที่ 2 ตำบล อ.ควนกาหลง จ.สตูล หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง โดยกรมอุตุนิยมวิทยาเตือน 9 จังหวัดภาคใต้จ่อวิกฤต เมื่อวันที่ 6 พ.ย.
Advertisement
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 5 พ.ย. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สตูล ได้รับรายงานว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่อ.ควนกาหลง ตั้งแต่เวลา 14.00 น. วันที่ 5 พ.ย. ทำให้เกิดน้ำท่วม บ้านเรือนประชาชนและเอ่อล้นท่วม ถนนสายเขาไคร-บ้านเหนือคลอง ม.6 ต.ควนกาหลง และพื้นที่บ่อน้ำพุร้อน ม.4 ต.ทุ่งนุ้ยต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล เบื้องต้นขณะนี้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้ว 4 หมู่บ้าน 2 ตำบล ขณะนี้ในพื้นที่ฝนยังตกอย่างต่อเนื่อง ทาง อ.ควนกาหลงประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงให้ติดตามสถานการณ์ พร้อมทั้งจัดส่งกำลังสมาชิกอส.ควนกาหลงที่ 4 ร่วมกับฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ออกช่วยเหลือพี่น้องแล้วในเบื้องต้น ความเสียหายอื่นๆ อยู่ระหว่างสำรวจเพิ่มเติ่ม
เผยกาฬสินธุ์น้ำเริ่มแห้งแล้ว
ขณะเดียวกันนายไพศาล ขุนศรี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจ.สตูล เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยที่อาจจะเกิดในพื้นที่จ.สตูล พร้อมกันนี้ได้สนับสนุนเรือ 6 ลำ ลงพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลควนกาหลง เพื่อรับมือสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วนในเบื้องต้นแล้ว
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมของจ.กาฬสินธุ์ หลายพื้นที่คลี่คลายลงและกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ประชาชนส่วนใหญ่สามารถกลับเข้าที่พักอาศัยได้แล้ว แต่ยังมีบางพื้นที่มีน้ำท่วมขังตามถนนในหมู่บ้าน และพื้นที่การเกษตร ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสูบน้ำที่ไหลเข้ามาตั้งแต่พนังชีขาดและท่วมขังออกสู่แม่น้ำชี ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำที่พนัง กั้นแม่น้ำชีบริเวณบ้านแจ้งจม ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย 14 เครื่อง จากหน่วยงานต่างๆ ทั้งโครงการชลประทานกาฬสินธุ์ อบจ.กาฬสินธุ์ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ ทั้งนี้เพื่อเป็นการเร่งการระบายในพื้นที่ให้ออกสู่ลำน้ำชีโดยเร็ว นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ยังได้สั่งการให้ย้ายเครื่องสูบน้ำของศูนย์ปภ.เขต 6 ขอนแก่น ที่มีอัตราการสูบ 50,000 ลิตร/นาที 1 เครื่อง จากเดิมติดตั้งที่บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 214 ย้ายมาติดตั้งยังบริเวณโรงสูบเก่า บ้านแจ้งจม ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย เพื่อช่วยเครื่องสูบน้ำที่อยู่ 14 เครื่อง โดยสูบระบายน้ำตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย
นอกจากนี้นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายตรีรัตน์ หนูแก้วขวัญ หัวหน้า สนง.ปภ.กาฬสินธุ์ นายณัฐพล เพียรภายลุน ปลัดอาวุโสอำเภอกมลาไสยรักษาการแทนนายอำเภอกมลาไสย ยังร่วมมอบอาหารและน้ำดื่มให้กับผู้ประสบภัย จากโรงครัวของโรงพักกมลาไสย นำโดย พ.ต.อ.ธีรวุฒิ วงศาอ้วน ผกก.สภ.กมลาไสย พ.ต.ท.ประพนธ์ ภูจอมนิล รองผกก.สอบสวนสภ.กมลาไสย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กมลาไสย ที่ลงพื้นที่มาประกอบอาหารแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมที่บ้านแจ้งจม ต.เจ้าท่า
นายศุภศิษย์ระบุว่า จากการระดมเครื่องสูบน้ำจากหน่วยงานต่างๆ โดยเริ่มสูบน้ำตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.เป็นต้นมา เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่ลำน้ำชี ส่งผลให้ระดับน้ำท่วมขังในพื้นที่อ.กมลาไสยลดลงอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยประมาณวันละ 6-8 เซนติเมตร ปัจจุบันประชาชนในอ.กมลาไสยที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วม 1,284 หลังคาเรือน ทยอยกลับเข้าพักอาศัยในบ้านเรือนตนเองเกือบหมดแล้ว เหลืออีกเพียง 3 ครัวเรือนที่บ้านยังมีน้ำท่วมขังบ้าน เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ต่ำ ส่วนพื้นที่อ.ฆ้องชัยก็เช่นกันสถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ ประชาชนกลับเข้าบ้านเกือบทั้งหมดแล้ว จากที่ถูก น้ำท่วม 866 หลังคาเรือน
สำหรับพื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับความเสียหาย 26,158 ไร่ และด้านประมง 185 ไร่ อย่างไรก็ตามคาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมทั้งหมดจะเข้าสู่ภาวะปกติประมาณช่วงปลายเดือนพ.ย.นี้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าช่วยเหลือเยียวยาต่อไป
ทุ่งบัวตอง 2 องศาชุดต้องพร้อม
ด้านนายมาโนช กิ่งเมือง หัวหน้าวนอุทยานทุ่งบัวตอง ดอยแม่อูคอ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จากรายงานของ เจ้าหน้าที่วนอุทยานทุ่งบัวตอง ดอยแม่อูคอ อุณหภูมิต่ำสุดที่ทุ่งบัวตองเช้านี้เมื่อเวลา 06.00 น. วัดได้ 2 องศา ซึ่งอุณหภูมิใกล้แตะจุดเยือกแข็งดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวที่ร่างกายอ่อนแอ และผู้สูงอายุได้ จึงขอเตือนให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวที่ทุ่งบัวตอง ต้องเตรียมร่างกายและเครื่องนุ่งห่มกันหนาวให้พร้อม เพื่อจะสามารถต้านทานความหนาวเหน็บบนทุ่งบัวตองได้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโรงพยาบาลขุนยวม ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่พยาบาลและทีมแพทย์ฉุกเฉินไปประจำที่หน่วยบริการนักท่องเที่ยว วนอุทยานทุ่งบัวตองเพื่อให้การดูแลนักท่องเที่ยวที่เกิดอาการเจ็บป่วยในระหว่างท่องเที่ยว หากนักท่องเที่ยวมีอาการเจ็บป่วย หรืออาการในร่างกายผิดปกติ สามารถไปติดต่อขอรับบริการทางการแพทย์ได้ทันที
สำหรับสภาพอากาศบนทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอ อ.ขุนยวม ในปีนี้พบว่าอุณหภูมิได้ลดต่ำมากกว่าทุกปี ทำให้มีอากาศหนาวจัดมากขึ้น ล่าสุดเช้า 06.00 น. วันที่6 พ.ย. วัดได้ 2 องศาเซลเซียส ส่วนเช้าวานนี้ (5 พ.ย.) ต่ำสุดวัดได้ 6 องศาเซลเซียส และตอนหัวค่ำวัดได้ 12 องศา นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวและพักค้างแรมบนทุ่งบัวตองต้องเตรียมตัวให้พร้อมรับกับสภาพอากาศที่หนาวจัด ไว้ด้วย
ภูกระดึงยะเยือก 10 องศา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.เลย มีลักษณะอากาศเริ่มมีหนาวเย็นลง มีหมอกหนาในตอนเช้า โดยเฉพาะตามยอดเขาและในเขตอุทยานแห่งชาติต่างๆ ในจังหวัดเลย สภาพอากาศอุณหภูมิเริ่มลดลง อย่างอุทยานแห่งชาติภูกระดึง 10.0 องศาเซลเซียส อุทยานแห่งชาติภูเรือ 11.0 องศาเซลเซียส ทำให้อากาศทั่วไปในจังหวัดเลยมีอากาศหนาว
นายอดิสร เหมทานนท์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง เผยว่า วันนี้นักท่องเที่ยวสะสมอยู่บนภูกระดึง 450 คน เช้านี้อุณหภูมิ 10.0 องศาเซลเซียส
สำหรับบรรยากาศแสนสุดฟินในม่านหมอกตลอดของการเดินทางไปชมพระอาทิตย์ขึ้นแสงแรกของวันใหม่ที่ผานกแอ่น ต่างก็ไม่ผิดหวัง มีทะเลหมอกสวย และสร้างความประทับใจ ซึ่งผานกแอ่นเป็นลานหินเล็กๆ มีต้นสนขึ้นโดดเด่นริมหน้าผา เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามยิ่ง และเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยแห่งหนึ่ง ริมทางเดินใกล้ผาแอ่นเป็นสวนหิน มีดอกกุหลาบป่าขึ้นอยู่เป็นดงใหญ่ กำลังชูช่อต้อนรับนักท่องเที่ยว และจากการสอบถามนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่อยากมาสัมผัสหนาว มาช่วงนี้รับรองไม่ผิดหวังอากาศบนยอดภูหนาวตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะช่วงเช้าอากาศหนาวถึงหนาวจัด และตามยอดภูตามผาต่างๆ มักจะเกิดทะเลหมอกให้เห็น
รายงานอุณหภูมิต่ำสุดตามอำเภอต่างๆ เมื่อเช้าวันนี้ (หน่วยวัดเป็นองศาเซลเซียส) ดังนี้ อ.เมืองเลย 15.0, อ.วังสะพุง 18.0, อ.ด่านซ้าย 18.0, อ.เชียงคาน 18.0, อ.ท่าลี่ 18.0, อ.ภูกระดึง 14.0, อ.ภูเรือ 12.0, อ.นาแห้ว 16.0, อ.ปากชม 18.0, อ.นาด้วง 19.0, อ.ภูหลวง 15.0, อ.ผาขาว 17.0, อ.เอราวัณ 18.0, อ.หนองหิน 18.0
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง 10.0, อุทยานแห่งชาติภูเรือ 11.0, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง(ภูเรือ) 11.0, ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเลย (อ.ภูเรือ) 11.0, อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย(อ.นาแห้ว) 14.0 อุณหภูมิต่ำสุดยอดหญ้าที่ อ.เมืองเลย 14.5
แห่เที่ยวปราสาทหินพิมาย
ด้านสภาพอากาศที่ จ.นครราชสีมาช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และมีฝนเล็กน้อยทางตอนล่างของจังหวัด จากอิทธิพลของความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงเหมาะสำหรับการเดินทางไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ โดยที่อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย (ปราสาทหินพิมาย) ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา มีประชาชนในจังหวัดและนักท่องเที่ยว พาครอบครัวเพื่อนฝูงเดินทางมาเที่ยวชมความสวยงาม สัมผัสความอลังการของโบราณสถานคู่บ้านคู่เมืองกันอย่างคึกคัก เพราะถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางโบราณคดีอันทรงคุณค่าด้านสถาปัตยกรรมที่สำคัญของจ.นครราชสีมา และของประเทศ เป็นปราสาทหินทรงขอมโบราณแบบบาปวนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ในอ.พิมาย
