เชิดหนี-ไม่ผ่อน เหยื่อนับสิบราย
เหยื่อแห่แจ้งจับ ‘ผู้กองจิ’ ตุ๋นซื้อดาวน์รถ แล้วไม่ยอมส่งต่อค่างวด ทวงถามก็บ่ายเบี่ยง เชิดรถหนีขาดการติดต่อ มีผู้เสียหายจำนวนมาก แฉอ้างเป็นตร.สร้างความน่าเชื่อถือหลอกเอารถ อีกรายครูโรงเรียนในกทม. นำรถไปจำนำกับนายหน้า 5 หมื่นบาท แต่เมื่อนำเงินไปไถ่ถอน ปรากฏว่ารถถูกจำนำต่อกับนายทุนเงินกู้ หากจะไถ่คืนต้องใช้เงิน 1 แสนบาท
เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ผู้เสียหายเกือบ 10 คน เข้าพบพ.ต.ต.สายยุทธ ยศคำ สว.(สอบสวน) กก.1.ป. และร.ต.ท.ดวง ขาวสอาด รอง.สว.(สอบสวน) กก.3.ป. เพื่อแจ้งความเอาผิดอดีตตำรวจและนายหน้ารับจำนำ ร่วมกันยักยอกรถยนต์สร้างความเดือดร้อนเป็นหนี้สินจำนวนมาก โดยคดีแรกเป็น กลุ่มผู้เสียหายที่ จ.นครราชสีมา ถูกอดีตตำรวจหลอกซื้อดาวน์รถ ก่อนจะเชิดหนีหาย ไม่ยอมส่งค่างวดรถ ส่วนคดีที่ 2 ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านบางซื่อ กทม. นำรถไปจำนำกับนายหน้ารับจำนำรถย่านดอนเมือง และถูกเชิดรถหนีหายไปขาย หรือจำนำต่อกับนายทุนเงินกู้
ส.ท.บุญญฤทธิ์ หลักทอง อายุ 32 ปี ผู้เสียหายคดีแรกกล่าวว่าแจ้งดำเนินคดีนายจิรพันธ์ หรือผู้กองจิ อดีตตำรวจ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2563 ขณะนั้นขาดสภาพคล่องทางการเงิน จึงโพสต์ประกาศขายดาวน์รถผ่านเฟซบุ๊ก เนื่องจากทนแบกรับภาระค่างวดรถไม่ไหว ต่อมานายจิรพันธ์ ติดต่อเข้ามาเพื่อขอรับรถไปผ่อนต่อเอง พร้อมอ้างเป็นตำรวจอยู่ที่ จ.นครราชสีมา จึงส่งมอบรถให้ไป เพราะเห็นว่าเป็นข้าราชการด้วยกัน เมื่อนายจิรพันธ์ได้รถไปแล้วกลับไม่ยอมมาทำเรื่องเปลี่ยนสัญญาผู้ครอบครอง ตอนแรกแต่ยังไม่ได้เอะใจอะไร เพราะเห็นว่าส่งงวดรถตามปกตินานกว่า 1 ปี
แจ้งจับผู้กอง – ผู้เสียหายกว่า 10 คน รวมตัวแจ้งดำเนินคดีนายจิรพันธ์ หรือ ‘ผู้กองจิ’ บำเพ็ญพงษ์ อดีตตำรวจ และนายหน้ารับจำนำ ร่วมกันยักยอกรถของผู้เสียหาย โดยหลอกซื้อดาวน์แล้วนำรถไปจำนำ ที่ศูนย์รับแจ้งความ บช.ก. เมื่อวันที่ 19 ก.ค.
ผู้เสียหายกล่าวอีกว่า จนกระทั่งต้นปี 2566 นายจิรพันธ์เริ่มไม่ส่งค่างวดรถติดต่อกัน 5 เดือน เมื่อทวงถามก็บ่ายเบี่ยง ก่อนตัดขาดการติดต่อ ประกอบกับทราบความจริงภายหลังว่านายจิรพันธ์ถูกให้ออกจากตำรวจไปแล้วตั้งแต่เมื่อปี 2559 แต่ยังอ้างเป็นตำรวจเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ เพื่อจะหลอกเอารถไป มีผู้ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกลักษณะเดียวกับตนอีกหลายราย จึงรวมตัวมาเข้าแจ้งความกองปราบปราม
ขณะที่น.ส.ศศิวิมล จันทร์สว่าง อายุ 31 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง กล่าวว่าแจ้งดำเนินคดีนายกาย นายหน้ารับจำนำรถรายหนึ่งย่านดอนเมือง เมื่อต้นปี 2566 นำรถกระบะโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ วีโก้ จำนำกับนายกาย 50,000 บาท แต่เมื่อนำเงินไปไถ่ถอนรถ ปรากฏว่านายกายนำรถไปจำนำต่อกับนายทุนเงินกู้ หากจะไถ่รถคืนต้องนำเงิน 100,000 บาท ให้นายกายไปไถ่คืน เข้าแจ้งความไว้ที่สน.ดอนเมือง แต่คดีไม่คืบหน้า จึงมาร้องกองปราบฯ ให้ช่วยติดตามรถกลับคืน
