ดึงอนุทิน-ผบ.ตร.ร่วม นายกฯถกอันวาร์ฉลุย เพิ่มการค้าไทย-มาเลย์ เดียร์ไหว้พระ-เอาฤกษ์

ดีเดย์วันนี้แถลงแก้ปัญหาหนี้สินประชาชน เศรษฐาดึงอนุทิน-ผบ.ตร.ร่วมโต๊ะชี้แจง นายกฯ ไทย-ผู้นำมาเลเซียถกทั้งทวิภาคีและเต็มคณะ ต่อยอดความร่วมมือเพื่อพัฒนาชายแดนของทั้ง2 ประเทศ พร้อมขับเคลื่อนคณะทำงาน ด้านการค้า การท่องเที่ยว การเกษตร และความมั่นคงชายแดน ดำเนินการให้เป็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ทวีตหลังพบปะหารือ ‘นายกฯ อันวาร์’ ขอบคุณที่มาร่วมหารือ เตรียมผลักดันให้ตัวเลขการค้าระหว่างสองประเทศสูงขึ้น นายกฯ เซ็นแล้วตั้งคณะกรรมการพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ชุดใหม่ มีรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นประธาน

เศรษฐาล่องใต้คุยผู้นำมาเลย์
เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่ท่าอากาศยานสองกองบิน 6 ดอนเมือง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางลงพื้นที่ชายแดนไทย- มาเลเซีย ด่านสะเดา จ.สงขลา และมีกำหนดพบปะพูดคุยกับนายกฯ ของมาเลเซียว่า จะพูดคุยถึงความร่วมมือการค้าชายแดน โดยจะติดตามความคืบหน้าเรื่องที่เคยพูดคุยกันไปแล้วเมื่อครั้งพบปะกันเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา รวมทั้งปัญหาชายแดนภาคใต้ซึ่งมาเลเซียเคยมีข้อเสนอมาแล้วครั้งนี้ก็จะพูดคุยในรายละเอียด และการตรวจคนเข้าเมือง ส่วนการเปิดด่านถาวรสะเดาได้เมื่อไรนั้น ขอพูดคุยวันนี้ก่อน

เมื่อถามว่าคณะพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ซึ่งหมดวาระพร้อมรัฐบาลชุดที่แล้ว จะตั้งคณะใหม่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จะต้องพูดคุยกันกับทางมาเลเซีย ส่วนฝั่งไทยจะใช้ตัวแทนจากฝ่ายทหารหรือพลเรือนมาพูดคุยนั้น ต้องให้หน่วยงานไปพูดคุยกันก่อน

นายเศรษฐาทวีตก่อนลงพื้นที่ด้วยว่า “ผมตั้งใจมาติดตามงานที่เคยหารือไว้กับมาเลเซีย ระหว่างการเดินทางเช้านี้ หน่วยงานที่รับผิดชอบได้นำเสนอข้อมูลการลงพื้นที่ด่านสะเดา เพื่อเตรียมความพร้อมในหลายๆ ประเด็น ไม่ว่าจะเป็นการค้าชายแดนและการลงทุน, การท่องเที่ยว, การเกษตร และการแปรรูปอาหารฮาลาล, การสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเชื่อมโยงคมนาคม ตลอดจนเรื่องความมั่นคง ผมเชื่อว่าการลงพื้นที่ในวันนี้จะยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและมาเลเซียอย่างแน่นอน”

เซ็นแต่งตั้งคณะพูดคุยสันติสุข
วันเดียวกัน นายเศรษฐาได้ลงนามใน คำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 344/2566 เรื่องแต่งตั้งคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้ โดยมี นายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นหัวหน้าคณะพูดคุย และมีคณะพูดคุย ประกอบด้วย เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ, ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม, โดยมีผู้แทนสำนักงาน สมช., ผู้แทนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นคณะพูดคุย และเลขานุการร่วม

คณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้ มีหน้าที่ดำเนินการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้กับกลุ่มเห็นต่างจากรัฐและผู้ก่อเหตุรุนแรง ในช่องทางที่เป็นทางการ ประเมินวิเคราะห์ท่าที ทัศนคติของกลุ่มเห็นต่างจากรัฐและผู้ก่อเหตุรุนแรง รวมทั้งให้ข้อเสนอแนะ ประสานงาน หรือแสวงหาความร่วมมือ จากส่วนราชการ หน่วยงานรัฐ องค์กรภาคประชาชน และหน่วยงานในต่างประเทศในกิจการ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นต้น

‘ฉัตรชัย’แจงแผนพูดคุยทุกกลุ่ม
ด้านนายฉัตรชัย บางชวด รักษาการเลขาธิการ สมช. กล่าวถึงคำสั่งการแต่งตั้งคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า การดำเนินการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แบ่งเป็น 3 ส่วน คือกรรมการอำนวยการ ศูนย์ขับเคลื่อน และคณะพูดคุย โดยต้องมีองค์ประกอบครบทั้ง 3 ส่วนเพื่อความคล่องตัว และขณะนี้นายกฯ ลงนามแต่งตั้งเฉพาะคณะพูดคุย ซึ่งคาดการณ์ว่าหลังจากนายเศรษฐาพบกับ นายกฯ มาเลเซีย เกิดความคืบหน้า

เมื่อถามว่าคณะผู้อำนวยความสะดวกของทางมาเลเซียยังคงเป็นคณะเดิมหรือไม่ นายฉัตรชัยกล่าวว่า ยังคงเป็นคณะเดิมของพล.อ.ซุลกิฟลี ไซนัล อบิดิน ซึ่งเร็วๆ นี้จะเดินทางไปหารือร่วมกัน

เมื่อถามว่าเป็นงานที่หนักหรือไม่ นายฉัตรชัยกล่าวว่า ยอมรับว่าเป็นงานที่ท้าทาย ตนเคยอยู่ในคณะพูดคุยตั้งแต่สมัยพล.อ.อักษรา เกิดผล จนถึงคณะของพล.อ.วัลลภ รักเสนาะ จะเห็นถึงความคืบหน้าคนและแบบ โดยจะนำมาประยุกต์ใช้ ยอมรับว่ามีเค้าลางที่ดี เนื่องจากที่ผ่านมาพล.อ.วัลลภปูทางไว้ ซึ่งตนจะสานต่อนำไปสู่แผนสันติภาพ ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่ยาก เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นการสร้างความไว้วางใจ และที่ผ่านมาทำได้ค่อนข้างดี บรรยากาศดีขึ้น ทำได้ดีขึ้น หลังจากนี้ไปจะลงเรื่องสารัตถะว่าต้องการอะไร หรือมีอะไรแลกเปลี่ยน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ถือว่ายากขึ้นกว่าเดิม

นายฉัตรชัยกล่าวต่อว่าขณะเดียวกัน ต้องมีการพูดคุยกับกลุ่มผู้ก่อเหตุทุกกลุ่ม ทั้งปีกทหารและปีกการเมืองที่ละเว้นไม่ได้ พร้อมกับมองว่าหากสามารถพูดคุยกับปีกทหารได้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเนื่องจากเป็นกลุ่มที่คุมกำลังในการก่อเหตุ ที่ผ่านมาการพูดคุยที่มาเลเซียสามารถลดความรุนแรงไปได้ส่วนหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดี ในการเจรจาทั้ง 2 ปีก

นัดพร้อม-แถลงแก้ปัญหาหนี้วันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา เตรียมเป็นประธานการแถลงข่าวเรื่องแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ในวันที่ 28 พ.ย.นี้ เวลา 11.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง และพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวครั้งนี้ด้วย

สำหรับประเด็นการแถลงข่าวดังกล่าวนั้น คาดว่าจะเป็นการนำเสนอแนวทางการทำงานร่วมกันของหน่วยงานต่างๆ และมาตรการของรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้กับประชาชน โดยกำหนดให้การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบถือเป็นวาระแห่งชาติ เนื่องจากเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญของประเทศ และประชาชนรายย่อยจำนวนมากกำลังเผชิญความ เดือดร้อนจากสถานการณ์หนี้สินที่รุนแรง

ไทย-มาเลย์ – นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ พบปะหารือกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซีย เรื่องความคืบหน้าการค้าและท่องเที่ยวชายแดน 2 ประเทศ ก่อนเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันที่โรงแรมเดอะวิสต้า จ.สงขลา เมื่อวันที่ 27 พ.ย.

โชว์ทั้งทวิภาคและหารือเต็มคณะ
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ด้านหน้าอาคารสำนักงานด่านศุลกากรสะเดา (แห่งใหม่) อ.สะเดา จ.สงขลา นายเศรษฐาต้อนรับ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในโอกาสเยือนไทย เพื่อการเจรจาทำงานต่อยอดผลการเยือนมาเลเซียของ นายกฯ เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2566 โดยเฉพาะความร่วมมือเพื่อพัฒนาชายแดนไทย-มาเลเซีย

เวลา 11.20 น. ที่ห้องพระนิกรบดีนายกฯ หารือทวิภาคีเต็มคณะร่วมกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยนายกฯ กล่าวชื่นชมการหารือว่ามีประโยชน์ ยังมีประเด็นที่ยังต้องขับเคลื่อนให้เกิดผลในทางการค้า ทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่ได้มาหารือกันวันนี้ เป็นการขับเคลื่อนและต่อยอดความร่วมมือจากที่ได้หารือกันเมื่อครั้งที่นายกฯ เยือนมาเลเซีย โดยเฉพาะความร่วมมือเพื่อพัฒนาชายแดน ยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนตามชายแดนของทั้งสองประเทศ

ยกเว้นแบบตม.6เพื่อนักท่องเที่ยว
โอกาสนี้ นายกฯ เสนอแนวทางเพิ่มพูนการค้าและการลงทุน 1.นายกฯ ขอให้มาเลเซียเป็นเจ้าภาพประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า หรือ JTC ระดับรัฐมนตรีพาณิชย์ เพื่อเป็นเวทีแก้ปัญหาที่ยังคงค้างระหว่างกัน 2.ขอให้มาเลเซียเร่งรัดบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างไทย-มาเลเซีย ประเด็นการข้ามพรมแดน เช่น ด่านสะเดา ทางมาเลเซียจะเร่งดำเนินการให้เปิดใช้งาน 3.ขอให้ ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหอการค้าระดับท้องถิ่นทั้งของไทยและมาเลเซีย เพื่อวางแผนร่วมกันเพิ่มมูลค่าการค้า การท่องเที่ยว และการพัฒนาชายแดน

ด้านการท่องเที่ยว รัฐบาลยกเว้นการยื่นแบบฟอร์ม ตม.6 ณ ด่านสะเดาชั่วคราว 1 พ.ย. 2566 ถึง 31 เม.ย. 2567 ช่วยให้กระบวนการเข้า-ออกไทยของนักท่องเที่ยวมาเลเซียสะดวกมากขึ้น แต่ระบบคมนาคมขนส่งและการเดินทางฝั่งมาเลเซียไม่ เพียงพอ ไทยจึงหวังว่าเอ็มโอยูการขนส่ง ผู้โดยสารข้ามพรมแดนไทย-มาเลเซีย จะเสร็จสมบูรณ์ในเวลาอันใกล้ ขณะที่ไทยยังมีการเข้าถึงที่จำกัด จึงขอให้มาเลเซียอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวไทย

ด้านการเกษตร รัฐบาลไทยมีแผนจัดตั้ง “กรมฮาลาล” ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม โดยจะประสานมาเลเซียเพื่อพัฒนาความร่วมมือเรื่องนี้ ด้านความมั่นคงชายแดน สองฝ่ายมุ่งมั่นแก้ปัญหาการค้าสัตว์ป่าเถื่อนข้ามชายแดนไทยและมาเลเซีย หยุดการลักลอบให้ได้ภายใน ก.พ. 2567 ด้านโครงการก่อสร้างเชื่อมโยงชายแดน ทั้งสองฝ่ายมุ่งหวังให้มีโครงการเชื่อมโยงตามแนวชายแดนเพื่อส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยว 1) ถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัมข 2) เร่งรัดการก่อสร้างสะพานสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส กับ รันเตาปันจัง แห่งที่ 2 รัฐกลันตัน

ดันเป้าค้าร่วมกัน2ประเทศ
หลังหารือ ทั้งสองเดินทางไปสำรวจจุดเชื่อมถนนเพื่อเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัมของมาเลเซีย จากนั้น นายกฯ เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันแก่นายกฯ มาเลเซีย ที่โรงแรม Vista ก่อนที่สองฝ่ายจะไปสำรวจด่านบูกิตกายูฮิตัมในฝั่งของมาเลเซียช่วงบ่าย

ด้านนายเศรษฐาทวีตข้อความการพบกับนายอันวาร์ อิบราฮิม ว่า “การเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการครั้งที่ผ่านมา ผมและท่านนายกฯ อันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซียเห็นตรงกันว่าทั้ง 2 ประเทศมีศักยภาพในการค้าขายระหว่างกันมากกว่าที่เป็นอยู่ ดังนั้น การพบกันที่สงขลารอบนี้ ผมจึงตั้งใจผลักดันให้ตัวเลขการค้าระหว่างกันสูงขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มูลค่าการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยรัฐบาลได้ Launch โครงการ One Stop Service CIQ ที่ด่านสะเดา จ.สงขลา เป็นจุดแรก พร้อมขอให้ฝ่ายมาเลเซียเร่งรัดโครงการความเชื่อมโยงบริเวณชายแดนให้เสร็จโดยเร็ว

‘โรม’สวนเดือดอนุสรณ์พท.
ที่ จ.สุโขทัย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินสายขอเสียงสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า เรื่องร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นเรื่องของสส.ในสภา เขาไม่ได้ไปขอการสนับสนุน เพียงแต่ตีฆ้องร้องป่าวว่ากระทำสิ่งโน้นสิ่งนี้ แต่ทุกพรรคก็ทำเหมือนกัน เพราะทำอะไรก็ต้องบอกประชาชน แต่เรื่องของพ.ร.บ. และเรื่อง พ.ร.ก.ต้องเกี่ยวกับสภาเท่านั้นแต่ส่วนอื่นๆ ที่ไปประกาศก็เป็นเรื่องของการเมือง

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวกรณีนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีชัยธวัชเดินสายพูดคุยเรื่องแนวทางนิรโทษกรรมกับพุทธะอิสระ ในทำนองการนิรโทษกรรมควรเป็นการดำเนินการเพื่อทุกคนทุกฝ่าย ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง หรือทำเพื่อพวกพ้องของตัวเอง ว่าการที่พรรคก้าวไกลเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมเนื่องจากปัญหาทางการเมืองในช่วงเวลาที่ผ่านมา รวมถึงการใช้นิติสงครามในกฎหมายหลายฉบับเพื่อจำกัดการแสดงออกของประชาชน กลายเป็นปัญหารากฐานสำคัญที่ทำให้การเมืองของประเทศไม่สามารถเดินต่อได้ การนิรโทษกรรมโดยมีการหารือร่วมกับตัวแทนจากฝ่ายต่างๆ ทั้งฝั่งการเมือง ฝั่งราชการ คือกระบวนการที่จะนำไปสู่การสร้างความยุติธรรมให้ประชาชนทั้งที่กำลังถูกดำเนินคดี ถูกดำเนินคดีไปแล้ว และ ยังไม่ถูกดำเนินคดีแต่มีแนวโน้มจะถูกดำเนินคดี

ซัดเพื่อไทยไม่เคยเคลื่อนไหว
นายรังสิมันต์กล่าวว่า ถ้าดูเนื้อหาสาระทั้งหมดของร่าง จะเห็นได้ว่าไม่มีการเลือกปฏิบัติกับใครทั้งนั้น แต่ต้องการทำให้กฎหมายธำรงความยุติธรรมให้ทุกคน คนที่จะได้รับประโยชน์ไม่จำกัดอยู่แค่คนใดคนหนึ่ง แต่ทุกคนที่เข้าเงื่อนไขล้วนมีสิทธิได้รับการนิรโทษกรรม แม้แต่คนของพรรคเพื่อไทยเอง น่าเสียดายที่เรายังไม่เคยเห็นพรรคเพื่อไทยออกมาเคลื่อนไหวปกป้องหรือเรียกร้องความเป็นธรรมให้คนเหล่านี้

“การนิรโทษกรรมของพรรคก้าวไกลเป็นการเลือกปฏิบัติตรงไหน ผลของกฎหมายนี้ถ้าผลักดันสำเร็จคือการคืนความเป็นธรรมให้คนรุ่นใหม่ คนเสื้อแดง ผู้ที่เรียกร้องประชาธิปไตยทั้งหมด ไม่เหมือนการเลือกปฏิบัติให้อดีตนายกฯ หรือการเป็นเครื่องต่อรองทางการเมืองเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง” นายรังสิมันต์กล่าว

นายรังสิมันต์ยังกล่าวว่า การกล่าวหาว่าพรรคก้าวไกลสร้างการเลือกปฏิบัติไม่เป็นความจริง และเป็นการใส่ร้ายทางการเมือง ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง นายอนุสรณ์เป็นถึง สส. สิ่งที่ควรทำก่อนพูดออกสื่อคือไปดูเนื้อหาสาระของร่างกฎหมาย ถ้าไม่รู้ก็ไม่ควรพูด ถ้าจะพูดก็ควรไปดูร่างและถ้าได้ไปดูมาแล้วก็จะเห็นได้ว่าสิ่งที่พูดออกมาไม่เป็นความจริง ทั้งสิ้น

วันชัยชี้ไม่ต้องยื่นถามศาลรธน.
ที่รัฐสภา นายวันชัย สอนศิริ สว. ในฐานะรองประธานกมธ.การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นต่างเรื่องรัฐธรรมนูญ 2560 เตรียมเสนอให้สภาส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 กรณีให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ทำหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะทำเรื่องเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความประเด็นดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมา มีประเด็นที่เคยส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ โดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และ นายสมชาย แสวงการ สว. พร้อมคณะทำเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความมาแล้วและคำวินิจฉัยของศาลตีความว่า หากจะแก้รัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดย ส.ส.ร. หรือให้ ส.ส.ร.ทำหน้าที่รื้อรัฐธรรมนูญฉบับเดิมซึ่งมาจากอำนาจของประชาชน ต้องถามประชาชนก่อนว่าเห็นด้วยหรือไม่

นายวันชัยกล่าวว่า ส่วนกรณีรัฐบาลต้องการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ หรือยกเว้นหมวด 1 หมวด 2 ไม่จำเป็นต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความอีกเพราะเคยเกิดขึ้นแล้ว หรือหากรัฐบาลไม่ต้องการทำประชามติสามารถแก้รัฐธรรมนูญได้ เป็นรายมาตรา หรือตามเงื่อนไขของมาตรา 256 ในรัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดไว้

ส่วนกรณีรัฐบาลมีความเห็นว่าจะสอบถาม กกต.ควรทำประชามติกี่ครั้ง นายวันชัยกล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าอย่างน้อย 2 ครั้ง แต่ไม่ควรเกิน 3 ครั้ง คือ ครั้งแรก ก่อนแก้รัฐธรรมนูญ ครั้งสองเมื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่กระทบต่อเงื่อนไขมาตรา 256 ซึ่งจะเป็นก่อนการลงมติว่าจะเห็นชอบหรือไม่ในวาระสาม และครั้งสาม หลัง จากที่ได้รับความเห็นชอบทั้งฉบับโดยรัฐสภาแล้ว

เศรษฐาทวีตขอบคุณอันวาร์
เมื่อเวลา 16.45 น. นายเศรษฐาทวีตข้อความว่า หลังเสร็จภารกิจที่ด่านสะเดา มีเวลาระหว่างรอขึ้นเครื่องไปจังหวัดสุโขทัย เลขาธิการครม. นำวาระการประชุมที่จะเข้า ครม. วันที่ 28 พ.ย.มาให้พิจารณา มีหลายเรื่องที่เป็นเรื่องเร่งด่วนและต้องรีบแก้ปัญหาเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพี่น้องประชาชน

ต่อมาเมื่อเวลา 17.39 น. นายเศรษฐาทวีตข้อความขอบคุณนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นายอันวาร์ อิบราฮิม ที่สละเวลาเดินทางเยือนชายแดน การประชุมที่มีประสิทธิผลมาก และรอคอยที่จะพบอีกครั้งในเร็วๆ นี้

“Thank you PM Anwar Ibrahim for making time for border visit. Very productive meeting. Looking forward to seeing you again soon.”

อนุสรณ์ซัดกลับโรม-สวนทาง
วันเดียวกัน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุว่าตนกล่าวหาพรรคก.ก.เลือกปฏิบัติ เอื้อพวกพ้องจากกรณีขอเสียงสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า นายรังสิมันต์ อาจไม่ได้อ่านประเด็นที่ตนให้สัมภาษณ์ครบ เพราะถ้าอ่านครบถ้วนจะรู้ได้เลยทันทีว่าไม่มีเนื้อหาใด ตอนใดที่ตนไปกล่าวหาพรรคก.ก.ในประเด็นนี้ ตนเพียงแต่กล่าวว่ามีประชาชน สื่อมวลชนตั้งคำถาม พร้อมแนะนำว่าการคืนความยุติธรรมต้องทำอย่างเสมอภาค เท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ และต้องไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งรอบใหม่ หรือทำตัวเป็นคู่ขัดแย้งเสียเอง ซึ่งถ้าทำได้ก็เป็นสิ่งที่ดีมิใช่หรือ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคไปนั่งฟังพุทธะอิสระได้ตั้งนานสองนาน ไม่เกิดปัญหาอะไร แต่นายรังสิมันต์กลับปฏิบัติสวนทางกับหัวหน้าพรรค

นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า ตอนออกเดินสายขอเสียงสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม บอกว่าพร้อมรับฟังทุกฝ่าย แต่พอมีข้อเสนอแนะบางประเด็นที่ไม่ถูกใจ กลับเปิดใจรับฟังไม่ได้ แบบนี้มันย้อนแย้งสวนทางหรือไม่ เหมือนกับกรณีการโหวตนายกฯ ที่นักวิชาการตั้งข้อสังเกตว่าพรรคก.ก.จะไปขอเสียงสนับสนุนจาก สว.ได้อย่างไร ก็ในเมื่อมีทัศนคติในทางลบต่อสว.เช่นนั้นมาตั้งแต่ต้น การทำงานการเมืองบางครั้งต้องแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง ไม่มองคนคิดไม่เหมือนตัวเองว่าเป็นศัตรูไปเสียหมด

“เรื่องบางเรื่องอาจจะสะใจที่ได้เหน็บแนม ประชดประชัน แต่ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร ไหนบอกว่าจะมาแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ทำไมไม่ไปแก้ ถ้าทำได้แค่นี้ การกระทำสวนทางกับคำพูดหรือไม่ ตกลงจะมาขอเสียงสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หรือจะมาแสวงหาความขัดแย้งรอบใหม่เอาให้ชัด อันนี้ถาม ไม่ได้กล่าวหา” นายอนุสรณ์กล่าว

เดียร์ไหว้พระก่อนชิงหน.ปชป.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีกระแสข่าว น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. พรรคประชาธิปัตย์ สนใจลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่นั้น ล่าสุด น.ส.วทันยา ไปกราบขอพรหลวงพ่อนาค วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ที่ก่อตั้งโดยต้นตระกูลบุนนาค เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย ซึ่งคาดว่ามาขอพรทิศทางการเมือง ที่จะลงชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมลอยกระทงที่ทำจากกะลา เนื่องในวันลอยกระทง บริเวณสระน้ำของวัดด้วยโดยมีประชาชนเข้ามาขอถ่ายรูป และเข้ามาให้กำลังใจ พร้อมฝากความหวังให้นำพาพรรคประชาธิปัตย์กลับมาเป็นที่นิยม อีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคาดว่าหลังจากนี้น.ส.วทันยา จะเปิดตัวลงสมัครหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ภายในสัปดาห์นี้ก่อนที่จะมีการประชุมวิสามัญประจำปี เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ และหากน.ส.วทันยาได้รับเลือกก็จะถือว่าเป็นหัวหน้าพรรคผู้หญิง คนแรกในประวัติศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์

มท.1ห่วงสถานการณ์น้ำท่วมใต้
เมื่อวันที่ 27 พ.ย. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้ได้เข้าสู่ฤดูฝนในภาคใต้ของไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิดทุกวัน กำชับให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระจายกำลังคนเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง เตรียมความพร้อมของอุปกรณ์เครื่องมือที่จะเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงทีเมื่อมีความจำเป็น และความพร้อมนี้ต้องมีอยู่ตลอดฤดูฝนที่คาดว่าจะต่อเนื่องไปจนถึงช่วงต้นปีหน้า

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้วางแผนรับมือฤดูฝนในภาคใต้ตั้งแต่ต้นฤดูกาล โดย รมว.มหาดไทยได้สั่งการในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติถึงผู้ว่าฯ 14 จังหวัดภาคใต้ในช่วงต้นเดือน ต.ค. ให้ทุกจังหวัดเตรียมกลไกความช่วยเหลือให้พร้อม และเมื่อต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมานายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย ได้ลงพื้นที่ภาคใต้เพื่อติดตามความพร้อมในแต่ละกลุ่มจังหวัด ทำให้เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนสามารถทำงานได้อย่างเป็นระบบ ทั้งการแจ้งเตือนประชาชน การมีแผนเผชิญเหตุ การติดตั้งเครื่องจักรกลสาธารณภัยในพื้นที่เสี่ยง ไปจนถึงการเร่งรัดสำรวจความเสียหายเพื่อให้ประชาชนได้รับการเยียวยาเร็วที่สุดตามนโยบายของนายอนุทิน

น.ส.ไตรศุลีกล่าวอีกว่า ตามรายงานล่าสุดของ ปภ. พบว่าขณะนี้มีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ ชุมพรและปัตตานี รวม 5 อำเภอ 12 ตำบล บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 450 ครัวเรือน ซึ่งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ดำเนินการเร่งระบายน้ำ เพื่อและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน พร้อมกับจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามกฎหมาย และยังคงมีการเฝ้าระวังพื้นที่อื่นๆ อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ หากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอพพลิเคชั่น “THAI DISASTER ALERT”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน