รถยนต์-น้ำมันดันเก็บภาษี5.2แสนล. – สรรพสามิตใจชื้นปี 63 เก็บภาษีน้ำมันพุ่งแตะ 5.2 แสนล้านบาท หลังยอดใช้รถยนต์ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 มากขึ้น ขณะที่รถยนต์แข่งกันออกโฉมใหม่ โดยเฉพาะรถครอบครัวและรถขนาดเล็กออก ส่วนปี 64 คาดว่าทำได้ตามเป้าหมาย 5.34 แสนล้าน มาตรการเว้นภาษีน้ำมันเครื่องบินจะสิ้นสุดสิ้นก.ย.นี้ ต้องรอฝ่ายนโยบายเคาะ และภาษีความเค็มชะลอไปก่อนยังไม่เหมาะ
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า รายได้จากการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในปีงบประมาณ 2563 (ต.ค.2562-ก.ย.2563) คาดว่าจะทำได้ไม่ต่ำกว่า 5.2 แสนล้านบาทจากผลการจัดเก็บภาษีรถยนต์และภาษีน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงกว่าคาด เนื่องจากยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปีงบประมาณ 2563 จากเดิมคาดว่าปัญหาโควิด อาจทำให้ปีนี้เก็บภาษีไม่ถึง 4.8 แสนล้านบาท จากเป้าหมาย 5.85 แสนล้านบาท แต่มีการเก็บภาษีรถยนต์ได้เพิ่ม เพราะรถยนต์ขนาดเล็กหรือรถครอบครัว มีการปรับโฉมหลายรุ่นหลายยี่ห้อ
ปีงบประมาณ 2564 มั่นใจว่าถ้าไม่มีสถานการณ์รุนแรงจนส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ก็เชื่อว่าการจัดเก็บรายได้จากภาษีสรรพสามิตจะสามารถทำได้ 5.34 แสนล้านบาทตามเป้าหมายที่รัฐบาลได้วางไว้ ์หากไม่มีสถานการณ์เหมือนกับโควิดที่ทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงักอย่างปี 2563
สำหรับการจัดเก็บภาษีความเค็ม ก่อนหน้านี้กระทรวงสาธารณสุข และกรมสรรพสามิตได้ร่วมกันหารือถึงเพดานการบริโภคโซเดียมในปริมาณต่อวันที่จะไม่ส่งผล กระทบต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งผู้ประกอบการรายใหญ่ต่างแสดงความพร้อมที่จะปรับสูตรการผลิตให้สอดคล้องกับแนวทางการจัดเก็บภาษีความเค็มแล้วเป็นแนวคิดมาจากนโยบายการขยายฐานภาษี แต่จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด ทำให้ผู้ประกอบการต่างๆ รวมทั้งประชาชนได้รับผลกระทบ ดังนั้นจึงมองว่าในช่วงเวลานี้จึงยังไม่เหมาะสม
นายพชร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้กรณีการพิจารณาขยายเวลายกเว้นการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินในประเทศให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจสาย การบินโลว์คอสต์ว่า ล่าสุดทราบว่าผู้บริหารสายการบิน โลว์คอสต์ได้เดินทางเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้พิจารณาข้อเสนอของผู้ประกอบการในการขยายเวลา การยกเว้นภาษีดังกล่าวออกไป จากที่จะครบกำหนดใน สิ้นเดือนก.ย.2563 นั้น กรมสรรพสามิตในฐานะหน่วยงานปฏิบัติ คงต้องรอว่าระดับนโยบายจะมีความเห็นอย่างไร ต้องมาประเมินชั่งน้ำหนักกันถ้าจะต่อให้ก็คงให้คราวละ 6 เดือน
