จี้รัฐบาลควักเงินกู้เยียวยาผู้เลี้ยง‘โคนม’ – วันที่ 14 ต.ค. ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ประชาธิปัตย์ โฆษกกมธ.วิสามัญพิจารณาติดตามตรวจสอบการใช้เงินตามพ.ร.ก.เงินกู้ 3 ฉบับ เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 แถลงว่า ที่ประชุมพิจารณากรณีข้อร้องเรียนของกลุ่มเกษตรกรโคนมที่เดือดร้อนจากโครงการนมโรงเรียนที่กำลังจะหมดอายุลง กมธ.เสนอเรื่องให้อนุกมธ.พิจารณาฟื้นฟูเศรษฐกิจฯดูแล จากการประชุมมีมติว่าความเดือดร้อนของผู้เลี้ยงโคนมควรต้องใช้งบประมาณจากพ.ร.ก.เงินกู้ เพราะเข้าหลักเกณฑ์ เนื่องจากช่วงโควิดมีน้ำนมล้นตลาดเพราะช่องทางพาณิชย์ได้รับผลกระทบ ทำให้ชุมนุมสหกรณ์ทั่วประเทศ 220 กว่าศูนย์ เกษตรกรได้รับผลกระทบ 2 หมื่นกว่าครัวเรือน มีการแก้ปัญหาโดยแปรรูปน้ำนมส่วนเกินเป็นนมกล่องยูเอชที และเสนอให้เป็นโครงการนมโรงเรียน ทางสหกรณ์จึงขอให้รัฐบาลใช้งบจากพ.ร.ก.ซื้อน้ำนมมอบให้นักเรียน เพื่อระบายนมโรงเรียนที่ค้างสต๊อก 2,421 ล้านบาท แต่คณะกรรมการกลั่นกรองในส่วนสำนักงบประมาณบอกว่า ไม่เข้าหลักเกณฑ์ เพราะรัฐบาลต้องการให้เงินเยียวยากับผู้ได้รับความเดือดร้อนโดยตรง
กมธ.จึงไม่สบายใจเพราะไม่อยากเห็นภาพที่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมออกมาชุมนุมบนถนน จึงขอให้กลุ่มเกษตรกรยื่นเรื่องไปที่กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรฯ กมธ.อยากให้สำนักงบฯทบทวนอีกครั้ง โดยใช้เงินจากพ.ร.ก.เยียวยาที่ยังเหลือเงินอีก 3 หมื่นล้านบาท จึงควรนำเงินที่เหลือมาช่วยเหลือเกษตรกรที่ต้องการแค่ 2 พันกว่าล้านบาท อีกทั้งยังมอบหมายให้ตัวแทนสำนักงบฯ ไปพิจารณาใช้งบกลาง เนื่องจากมีหนังสือจากสภาพัฒน์ เคยเสนอโครงการไปยังครม.สัปดาห์ที่แล้ว และครม.มีมติให้ใช้งบกลางหรืองบอื่นๆโดยให้กรมปศุสัตว์เป็นผู้ประสานต่อ ถือเป็นการช่วยเหลือได้อีกทางหนึ่ง อยากให้เร่งช่วยเหลือเพราะไม่อยากเห็นภาพพี่น้องเกษตรกรออกมาเทนมทิ้ง หรือปิดถนน เนื่องจากได้รับความเดือดร้อน เพราะพวกเขาได้ยื่นร้องเรียนตามกระบวนการแล้ว ทั้งกรมปศุสัตว์ และกมธ.วิสามัญฯ เพื่อให้ช่วยเหลือ จึงขอส่งเสียงไปถึงรัฐบาลลงมาดูแลด้วย
