เครือข่าย โจผี สุมาอี้ ครอบคลุม(27) – อาจเพราะกาเอ๊กเพิ่งผ่านสถานการณ์อันดุเดือดและเข้มข้นมาสดๆ ร้อนๆ จึงเอ่ยถามขึ้นว่า “เอียวสิ้วถูกจับ โจสิดถูกลอบทำร้าย 2 เรื่องนี้ประจวบเหมาะเกินไปไหม คงมิใช่รัชทายาทเปิดฉากลงมือนะขอรับ”
ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเจียวเจ้จึงส่ายศีรษะ
“ไม่ดอก” เท่ากับเป็นการยืนยันความมั่นใจ “วุยอ๋องยังอยู่ทั้งคน ขณะนี้มิใช่จังหวะที่ดีที่สุดสำหรับรัชทายาทในการลงมือ”
1 เกิดขึ้นในฮูโต๋ 1 เกิดขึ้นในฮันต๋ง
แม้ว่ารายงานลับจากเทียหยกจะส่งตรงไปยังเจียวเจ้ กระนั้น ก็มิได้หมายความว่าความลับนี้สุมาอี้จะมิได้รับทราบ ทั้งยังเป็นเรื่องนี้ที่ดำเนินไปตามความเป็นจริง
“เจียวเจ้ได้รับข่าวจากเทียหยก ทางฮันต๋งจับกุมเอียวสิ้วไว้”
นั่นย่อมเป็นรายงานที่สุมาอี้นำขึ้นกราบทูลต่อโจผี ผู้บังคับบัญชาโดยตรง ของสำนักข่าวกรองจิ้นโจ้วเฉาพร้อมกับข้อเท็จจริงที่ว่า “ทางจกก๊กมีนายกอคนหนึ่งหนีมา
ระบุว่าเอียวสิ้วคือหานฉาน เทียหยกจับตัวเอียวสิ้วคุมขังไว้แล้ว”
ไม่ว่าจะเป็นรายงานลับจากเทียหยก ไม่ว่าจะเป็นสารจากเจียวเจ้ที่รู้ไปถึงหูของสุมาอี้ ไม่ว่าจะเป็นรายงานอันสุมาอี้นำเสนอต่อโจผี คำถามของโจผีต่อสุมาอี้ก็คือ “เป็นไปได้อย่างไร จ้อต๋า เจ้าว่าไง”
“เขามิใช่หานฉาน” เป็นการยืนยันจากสุมาอี้
“ไม่ว่าเอียวสิ้วจะเป็นหานฉานหรือไม่ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนโปรดที่ยโสโอหังของน้องชายข้า ครานี้ท่านพ่อถึงกับไม่เห็นแก่หน้า
คงเพราะไม่ฝากความหวังใดๆ ไว้กับโจสิดแล้ว ใช่หรือไม่”
คำตอบอันเฉียบขาดอย่างยิ่งจากสุมาอี้ คือ “ฝ่าบาท ข้ารู้สึกว่าการจับตัวเอียวสิ้วมิได้หมายถึงความคิดของวุยอ๋องที่มีต่อโจสิดแต่อย่างใด”
นั่นสะท้อนให้เห็นถึงการจำแนกแยกแยะอย่างละเอียดของสุมาอี้
1 เป็นการแยกระหว่างการปฏิบัติของเทียหยกจากวุยอ๋อง ขณะเดียวกัน 1 เป็นการแยกระหว่างเจตจำนงของวุยอ๋อง กับการโยงสายยาวไปยังโจสิด
อาจเป็นเพราะกรณีของหานฉานเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่ากรณีของเอียวสิ้ว
ท่วงทำนองการวิเคราะห์ของสุมาอี้อันมากด้วยรายละเอียดเช่นนี้เองทำให้โจผีต้องมากด้วยความละเอียดอ่อนในการพิจารณาปัญหาตามไปด้วย
“งั้น เราต้องทำอะไรไหม ตั้งข้อหาเอียวสิ้วเลยหรือ”
“ไม่ได้เด็ดขาด” สุมาอี้ปฏิเสธฉับพลัน “ฝ่าบาทยามนี้กำลังมีเรื่องมากมาย ฮูโต๋ ก็เป็นที่ล่อแหลม ฝ่าบาทควรระมัดระวังให้จงหนัก เหมือนเดินบนน้ำแข็งเปราะบาง การแก่งแย่งเป็นรัชทายาทมิใช่วันสองวัน
จะวู่วามมิได้ วุยอ๋องละเอียดรอบคอบ หากบุ่มบ่ามกลับจะเหมือนถักดักแด้มัด ตัวเอง
ฮันต๋งอยู่ห่างจากเรามากเกินไป ที่ฝ่าบาทต้องทำขณะนี้คือเฝ้าดูโจสิดให้ดี” เท่ากับเป็นการเตือนโดยอ้อมๆ ว่า เรื่องสำคัญยังอยู่ในฮูโต๋ มิใช่ฮันต๋ง
โจผีถอนใจ หันไปดูโบตั๋นสะพรั่งเต็มสวน
“ท่านพ่อมักบอกว่าโบตั๋นเป็นราชันแห่งบุปผา สง่า หรูหรา ข้าดูแล้วออกจะธรรมดาเกินไป” เอ่ยถึงโบตั๋นแต่เด่นชัดอย่างยิ่งว่าเป้าหมายมิได้อยู่ที่โบตั๋น
“ฝ่าบาท วาจาเช่นนี้กล่าวมิได้”
หากมองจากมุมของ “เหอมู่” ผ่าน “จารชนสามก๊ก” เด่นชัดอย่างยิ่งว่า ต้องการสะท้อนบทบาทและความหมายของโจผีออกมาเป็น 2 แนวทาง
1 แนวทางสุมาอี้ 1 แนวทางเจียวเจ้
แนวทางเจียวเจ้ซึ่งมีกาเอ๊กเป็นคู่คิดคนสำคัญ บ่งสะท้อนความต้องการที่จะหน้าลุยเข้าจัดการกับปัญหาอย่างดุเดือดและเข้มข้น
ตรงกันข้ามกับแนวทางสุมาอี้ที่สุขุม
แม้จะรู้อยู่เป็นอย่างดีว่าเบื้องหลังอุปมาว่า “โบตั๋นเป็นราชันแห่งบุปผา”ฉายชี้ให้เห็นความต้องการลึกว่าโจผีปรารถนาอะไรอันมากกว่าการเป็นรัชทายาท กระนั้น สุมาอี้ก็ยังยืนยันว่าวาจาเช่นนี้กล่าวมิได้
“หลังวุยอ๋องขึ้นสวรรค์และฝ่าบาทขึ้นครองตำแหน่ง” จึงเหมาะสมที่จะกล่าว
