พระราชธรรมมุนี วัดจักรวรรดิราชาวาส – วันเสาร์ที่ 18 ก.ย.2564 น้อมรำลึกครบรอบ 90 ปี ชาตกาล “พระราชธรรมมุนี” (เกียรติ สุกิตติ) อดีตผู้ช่วย เจ้าอาวาสวัดจักรวรรดิราชาวาส เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ เป็นพระนักปราชญ์ ผู้รอบรู้ในด้านพุทธศาสตร์ ภาษาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และวรรณคดี

มีนามเดิมว่า เกียรติ อุตสาหกุล เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 18 ก.ย. 2474 ปีมะแม ที่บ้านท่าลาดขาว หมู่ที่ 1 ต.ท่าลาดขาว อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา บิดา-มารดาชื่อ สิบตรีเปล่ง และนางฉาก อุตสาหกุล

วัยเยาว์เข้าเรียนที่โรงเรียนประชาบาล ท่าลาดขาว จนสำเร็จประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนลาออกมาช่วยบิดา-มารดา หลังจากนั้นเข้าพิธีบรรพชาที่วัดพลับพลา ต.พลับพลา อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 2 ส.ค.2487 มีพระครูพรหมพงศ์พิสุทธิ์ (ภู่ พรหมสโร) วัดพลับพลา เป็นพระอุปัชฌาย์

ในระหว่างเป็นสามเณรได้ศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2489 สอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ จากนั้นย้ายมาเรียนในกรุงเทพฯ โดยไปอยู่จำพรรษาที่วัดจักรวรรดิฯ

เข้าพิธีอุปสมบทที่พัทธสีมาวัดจักรวรรดิราชาวาส กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 6 พ.ค.2495 โดยมีพระคุณาจารวัตร(ไช้ สุวัณโณ) เจ้าอาวาส เป็นพระอุปัชฌาย์, สมเด็จพระธีรญาณมุนี (ธีร์ ปุณณกมหาเถร) เมื่อดำรงสมณศักดิ์ที่ พระเทพเมธี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระวรญาณมุนี(เสถียร ธัมมสาโร) เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ได้รับนามฉายาว่า สุกิตติ มีความหมายว่า ชื่อเสียงดี

ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม พ.ศ.2496 สอบได้เปรียญธรรม 7 ประโยค สำนักเรียนวัดจักรวรรดิราชาวาส

ไปศึกษาต่อประเทศอินเดีย และสอบได้ปริญญาปฏิอาจาริยะคือ ปริญญาโท ฝ่ายภาษาและวรรณคดีบาลี ตามหลักสูตรการศึกษาอย่างเก่าของอินเดีย รัฐบาลเทียบฐานะเท่าปริญญาตรี เกียรตินิยมของหลักสูตรระบบใหม่ โดยศึกษารวม 9 หมวดวิชา ตอบด้วยภาษาบาลีทั้งสิ้น ควบคู่กับภาษาอังกฤษ แต่ในการถามตอบด้วยภาษาบาลีทั้งสิ้น ดำเนินการสอบโดยมหาวิทยาลัยสันสกฤตแห่งรัฐพิหาร ประเทศอินเดีย

พ.ศ.2507 สอบได้ประกาศนียบัตรชั้นสูงภาษาฮินดี จากสถาบันการศึกษาพระพุทธศาสนานาลันทา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย

พ.ศ.2508 สอบได้ปริญญาโท (M.A.) ทางพระพุทธศาสนาฝ่ายบาลี จากมหาวิทยาลัยมคธ รัฐพิหารประเทศอินเดีย (ได้คะแนนเป็นที่ 2)

พ.ศ.2509 ผลจากการเรียนดี สถาบันการศึกษาพุทธศาสนานาลันทาเสนอชื่อให้ได้รับทุนทำปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยพาราณสี ค้นคว้าเรียบเรียงวิทยานิพนธ์ด้านภูมิประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา แต่ด้วยสุขภาพไม่อำนวยจึงต้องงดการศึกษา และกลับประเทศไทยใน พ.ศ.2518

ประสบการณ์ชีวิตที่โดดเด่นคือ เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมสำนักเรียนวัดจักรวรรดิราชาวาส โดยสอนชั้นบาลีไวยากรณ์, ประโยค ป.ธ.3 และ ป.ธ.5 และเป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมและบาลีสนามหลวง

พ.ศ.2502 ได้รับคัดเลือกจากทางการคณะสงฆ์และรัฐบาล ให้เป็นรูปหนึ่งในคณะพระสงฆ์ไทยชุดแรก จำนวน 5 รูป มีสมเด็จพระธีรญาณมุนี (ธีร์) ครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระธรรมธีรราชมหามุนี ไปปฏิบัติศาสนกิจประจำอยู่เป็นเวลา 3 ปี ในฐานะเลขานุการ วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย พ.ศ.2549 ได้รับการแต่งตั้งเป็นรักษาการเจ้าอาวาส วัดจักรวรรดิราชาวาส พระอารามหลวง

วันที่ 26 ส.ค.2552 พระราชธรรมมุนี (เกียรติ สุกิตติ) มรณภาพที่โรงพยาบาลกลาง สิริอายุ 78 ปี พรรษา 57

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน