กองโจร ที่ปฏิวัติ เขาจิ่งกังซาน(40) – จากมุมมองของ บุญศักดิ์ แสงระวี ใน “จากท้องนาเสาซาน สู่เมืองกรุงปักกิ่ง” เหมาได้แก้ปัญหาการดำรงอยู่และการพัฒนาของกองทัพแดงและอำนาจรัฐแดงจากการปฏิบัติและจากทฤษฎี

มีบทบาทอันเป็นปมเงื่อนที่สุดแก่การพัฒนาของการปฏิวัติจีน

ธงแดงบนเขาจิ่งกังซานไม่ล้ม เป็นตัวแทนแห่งทิศทางและความหวังของการปฏิวัติจีน ชาวพรรคคอมมิวนิสต์หลังจากประสบความพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า

มองเห็นกองกำลังติดอาวุธกองหนึ่งสามารถยืนอยู่ได้อย่างองอาจในที่สุด

ก็ได้รับกำลังใจจากนี้อย่างใหญ่หลวง เสริมความเชื่อมั่นให้แน่วแน่ขึ้น ใน ท้องถิ่นที่นำเอาอาวุธไปฝังก็กลับไปขุดออกมาต่อสู้ต่อไป

ในชั่วขณะนั้น กองทัพแดงในเขตแดนต่อแดน

หูเป่ย-เหอหนาน-อันฮุย เขตแดนต่อแดนตะวันตกของหูหนาน-หูเป่ย ล้วนแล้วแต่ถือเอาเขาจิ่งกังซานเป็นแบบอย่างต้องพัฒนาตนเองให้เติบโตขึ้นอย่างคึกคัก

นี่ย่อมเป็น “คุณูปการ” เฉพาะหน้าต่อ “การปฏิวัติ”

นี่ย่อมสวนทางกับ จุง ชาง จอน ฮัลลิเดย์ ที่แม้จะยอมรับว่า อาณาจักรโจรแห่งนี้ใช้เป็นฐานที่มั่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะมีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์

ภูเขาที่แม้จะมีความสูงเพียงแค่ 995 เมตร แต่ก็สูงชัน

และหน้าผาที่รายล้อมอยู่ก็เป็นเครื่องอำนวยความปลอดภัยได้ดีเยี่ยม บริเวณนั้นเป็นป่าหนาทึบด้วยต้นสนและต้นไผ่ที่มีหมอกปกคลุมชั่วนาตาปี

นอกจากนั้นยังมีฝูงลิง หมูป่าและงูพิษทุกชนิดอาศัยอยู่เต็มไปหมด

มันจึงเป็นพื้นที่ที่ง่ายต่อการป้องกันและหลบหนีได้สะดวกในภาวะคับขัน เนื่องจากมีช่องทางลับที่สามารถออกไปได้ถึง 2 มณฑล มันคือหนทางดินโคลนที่แฝงอยู่ใต้แปลงพืชผักยากที่คนแปลกถิ่นจะสังเกตเห็น

สำหรับพวกนอกกฎหมายจัดว่ามันเป็นแดนสวรรค์ที่ปลอดภัยดีทีเดียว

เหมากับกองกำลังของเขายังชีพด้วยการออกปล้นสะดมแขวงใกล้เคียง และห่างไกลไปถึงพื้นที่รอบนอกในบางครั้ง การจู่โจมเข้าปล้นสะดมนี้มีชื่อเรียกอย่างเลิดลอยว่า

“ต๋า ถู่-เหา” ซึ่งมีความหมายตรงตัวว่า “ขยี้ทรราชเจ้าของที่ดิน”

แต่ความจริงพวกเขาทำไม่เลือกหน้า นับว่าเป็นการปล้นตามแบบฉบับโจร โดยแท้ เหมาบอกกองกำลังของเขาว่า “หากประชาชนไม่เข้าใจว่า ทรราชเจ้าของที่ดิน” หมายถึงอะไร

ให้พวกเอ็งไปบอกว่า หมายถึงคนมีเงินหรือ “คนรวย”

คำว่า “คนรวย” เป็นคำที่กว้างมาก และอาจจะหมายถึงครอบครัวที่มีน้ำมันพืชมากกว่า 20 ลิตร หรือมีแม่ไก่สัก 2-3 ตัวก็เป็นได้

และคำว่า “ขยี้” ก็มีความหมายครอบคลุมการกระทำอันหลากหลาย

ตั้งแต่การปล้นธรรมดาๆ และจับตัวไปเรียกค่าไถ่ไปจนถึงการฆ่าให้ตาย การปล้นสะดมพวกนี้ปรากฏเป็นข่าวพาดหัวบนหน้าหนังสือพิมพ์บ่อยครั้ง

และเป็นเครื่องส่งเสริมให้เหมาเป็นที่รู้จักมากขึ้น

ตอนนี้เองที่เขามีชื่อเสียงลือกระฉ่อนในฐานะที่เห็น “หัวหน้าโจร” คนสำคัญ แต่การกระทำเยี่ยงโจรของเหมาทำให้เขาไม่ได้รับการสนับสนุนจากชาวบ้านมากนัก

นี่ย่อมต่างไปจากมุมมองและบทสรุปของ ทวีป วรดิลก

กําลังที่จิ่งกังซานนับวันแต่จะเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ ในเดือนธันวาคม 1927 เผิงเต๊อะไหว นายทหารที่เป็นกบฏต่อก๊กมินตั๋งโดยหันมาร่วมมือกับพรรคคอมมิวนิสต์

ก็ได้นำกำลังทหาร 1,000 คนมาสมทบ

เผิงก็เช่นกันได้รับคำสั่งให้จู่โจมยึดอำนาจในหูหนานและก็ประสบความพ่ายแพ้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 1928 จึงถอยมายังจิ่งกังซาน

กำลังของจิ่งกังซานนอกจากมีจูเต๋อ เฉินอี้แล้วจึงมีเผิงเต๊อะไหว

พัฒนาการของฐานที่มั่นปฏิวัติเขาจิ่งกังซานจึงเป็นพัฒนาการในท่ามกลางการต่อสู้ ทั้งต่อสู้กันเองภายในขบวนปฏิวัติที่มีความเห็นต่าง และต่อสู้กับการรุกเข้ามาเพื่อบดขยี้ของก๊กมินตั๋ง

การเติบใหญ่ของ “จิ่งกังซาน” จึงแตกต่างไปจาก “กองโจร” โดยทั่วไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน