ฐานที่มั่น และ ปฏิรูปที่ดิน(43) – ยิ่งอ่าน เชาวน์ พงษ์พิชิต ยิ่งมองเห็นภาพรวมมากยิ่งขึ้น เวลานี้กำลังพลของ กองทัพแดงเพิ่มขึ้นเป็น 4,000 คน ถึงปลายปี 1928 เพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัว
จนกระทั่งถึงฤดูหนาว ปี 1928 พรรคเรียกประชุมผู้แทนพรรคครั้งที่ 6 ที่มอสโกขบวนการโซเวียตของเหมาจึงเป็นที่ยอมรับของศูนย์กลางพรรค ถึงเวลานั้นการแตกแยกทางความเห็นระหว่างผู้นำศูนย์กลางพรรคกับผู้นำขบวนการโซเวียตเขตชนบทจึงแก้ตกไป
และฟื้นความเป็นเอกภาพของพรรคขึ้นมาได้อีกครั้งหนึ่ง
นับแต่ฤดูหนาว ค.ศ.1927 เป็นต้นไป กองทัพแดงได้สร้างฐานที่มั่นใหม่ๆ ขึ้นมาอีกหลายแห่ง เช่นฐานที่มั่นภาคใต้ของมณฑลเจียงซี-ภาคตะวันตกฮกเกี้ยนของกองทัพแดงที่ 5
มีเผิงเต้อไหวเป็นแม่ทัพ และมีเถิงไต้หย่วนเป็นผู้แทนพรรค
ฐานที่มั่นหูหนานและภาคตะวันตกของหูเป่ยของกองทัพปฏิวัติกรรมกรชาวนาที่ 4 มีเฮ่อหลงเป็นแม่ทัพ ฐานที่มั่นหงหูของกองทัพแดงที่ 6 มีซุนเต๋อซิงเป็นแม่ทัพ โจวยี่ฉวินเป็นกรรมการการเมือง
ต่อมากองทัพแดงที่ 4 รวมกับกองทัพแดงที่ 6 เป็นกลุ่มทัพแดงที่ 2
ฐานที่มั่นแดนต่อแดนหูเป่ย-เหอหนานและอันฮุย มีสวีเซี่ยงเฉียนเป็นประธานคณะกรรมการทหาร นอกนั้น ยังมีเขตอำเภอหนิงกั๋ง เหลียนฮัว หย่งซินและซุ่ยชวน ของกองทัพแดงที่ 6 ต่อมาเปลี่ยนเป็นกองทัพแดงที่ 3
มีหวงกงเล่เป็นแม่ทัพ หลิวซื่อฉีเป็นกรรมการการเมือง
ฐานที่มั่นหูหนาน-เจียงซี มีหวังโส่วเต้าเป็นเลขาธิการคณะกรรมการมณฑล มีหยวนเต๋อเซิงเป็นประธานรัฐบาลโซเวียตเฉพาะกาล
ต่อมา เติ้งเสี่ยวผิงนำการลุกขึ้นสู้ที่อำเภอไป๋เซ่อ ในเดือนธันวาคม 1929
ตั้งกองทัพแดงที่ 7 สถาปนารัฐบาลโซเวียตยิ่วเจียง นอกจากนั้น ที่เขตตงเจียงของกวางตุ้งและเขตหนานตงของมณฑลเจียงซู ภาคใต้ของมณฑลเจ๋อเจียง
ต่างก็ได้ตั้งเขตจรยุทธ์หรือเขตฐานที่มั่นขึ้นมา
กองทัพแดงในฐานที่มั่นเหล่านี้ต่างก็ได้ต้านการเข้าตีของข้าศึกหลายๆ ครั้ง และได้ก่อตั้งอำนาจรัฐปฏิวัติขึ้นมาแล้ว
เมื่อฐานที่มั่นก่อตั้งขึ้นมาการปฏิรูปที่ดินก็ติดตามมาด้วย
กล่าวไปแล้ว ฐานที่มั่นซึ่งมีการปฏิรูปที่ดินเป็นแห่งแรกคือ ฐานที่มั่นไห่เฟิงและลูเฟิงที่มีเผิงไพ่เป็นผู้นำ มีการริบที่ดินแบ่งปันให้ชาวนาเสร็จสิ้นตั้งแต่ปลายปี 1927
ส่วนฐานที่มั่นจิ่งกังซานอันมีเหมาเป็นผู้นำ
แบ่งปันที่ดินทั่วอำเภอหนิงกัง พื้นที่ส่วนใหญ่ของอำเพอหย่งซินและอำเภอเหลียนฮัวและพื้นที่ส่วนหนึ่งของอำเภอซุ่ยชวนกับอำเภอหลิงเสี้ยนในเดือนกรกฎาคม 1928
ต่อมาได้มีการประกาศใช้ “กฎหมายที่ดินจิ่งกังซาน”
อันถือได้ว่าเป็นกฎหมายที่ดินฉบับแรก เมื่อเดือนธันวาคม 1928 ภายหลังพรรคสร้างฐานที่มั่นในชนบทขึ้นมาแล้ว
ในการประชุมผู้แทนพรรคฮกเกี้ยนตะวันตก สมัยที่ 1 เมื่อเดือนกรกฎาคม 1929
ที่ประชุมมีมติให้ผ่าน “ญัตติเรื่องที่ดิน” มีข้อกำหนดใหม่อันเป็นรายละเอียดมาก ยิ่งขึ้น สะท้อนให้เห็นพัฒนาการเป็นลำดับของฐานที่มั่นปฏิวัติและการจัดระบบ
ตรงนี้เองที่นำไปสู่ความเห็น “ต่าง” กับ “ศูนย์กลางพรรค” ขึ้นมาอีก
เชาวน์ พงษ์พิชิต ได้ให้รายละเอียดและข้อกำหนดใหม่ของ “ญัตติเรื่องที่ดิน”ของที่ประชุมผู้แทนพรรคฮกเกี้ยนตะวันตก สมัยที่ 1 ซึ่งเหมามีบทบาทสำคัญ
โดยข้อ 1 ให้ริบที่ดินของเจ้าที่ดินทั้งหมด
โดยแยกปฏิบัติระหว่างเจ้าที่ดินใหญ่กับเจ้าที่ดินเล็ก พร้อมกับระบุว่า “ต้องแบ่งที่ดินให้ด้วยตามสมควร”แก่เจ้าที่ดินที่ยังอยู่ในหมู่บ้าน
แต่ไม่ถอยหลังเข้าคลอง เพื่อให้เป็นทางออกในการครองชีพ
ขณะเดียวกัน ข้อ 2 การริบที่ดินให้ริบเฉพาะส่วนเกินจากที่พวกนี้ใช้ทำมาหากินเลี้ยงชีพตัวเอง อย่าได้โจมตีพวกนี้จนเกินควร
ถามว่า “สากลคอมมิวนิสต์” และ “ศูนย์กลางพรรค” มีความเห็นอย่างไร