‘จุรินทร์’ หนุนหอการค้าไทย-จีน เป็นเจ้าภาพจัดประชุม นักธุรกิจชาวจีนโลกในไทย 24-26 มิ.ย. 2566 ตั้งเป้าหมายช่วยสร้างเม็ดเงินลงทุนเข้าไทยไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท เผยสถิติการค้าจีนคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย
นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการ หอการค้าไทย-จีน เปิดเผยว่า หอการค้าไทย-จีน จะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก (World Chinese Entrepreneurs Convention-WCEC) ครั้งที่ 16 ขึ้นระหว่างวันที่ 24-26 มิ.ย. 2566 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สร้างเวทีใหม่เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของนักธุรกิจชาวจีนทั่วโลก และร่วมกันหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทางธุรกิจแบบพหุภาคี เพื่อเปิดยุคใหม่ในการดำเนินธุรกิจและการลงทุนระหว่างไทยกับประเทศต่างๆ หลังจากเศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
“ไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียนและเป็นประเทศที่มีนักธุรกิจชาวจีนอาศัยอยู่มากที่สุดราว 10 ล้านคน มีการทำการค้า การลงทุน ในไทยด้วยรากฐานที่แข็งแกร่ง ซึ่งขณะนี้นักธุรกิจชาวจีนต้องการออกมาลงทุนในต่างประเทศอย่างมากหลังจากการลงทุนชะลอมา 3 ปีในช่วงโควิด ซึ่งไทยก็เป็นเป้าหมายแรกที่จีนเลือกมาลงทุน คาดว่าการจัดประชุมครั้งนี้จะมีนักธุรกิจชาวจีนและตัวแทนจากองค์กรธุรกิจ 50 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมราว 4,000 คน ทำให้เกิดเม็ดเงินลงทุนในไทยไม่ต่ำกว่า 4-5 หมื่นล้านบาท ช่วยฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี”
สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมายที่นักธุรกิจจีนสนใจเข้ามาขยายการลงทุนในไทย เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) อุตสาหกรรมแบตเตอรี่ไฟฟ้า อุตสาหกรรมโซลาร์เซลล์ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ รวมถึงอุตสาหกรรมไฮเทคโนโลยีอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันนโยบายส่งเสริมการค้าการลงทุนของไทยสามารถดึงดูดนักลงทุนจากจีนได้ดี อาทิ นโยบายไทยแลนด์ 4.0 เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) การเชื่อมโยงโอกาสจากการพัฒนาอ่าวกวางตุ้ง ฮ่องกงและมาเก๊า การพัฒนาเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไห่หนาน ระเบียงเศรษฐกิจปักกิ่ง เทียนสิน เหอเป่ย สามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีเกียงของจีน และข้อตกลง RCEP ด้วย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า เวทีนี้จะทำให้ความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนไทยจีนแน่นแฟ้นขึ้น เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย กระทรวงพาณิชย์จะสนับสนุนเต็มที่ เนื่องจากจีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย มีมูลค่าการค้าในปี 2565 ถึง 3.69 ล้านล้านบาท ขยายตัวจากปีก่อน 1.53% คิดเป็นสัดส่วน 17.9% ของการมูลค่าการค้าระหว่างประเทศทั้งหมดของไทย
นอกจากนี้ ไทยยังมีความตกลงทางการค้ากับจีนในทุกระดับทั้งการยกระดับเอฟทีเออาเซียน-จีน การบังคับใช้ความตกลง RCEP ความตกลงระดับมณฑล หรือมินิ เอฟทีเอ และมีกำหนดลงนามกับเมืองเสินเจิ้นในวันที่ 1 มี.ค.นี้ ส่วนเมืองยูนนานอยู่ระหว่างหารือรายละเอียด
