วิเคราะห์การเมือง : ไวรัส ชุมนุมกรุงเทพฯถึงเชียงใหม่อุบลราชธานี
ไวรัส ชุมนุมกรุงเทพฯถึงเชียงใหม่อุบลราชธานี : ต้องยอมรับว่า การชุมนุมทางการเมืองในยุค “โควิด” มีความยากลำบาก
เป็นความยากลำบากจากสภาพการแพร่ระบาดของไวรัส ทำให้ต้องจำกัด“ระยะห่าง” ทำให้ต้องหลีกเลี่ยงการรวมตัวกันเป็นจำนวนมากๆ
เพราะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัส
ยิ่งกว่านั้น นับแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา ได้มีการประกาศและบังคับใช้พ.ร.ก.บริหารราชการในสถาน การณ์ฉุกเฉินขึ้นมาเป็นเครื่องมือสำคัญ
ทั้งต่อ“ไวรัส”ทั้งต่อการควบคุมทาง“การเมือง”
จากเดือนมีนาคม เมษายน พฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคม
รัฐบาลต่ออายุการประกาศและบังคับใช้สถานการณ์ “ฉุกเฉิน” จนสภาพการณ์ของประเทศเหมือนกับจำลองสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้ามา
ทั้งๆที่การแพร่ระบาดของไวรัสเป็นปัจจัยจากภายนอก มิใช่ภายใน
เด่นชัดอย่างยิ่งว่า เป้าหมายของสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเป้าหมายในทาง “การเมือง” มิได้เป็น เป้าหมายในทาง “สาธารณสุข”
ตรงนี้แหละที่ทำให้การชุมนุมเป็นเรื่องยุ่งยากลำบาก
ต้องยอมรับว่า การชุมนุมเมื่อตอนค่ำวันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม เป็นการประเดิม
เพราะไม่เพียงแต่จะกลายเป็นเงื่อนไขให้คนออกจากบ้านเข้าร่วมการชุมนุมเป็น “เรือนพัน” และหลายพัน ทั้งๆที่ในห้วงที่ผ่านสามารถระดมได้เพียงเรือนสิบ เรือนร้อย
ยิ่งกว่านั้นยังเป็นการปักหลักบนถนนราชดำเนิน
มิได้ปักหลักอย่างธรรมดาสามัญ ตรงกันข้าม ปักหลักอย่างชนิดตั้งแต่ก่อนเวลา 17.00 น.กระทั่งเวลา 00.10 ของอีกวันหนึ่งอันเท่ากับดำเนินไปในลักษณะยืดเยื้อ
จึงเท่ากับเป็นบทก้าวแรกแห่งการชุมนุมใหญ่ในทางการเมือง
เชื่อได้เลยว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงจักต้องประชุมสกัดกั้นโดยด่วน
แม้ว่าในวันเดียวกันกับที่มีการชุมนุมบน ถนนราชดำเนิน ปรากฏประกาศจากเชียงใหม่ และอุบลราชธานีนัดชุมนุมในวันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม
แต่เชื่อว่ามาตรการ“สกัดขัดขวาง”จักต้องตามมาอย่างทันควัน