การขยายสาขา “โซลบาร์” ของพรรคก้าวไกลกำลังกลายเป็น “คำถาม” ทางการเมือง
ไม่ว่าจะที่เชียงใหม่ ไม่ว่าจะซอยอารีย์ พหลโยธิน ถามว่านี่เป็นทิศทางของพรรคก้าวไกล นี่เป็นความต้องการของพรรคก้าวไกล
เป็นเรื่องในทาง “การเมือง” หรือเป็นเรื่องในทาง “เศรษฐกิจ”
เด่นชัดยิ่งว่า ไม่ว่าจะเป็นสาขาที่สำนักงานใหญ่ ย่านรามคำแหง ไม่ว่าจะเป็นสาขาที่เชียงใหม่ กิจกรรมที่รองรับคือการสังสรรค์และเสวนา
หรือว่าการสังสรรค์ เสวนาจะเป็นแผนด้าน “การตลาด”
ต้องยอมรับว่า พรรคก้าวไกลแสดงตนว่าดำรงอยู่ได้ด้วย “เงินบริจาค” และ “สมาชิก”
การเร่งขยายจำนวนสมาชิกอย่างอึกทึกครึกโครมอย่างที่มีการตั้งเป้าหมายว่าจะทะยานไปสู่จำนวน 100,000 คน คือรูปธรรมรองรับ
มาพร้อมกับ “คำประกาศ” ว่า นี่คือ “รายได้” ของพรรค
แล้วรายได้จากจำนวนสมาชิกพรรค แล้วรายได้จากที่ได้ผ่านกระบวนการเสียภาษีจะกลายเป็น “งบประมาณ” ส่วนหนึ่งในการตั้ง “ร้านกาแฟ”
เชื่อได้เลยว่าจะกลายเป็นคำถามทั้งจากภายในและภายนอก
ยิ่งศึกษาเป้าหมายของพรรคก้าวไกลที่จำนวนสมาชิก 100,000 คนยิ่งท้าทาย
ไม่เพียงเป็นการท้าทายในเรื่องเงินรายได้จาก “ค่าสมาชิกพรรค” หากที่สำคัญเป็นอย่างมากยังมีการแยกแตกองค์ประกอบไปหลากหลาย
1 ตัวแทนประจำจังหวัด 1 ตัวแทนประจำอำเภอ
เท่ากับยืนยันว่าองค์ประกอบการบริหารพรรคในแต่ละสาขามิได้มาจาก “ส่วนกลาง” อย่างด้านเดียว หากแต่ขึ้นอยู่กับแต่ละจังหวัด แต่ละอำเภอ
ตรงนี้เองทำให้ “โซลบาร์” กลายเป็นการเมือง การตลาด
การตั้งพรรคก้าวไกลท้าทายอยู่แล้ว การขยาย “โซลบาร์” ยิ่งเป็นการท้าทาย
เท่ากับเป็นการสร้าง “ค่านิยม” ใหม่อันแตกต่างไปจากพรรคการเมืองเดิม ขณะเดียวกัน ยังเป็นการเปิดช่องทางในการลงทุนและหารายได้
เป็นการเติบใหญ่ไปพร้อมกับ “สุราก้าวหน้า”