โศกนาฏกรรมเรือโดยสารฟีนิกซ์ล่มมีผู้เสียชีวิตเกือบครึ่งร้อยที่จังหวัดภูเก็ต ทำให้ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญกลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง
แต่จังหวะของการพูดโดยบุคคลในรัฐบาลนั้นแสดงผลให้เห็นแล้วว่าเรื่องนี้ละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง
หนึ่งเพราะเหตุอยู่ในช่วงที่ญาติผู้สูญเสียและบาดเจ็บเศร้าโศกเสียใจมาก
สองเพราะเนื้อหาในเรื่องทัวร์ศูนย์เหรียญเป็นผลประโยชน์ทางธุรกิจที่มีข้อขัดแย้งมายาวนาน
หากนำเสนอปัญหาโดยไม่ระวังอาจทำให้ไทยถูกมองว่าโยนความรับผิดชอบ และจะกลายเป็นผลลบย้อนกลับมาสู่การท่องเที่ยวโดยรวม
จากการสำรวจของนักศึกษาปริญญาเอกชาวไทยประจำมหาวิทยาลัยปักกิ่ง พบว่ามีผู้ติดตามข่าวโศกนาฏกรรมเรือฟีนิกซ์กว่า 300 ล้านคนทางสื่อสังคมออนไลน์เว่ยป๋อ รายงานทางหนังสือพิมพ์ และโทรทัศน์
ผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้ว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเปิดเผยว่าบริษัททัวร์ของจีน 3 บริษัทกลุ่มเดียวกับที่ประสบเหตุ ขอยกเลิกที่พักและการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนในไทยเดือนกรกฎาคมออกไป
แม้ผลกระทบน่าจะจำกัดในระยะสั้น แต่หากประเด็นล่อแหลมด้านการแสดงความเห็นต่อทัวร์จีนและการจัดการต่อทัวร์ศูนย์เหรียญอยู่ในจังหวะไม่เหมาะสม ก็อาจเสี่ยงต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวไทยโดยรวม
ตัวเลขคาดการณ์นักท่องเที่ยวจีนในปี 2561 ว่าจะสูงเกิน 10 ล้านคนอาจติดขัดและไม่เป็นไปตามที่หวังไว้
การจัดการกับปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญที่ผิดจังหวะเคยเกิดขึ้นมาแล้วในช่วงท้ายปี 2559 ถึงต้นปี 2560 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดฮวบ
เนื่องจากบริษัทท่องเที่ยวทั้งในไทยและจีนไม่มั่นใจว่าธุรกิจของตนจะเข้าข่ายกระทำความผิดหรือไม่ จึงยกเลิกการนำนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยเพื่อตัดปัญหา
ส่วนเหตุเรือฟีนิกซ์ล่มครั้งนี้ รัฐบาลประกาศแล้วว่าจะดูแลผู้ประสบภัยและครอบครัวในเรื่องสิทธิประโยชน์ รวมถึงตั้งแผนพัฒนาระบบเรื่องการค้นหา การตรวจสอบ การใช้เรดาร์ติดตามเรือในทะเล ซึ่งคาดว่าต้องใช้งบประมาณสูง
แต่บทเรียนจากเหตุการณ์นี้ทำได้ ก่อนคือต้องระมัดระวังท่าที และ ควรแสดงความเห็นอกเห็นใจผู้ประสบเคราะห์ภัยก่อน
